ข้อเสนอแนะในเชิงวิธีการที่เหมาะสมในการจัดการปัญหาเกมคอมพิวเตอร์ในสังคมไทย[1]
เพื่อเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ฯพณฯ วัฒนา เมืองสุข วันที่ ๑๑
ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๘
โดย ที่ประชุมเสวนาเมื่อวันที่ ๗
ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๗ ณ
กระทรวงการพัฒนาสังคม
และความมั่นคงของมนุษย์
(๑)
ความเป็นมา
เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๘ ที่ผ่านมา
ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้จัดเวทีระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการปัญหาเด็กติดเกม
ซึ่งได้ก่อให้เกิดปัญหาในสังคมหลายประการ[1]
กล่าวคือในแง่ของการเลียนแบบพฤติกรรมในเนื้อหาของเกม
และปัญหาด้านการบริโภคเวลาที่ไม่เหมาะสมทั้งในมิติของการใช้เวลากับเกมมาเกินไป
และทั้งในมิติของการใช้เวลาในการเล่นเกมในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม
ปัญหาดังกล่าวไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แต่เพียงเฉพาะกับเด็ก
และเยาวชนเท่านั้น
แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ในสังคมไทย[2][3] ด้วยเหตุนี้เองจึงกลายเป็นปัญหา
เป็นที่มาของการระดมแนวคิดเพื่อคิดค้นถึงมาตรการและยุทธศาสตร์ในการจัดการที่มีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรมโดยวางอยู่บนพื้นฐานของความร่วมมือกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
หลังจากเวทีระดมความคิดเห็นดังกล่าว
ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้หารือกับเครือข่ายประชาคมผู้ที่ทำงานด้านความมั่นคงของมนุษย์ในสังคมไทยบนอินเทอร์เน็ต[2]เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะเชิงวิธีการเพื่อนำมาสู่ยุทธศาสตร์และแผนการทำงานในเชิงรูปธรรมเพื่อจัดการปัญหาเกมคอมพิวเตอร์ในสังคมไทย
---------------------------------------------------------------------------------------
ข้อเสนอแนะที่ ๑ :
การสร้างเกณฑ์ในการชี้วัดระดับความรุนแรงของเนื้อหาเกม
(Rating)
----------------------------------------------------------------------------------------
แนวคิดในการพิจารณา
-----------------------------------------
ปัญหาที่สำคัญประการแรกก็คือ
เกมที่ดีเป็นอย่างไร?เกมที่ไม่ดีเป็นอย่างไร? เกมอย่างไรเหมาะสมกับวัย
และอายุของผู้เล่นเกม
เป็นคำถามที่มีความสำคัญที่จะต้องได้รับการตอบอย่างจริงจัง
เพื่อทำให้การตอบคำถามดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพแนวคิดอันเป็นพื้นฐานของความรู้เกี่ยวกับระดับความมีคุณภาพของเนื้อหาของเกมที่เหมาะสมกับเด็ก
เยาวชน และความเหมาะสมสำหรับสังคมไทยเป็นอย่างไร
ยังคงไม่มีความชัดเจน
ประกอบกับเกณฑ์ในการชี้วัดระดับคุณภาพของเนื้อหาที่มีอยู่เป็นเพียงการนำเข้ามาซึ่งความรู้ที่ได้รับการพัฒนามาจากต่างประเทศ
ซึ่งอยู่ในทิศทางที่เป็นเพียงการกำหนดความรุนแรงเชิงเนื้อหาที่เหมาะสมสำหรับเพศ
อายุ ของผู้บริโภค โดยที่ไม่ได้ลงไปพิจารณาถึง เนื้อหาของ
เกมอย่างไรเหมาะสมกับมนุษย์ในแต่ละช่วงอายุ และแต่ละวัย
ดังนั้นเพื่อตอบโจทย์ที่ว่า
เกมที่ดีเป็นอย่างไร? เกมที่ไม่ดีเป็นอย่างไร?
จำเป็นที่จะต้องพัฒนาแนวคิดที่ว่าด้วย
เกณฑ์ในการชี้วัดระดับคุณภาพของเนื้อหาของเกมที่มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพของสังคมไทย
และในขณะเดียวกัน
เกณฑ์ในการชี้วัดระดับคุณภาพของเนื้อหาดังกล่าว
----------------------------------------------------------------------------------------
ข้อเสนอแนะของที่ประชุมฯ ต่อท่านรัฐมนตรีฯ
----------------------------------------------------------------------------------------
เพื่อให้การจัดการปัญหาเกมคอมพิวเตอร์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
จึงเสนอให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์สนับสนุนให้มีการจัดการที่ตัวเนื้อหาของเกม
โดยการสร้างความชัดเจนให้กับ
“แนวคิดการจัดระดับคุณภาพของเนื้อหาของเกม”
หรือ การจัดเรตติ้ง
โดยการศึกษาและพัฒนาองค์ความรู้ในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง
เพื่อให้เกิดความชัดเจนด้านแนวคิดของการชี้วัดคุณภาพของเนื้อหาในเกมที่เหมาะสมสำหรับมนุษย์ในสังคมไทย
ตลอดจน
“การจัดระดับคุณภาพของเนื้อหาของเกมที่มีอยู่ในสังคมไทย”
โดยการจัดตั้ง
“องค์กร”
กลางที่มีความหลากหลายทั้งจากภาครัฐ ภาควิชาการ (สายจิตวิทยา
สายสังคมศาสตร์ สายนิติศาสตร์ สายนิเทศศาสตร์ สายเศรษฐศาสตร์)
ภาคประชาชน (กลุ่มเด็ก เยาวชน ครอบครัว ครู และองค์กรพัฒนาเอกชน
เป็นต้น) ภาคธุรกิจ (ธุรกิจผู้นำเข้าเกม ธุรกิจอินเทอร์เน็ตคาเฟ่
ธุรกิจนิตยสารเกม เป็นต้น) ภาคสื่อมวลชน
----------------------------------------------------------------------------------------
ข้อเสนอแนะเชิงวิธีการเพื่อตอบสนองต่อ
แนวคิดในการจัดการ ต่อท่านรัฐมนตรีฯ ----------------------------------------------------------------------------------------
เสนอให้ทางกระทรวงฯจัดเวทีเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับเกณฑ์ในการชี้วัดระดับคุณภาพเนื้อหาของเกมคอมพิวเตอร์
รวมกันในกลุ่ม ภาคธุรกิจ ด้านเกมทั้งโดยตรงและเกี่ยวเนื่อง รวมทั้ง
ผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ตเพื่อสังคม ในกลุ่มวิชาการด้านต่างๆ
(จิตวิทยา นิติศาสตร์ สังคมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ ) ในกลุ่มภาคประชาชน
(ทั้งกลุ่มเด็ก เยาวชน ครอบครัว และองค์กรพัฒนาเอกชน)
ในกลุ่มภาคราชการ (ทั้งสายวัฒนธรรม พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
หน่วยงานทางด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ)
เพื่อสร้างความชัดเจนและเป็นเอกภาพด้านเกณฑ์ในการชี้วัดคุณภาพเนื้อหาของเกม
----------------------------------------------------------------------------------------
ข้อเสนอแนะที่ ๒ :
การสร้างประมวลจริยธรรม (Code of
Conduct)
ในกลุ่มผู้ประกอบการภาคธุรกิจ
----------------------------------------------------------------------------------------แนวคิดในการพิจารณา
-----------------------------------------
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า กลไกที่สำคัญในการจัดการปัญหาเกมคอมพิวเตอร์ ก็คือ
ผู้ประกอบการเกมคอมพิวเตอร์
ซึ่งจากธุรกิจเกมคอมพิวเตอร์ทำให้เกิดการประกอบการโดยตรงและการประกอบการที่เกี่ยวเนื่อง[4] อย่างน้อย ๗ กลุ่มธุรกิจ
(๑) ธุรกิจให้บริการและดูแลระบบออนไลน์ (๒) ธุรกิจให้บริการ
server อันเป็นที่ตั้งของเกมออนไลน์ (๓)
ธุรกิจเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเกมคอมพิวเตอร์ ตัวอย่าง เช่น
ในปัจจุบันมีการทำวารสารหรือนิตยสารเกี่ยวกับเกมคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะเจาะจง
นอกจากนั้นในทุกหนังสือพิมพ์รายวัน จะมีคอลัมน์เกี่ยวเกมคอมพิวเตอร์
อาทิ เดลินิวส์ ผู้จัดการ (๔) ธุรกิจจัดจำหน่ายเกมคอมพิวเตอร์ (๕)
ธุรกิจค้าปลีกเกมคอมพิวเตอร์ (๖) ธุรกิจอินเทอร์เน็ตคาเฟ่
(Internet Café) ซึ่งให้บริการเกมคอมพิวเตอร์
และ (๗)
ธุรกิจคุ้มครองการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอันเกี่ยวกับเกมคอมพิวเตอร์
ดังนั้นเพื่อให้มาตรการในการจัดการถูกจัดทำขึ้นและได้รับการรับรองอย่างจริงจังในกลุ่มภาคธุรกิจการผลักดันให้เกิดการรวมตัวกันของภาคธุรกิจและจัดทำข้อปฏิบัติร่วมกันระหว่างภาคธุรกิจโดยวางอยู่บนพื้นฐานของ
“ความรับผิดชอบต่อสังคม”
จะทำให้กลไกในการจัดการในกลุ่มภาคธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโดยตรงหรือธุรกิจเกี่ยวเนื่อง
เป็นไปได้อย่างแท้จริง
----------------------------------------------------------------------------------------
ข้อเสนอแนะของที่ประชุมฯ ต่อท่านรัฐมนตรีฯ
----------------------------------------------------------------------------------------
เพื่อให้การจัดการที่กลุ่มผู้ประกอบการเกมอยู่ในสภาวะที่ได้รับการยอมรับและบังคับใช้จากภาคธุรกิจอย่างจริงจัง
จึงเสนอให้ภาครัฐโดยกระทรวงพัฒนาการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์สนับสนุนให้ภาคธุรกิจจัดทำ
“ประมวลจริยธรรม”
ทั้งในแง่ของประมวลจริยธรรมของกลุ่มธุรกิจแต่ละกลุ่ม
รวมทั้ง ประมวลจริยธรรมระหว่างกลุ่มร่วมกัน
เพื่อให้เกิดเป็นประเพณีปฏิบัติในลักษณะของความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจเกมคอมพิวเตอร์
ในทิศทางเดียวกันและเป็นเอกภาพ
อันจะนำไปสู่ข้อบังคับในกลุ่มภาคธุรกิจเพื่อควบคุมการประกอบการระหว่างกันเองในกลุ่ม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้นำเข้าเกมคอมพิวเตอร์
กลุ่มอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ กลุ่มนิตยสารเกมคอมพิวเตอร์
ที่จะช่วยเป็นผู้สนับสนุนให้เกิดวัฒนธรรมที่ดีในการเล่มเกมคอมพิวเตอร์ในสังคมไทย
----------------------------------------------------------------------------------------
ข้อเสนอแนะเชิงวิธีการเพื่อตอบสนองต่อ
แนวคิดในการจัดการ ต่อท่านรัฐมนตรีฯ ----------------------------------------------------------------------------------------
เสนอให้ทางกระทรวงฯจัดเวทีวิชาการเพื่อระดมแนวคิดเกี่ยวกับ
การสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมในกลุ่มภาคธุรกิจ
เพื่อแปลงสภาพมาสู่ประมวลจริยธรรม โดยเฉพาะในกลุ่ม
ภาคธุรกิจทั้งธุรกิจโดยตรงและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง รวมทั้ง
ในกลุ่มสื่อมวลชน
----------------------------------------------------------------------------------------
ข้อเสนอแนะที่ ๓ :
เร่งการจดทะเบียนร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ และร้านเกมคาเฟ่
(Registration)
และการกำหนดให้เจ้าพนักงานผู้ตรวจประกอบด้วยสัดส่วนของภาควิชาการ
ภาคธุรกิจและภาคประชาชน----------------------------------------------------------------------------------------แนวคิดในการพิจารณา
-----------------------------------------
นอกจากการสนับสนุนให้เกิดการสร้างประมวลจริยธรรมในกลุ่มภาคธุรกิจเกมคอมพิวเตอร์
และประมวลจริยธรรมระหว่างกลุ่มภาคธุรกิจเกมคอมพิวเตอร์แล้ว
มาตรการในการจัดการปัญหาที่แหล่งของการบริโภคเกมของมนุษย์ในสังคมไทยก็เป็นอีกข้อต่อหนึ่งที่มีความสำคัญ
ในปัจจุบัน ถึงแม้การขออนุญาตประกอบการ[5]ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่
และร้านเกม(ออนไลน์)คาเฟ่
ซึ่งต้องจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์นั้น แต่ในทางข้อเท็จจริง
การขออนุญาตประกอบการดังกล่าวไม่ได้เอื้อต่อการกำกับดูแลในเชิงเนื้อหาของการประกอบการ
เพราะกฎหมายฉบับดังกล่าวเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการพาณิชย์และระบบทะเบียนทางการค้าเท่านั้น
ในขณะที่
การขออนุญาตในการประกอบกิจการอินเทอร์เน็ตคาเฟ่
และร้านเกม(ออนไลน์)คาเฟ่ นั้นไม่ได้อยู่ในบังคับของ
พ.ร.บ.ควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ.๒๕๓๐ ทำให้การตรวจตรา
หรือการกำกับดูแลคุณภาพของร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ และร้านเกมคาเฟ่
ไม่สามารถกระทำได้
ดังนั้น
เพื่อการจัดการปัญหาที่แหล่งของการเข้าถึงเกมของผู้บริโภคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
จำเป็นต้องอาศัยกลไกจากภาครัฐในการเข้าไปสร้างระเบียบในการประกอบการร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่
และร้านเกมคาเฟ่
ในรูปแบบการขออนุญาตในการประกอบการที่สามารถเข้าไปตรวจสอบคุณภาพของการประกอบการธุรกิจอินเทอร์เน็ตคาเฟ่
และร้านเกมคาเฟ่ได้
นอกจากนั้นแล้วเพื่อสนับสนุนกลไกในการจัดการโดยภาคธุรกิจเกมคอมพิวเตอร์
การให้เจ้าหน้าที่ในการตรวจตรา โดยอาศัยอำนาจ ตาม
พระราชบัญญัติฉบับนี้
ประกอบด้วยองค์กรหรือตัวแทนจากภาคธุรกิจด้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่
เป็นแนวคิดที่จะช่วยสนับสนุนให้เกิดพลังของประมวลจริยธรรมในกลุ่มผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี
---------------------------------------------------------------------------------------
ข้อเสนอแนะของที่ประชุมฯ ต่อท่านรัฐมนตรีฯ
----------------------------------------------------------------------------------------
ซึ่งโดยผลดังกล่าวทำให้กระทรวงมหาดไทยได้แก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยจัดทำประกาศกระทรวงเพื่อกำหนดให้
อุปกรณ์ฮารด์ดิสก์
เป็นหนึ่งในวัสดุเทปและโทรทัศน์เพื่อให้ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่
และร้านเกมคาเฟ่ ตกอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์
พ.ศ.๒๕๓๐ ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการ จึงเสนอให้
กระทรวงฯ ผลักดันให้ประกาศกระทรวง ฯ
ฉบับนี้มีผลใช้บังคับโดยไม่ชักช้า
เพื่อนำมาสู่การจดทะเบียนเพื่อการกำกับดูแลด้านคุณภาพของการประกอบการร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่
และในส่วนของเจ้าหน้าที่ในการตรวจตราทั้งด้านเนื้อหา ด้านเทคโนโลยี
ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ในการประกอบการร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่
ซึ่งโดยผลของประกาศกระทรวงมหาดไทยได้แต่งตั้งผู้แทนจากกระทรวงต่างๆเป็นเจ้าพนักงานผู้ตรวจในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร
กล่าวคือ ให้กระทรวงวัฒนธรรมเป็นผู้ตรวจตราด้านเนื้อหา
และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นผู้ตรวจด้านเทคโนโลยี
นั้น เป็นการเน้นที่เจ้าพนักงานที่มาจากเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้น
ซึ่งไม่ได้วางอยู่บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของสังคม
ดังนั้นเพื่อทำให้เกิดพลังของการกำกับดูแลกันเองของสังคม
โดยเฉพาะในกลุ่มภาคธุรกิจ จึงเสนอให้ กระทรวงฯ
ผลักดันให้เจ้าพนักงานผู้ตรวจนั้นประกอบขึ้นจากกระบวนการมีส่วนร่วมของสังคม
โดย เพิ่มสัดส่วนของภาควิชาการ ภาคประชาชน
และภาคธุรกิจเพื่อให้เกิดพลังของการตรวจตรามากยิ่งขึ้นทั้งยังเป็นการสนับสนุนกลไกในการควบคุมกันเองของลุ่มภาคธุรกิจด้วย
ทั้งนี้เพื่อให้คลอบคลุมในทุกภูมิภาคของประเทศไทย จึงเสนอให้
กระทรวงฯผลักดันให้เกิดรูปแบบการทำงานของเจ้าพนักงานผู้ตรวจที่เป็นระบบ
เพื่อให้การตรวจตรานั้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพในทุกพื้นที่ของสังคมไทย
----------------------------------------------------------------------------------------
ข้อเสนอแนะเชิงวิธีการเพื่อตอบสนองต่อ
แนวคิดในการจัดการ ต่อท่านรัฐมนตรีฯ ----------------------------------------------------------------------------------------
เสนอให้ทางกระทรวงฯจัดเวทีวิชาการเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ด้านจำนวนประชากรร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่
และแสวงหาแนวทางในการจดทะเบียนร้านเกมคาเฟ่ และร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่
ในกลุ่ม ภาคราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับ ภาควิชาการด้านกฎหมาย
ด้านประชากร ภาคประชาชน และภาคธุรกิจเจ้าของเกม
ผู้นำเข้าเกมคอมพิวเตอร์ ภาคธุรกิจร้านเกมคาเฟ่
และร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่
----------------------------------------------------------------------------------------
ข้อเสนอแนะที่ ๔ :
การเพิ่มประสิทธิภาพในการปราบปรามเกมที่มีเนื้อหาขัดต่อกฎหมายตามแหล่งขายสินค้า----------------------------------------------------------------------------------------
แนวคิดในการพิจารณา
-----------------------------------------
ปัญหาเกมคอมพิวเตอร์ที่สังคมไทยกำลังเผชิญอยู่นั้น
นอกจากปัญหาด้านการบริโภคเวลาแล้ว
ปัญหาเรื่องเนื้อหาของเกมที่ไม่เหมาะสมกับสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในกลุ่มเกมที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศที่ไม่เหมาะสม เช่น
การลวนลามทางเพศ การข่มขืน การถ้ำมอง
หรือเกมที่มีเนื้อหาของการส่งเสริมการกระทำการอันผิดกฎหมาย เช่น
เกมในลักษณะชิงทรัพย์ ลักทรัพย์ ปล้นทรัพย์
ล้วนแต่เป็นเกมที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อพฤติกรรมของผู้เล่นเกม
ในขณะเดียวกัน เกมต่างๆเหล่านี้ถูกวางขายในตลาดหรือศูนย์การค้าที่เด็ก
เยาวชนและมนุษย์ในสังคมไทยสามารถหาซื้อได้อย่างง่ายดาย
เป็นสาเหตุที่สำคัญที่ทำให้เกมคอมพิวเตอร์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมระบาดแพร่หลายในสังคม
ซึ่งปัญหาดังกล่าวนี้ส่วนหนึ่งนั้นเกิดจากกระบวนการในการบังคับใช้กฎหมายในด้านการปราบปราม
จับกุมผู้ขายสินค้าตามแหล่งขายในบริเวณต่างๆที่ยังไม่มีประสิทธิภาพ
----------------------------------------------------------------------------------------
ข้อเสนอแนะของที่ประชุมฯ ต่อท่านรัฐมนตรีฯ
----------------------------------------------------------------------------------------
เพื่อป้องกันมิให้มีการแพร่ระบาดของเกมคอมพิวเตอร์ที่มีเนื้อหาดังกล่าว
การปราบปรามที่แหล่งของการขายสินค้าอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
เป็นอีกมาตรการหนึ่งที่จะทำให้เกมคอมพิวเตอร์ที่มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมถูกลดปริมาณลง
ดังนั้น
เพื่อทำให้มาตรการในการปราบปรามที่แหล่งของการขายสินค้ามีประสิทธิภาพ
จึงเสนอต่อกระทรวงฯ
ที่จะสนับสนุนและติดตามผลการทำงานในการเฝ้าระวังสถานที่เสี่ยงและดำเนินการทางกฎหมายอย่างจริงจังในการปราบปรามเกมประเภทดังกล่าว
----------------------------------------------------------------------------------------
ข้อเสนอแนะเชิงวิธีการเพื่อตอบสนองต่อ
แนวคิดในการจัดการ ต่อท่านรัฐมนตรีฯ ----------------------------------------------------------------------------------------
เสนอให้ทางกระทรวงฯจัดเวทีวิชาการเพื่อประเมินสถานการณ์และตรวจสอบผลการดำเนินงานและสร้างความเข้าใจร่วมกันอันจะนำไปสู่การปราบปรามเกมที่มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม
ในกลุ่ม ภาคราชการที่เกี่ยวข้อง
(โดยเฉพาะในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ) ร่วมกับภาคประชาชน
และภาคธุรกิจเกม
ภาคธุรกิจในส่วนของเจ้าของพื้นที่ที่เป็นแหล่งเสี่ยงภัยต่อการระบาดของเกมที่มีเนื้อหาดังกล่าว
----------------------------------------------------------------------------------------
ข้อเสนอแนะที่ ๖ :
มาตรการในการพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคลในเกม----------------------------------------------------------------------------------------
แนวคิดในการพิจารณา
-----------------------------------------
ปรากฏข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการบริโภคเวลาของผู้ที่ลงทะเบียนและเข้ามาเล่นเกม
ในเกมคอมพิวเตอร์ทั้งแบบออนไลน์และแบบออฟไลน์ที่ได้กลายเป็นปัญหาที่สำคัญของมนุษย์ในฐานะผู้บริโภคเกมคอมพิวเตอร์
ประกอบกับ
ปัญหาการไม่สามารถยืนยันตัวบุคคลผู้เล่นเกมคอมพิวเตอร์ในระบบเกมออนไลน์
ได้กลายเป็นปัญหาที่มีความสืบเนื่องกันในเรื่องของการพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคลที่เข้ามาเล่นเกมคอมพิวเตอร์
ในอันที่จะสร้างระบบการควบคุมปริมาณการใช้เวลาและการค้นหาตัวผู้เล่นเกมที่มีการกระทำที่ละเมิดต่อกฎหมาย
หลังจากที่มีมาตรการในการลงทะเบียนโดยการใช้หมายเลขบัตรประชาชนของผู้ที่จะสมัครเล่นเกมและเชื่อมต่อไปยังฐานข้อมูลของสำนักทะเบียนราษฎร์
กระทรวงมหาดไทย เพื่อใช้เป็นข้อมูลของผู้เล่นเกม
ซึ่งถูกริเริ่มขึ้นโดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
พบว่าช่องโหว่ของการจัดทำมาตรการปรากฏใน ๒ ลักษณะกล่าวคือ
ลักษณะที่
๑
เกิดกระบวนการสวมสิทธิหมายเลขบัตรประชาชนของผู้อื่นโดยกลุ่มผู้เล่นเกมและผู้ประกอบธุรกิจให้บริการหมายเลขบัตรประชาชนของผู้อื่น
ลักษณะที่
๒
เกิดการกระทำในลักษณะที่นำไปสู่ความผิดกฎหมาย เช่น
การหมิ่นประมาทผ่านเกม เป็นต้น
ซึ่งมีสาเหตุจากการไม่สามารถพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคลที่แท้จริงได้
และหากมีการกระทำความผิดเกิดขึ้น
เมื่อมีการสืบค้นไปยังผู้เล่นเกมปรากฏว่ามีการสวมสิทธิของเจ้าของหมายเลขบัตรประชาชนอื่น
ทำให้ไม่อาจดำเนินการอย่างใดกับผู้กระทำที่แท้จริงได้
ซึ่งปัญหาทั้งสองประการนี้ เกิดขึ้นอันเนื่องมาจาก
กระบวนการในการพิสูจน์ตัวตนที่แท้จริงของเจ้าของหมายเลขบัตรประชาชน
ในกระบวนการจดทะเบียนเพื่อเข้าสู่เกมในครั้งแรก (Register) นั้น
เป็นเพียงการจดแจ้งตัวตนของผู้เล่นเกมที่ไม่มีกระบวนการในการตรวจสอบไปยังเจ้าของหมายเลขบัตรที่แท้จริงประกอบกับ
การไม่มีการรายงานผลการจดแจ้งดังกล่าวไปยังเจ้าของหมายเลขบัตรที่แท้จริงทำให้ผู้เล่นเกมที่สวมสิทธิอาศัยช่องทางดังกล่าวละเมิดต่อการกำกับดูแลด้านระยะเวลาในการเล่นเกม
และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในเกมได้
----------------------------------------------------------------------------------------
ข้อเสนอแนะของที่ประชุมฯ ต่อท่านรัฐมนตรีฯ
----------------------------------------------------------------------------------------
เพื่อให้กระบวนการในการพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคลเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
กระบวนการในการตรวจสอบฐานข้อมูลเพื่อพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคลทั้งในแง่ของเจ้าของหมายเลขบัตรที่แท้จริง
และการรายงานผลการเข้าใช้บริการในเกมคอมพิวเตอร์ไปยังเจ้าของหมายเลขบัตรที่ใช้ในการลงทะเบียน
จึงเสนอให้กระทรวงการฯ ผลักดัน
มาตรการในการติดตามและยืนยันตัวบุคคล
ซึ่งหมายถึงกระบวนการในการลงทะเบียนโดยใช้หมายเลขบัตรเดียวสำหรับทุกเกมเพื่อสร้างระบบ
๑ บุคคล ๑ ตัวตนในการเข้าสู่เกม ประกอบกับ
กระบวนการในการระบบประเมินสถิติของการเข้าเล่นเกมและรายงานผลไปยังเจ้าของหมายเลขบัตร
เพื่อป้องกันกระบวนการในการสวมสิทธิโดยผู้อื่น
----------------------------------------------------------------------------------------
ข้อเสนอแนะเชิงวิธีการเพื่อตอบสนองต่อ
แนวคิดในการจัดการ ต่อท่านรัฐมนตรีฯ ----------------------------------------------------------------------------------------
เสนอให้ทางกระทรวงฯจัดเวทีเชิงปฏิบัติการเพื่อระดมแนวคิดและแสวงหาความเป็นไปได้ในการเชื่อมต่อระบบการพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคลและการรายงานผลเชิงสถิติของการเข้าเล่นเกม
ในกลุ่มภาคราชการ (กระทรวงมหาดไทย)กลุ่มภาคธุรกิจเกม
(รวมทั้งธุรกิจแม่ข่ายเกม หรือ Game Server) ธุรกิจอินเทอร์เน็ตคาเฟ่
รวมทั้ง เครือข่ายภาคประชาชน
----------------------------------------------------------------------------------------
ข้อเสนอแนะที่ ๗ :
การสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมของสังคมในรูปแบบของเครือข่ายเฝ้าระวัง----------------------------------------------------------------------------------------
แนวคิดในการพิจารณา
-----------------------------------------
ทุกวันนี้ โครงสร้างความคิดในการจัดปัญหาด้านต่างๆ
โดยเฉพาะด้านเกมคอมพิวเตอร์ วางอยู่บนพื้นฐานที่ว่า เด็ก และเยาวชน
เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหา และเป็นผู้ก่อปัญหา แต่ในทางตรงกันข้าม
กระบวนการในการสร้างการมีส่วนร่วมให้กับมนุษย์ในสังคมไทย
ตลอดจนการความเข้มแข็งให้กับประชาสังคมมักไม่ได้รับการเอาใจใส่ในเชิงรูปธรรมอย่างแท้จริง
การสร้างนวัตกรรมใหม่เชิงความคิดที่ผลักดันแนวคิดให้สังคมเป็นเจ้าของเรื่องที่เป็นปัญหา
และสนับสนุนกลไกในการแก้ไขปัญหาโดยให้เจ้าของปัญหาหรือเจ้าของเรื่องเป็นส่วนสำคัญของกลไกในการจัดการเป็นสิ่งที่จะต้องได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่
การสนับสนุนแนวคิดดังกล่าวให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้าง
ความเข้มแข็งให้กับสังคม รวมทั้ง
ยกระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเข้าเป็นกลไกที่สำคัญในการจัดการต่อปัญหาที่จะเข้ามาเฝ้าระวัง
ตรวจตรา กำกับดูแลสังคมโดยสังคม
จะช่วยให้ปัญหาได้รับการเอาใจใส่อย่างจริงจังโดยประชาชนในพื้นที่
ทั้งยังเป็นการอุดช่องโหว่ของความไม่ต่อเนื่องของการจัดการได้อีกทางหนึ่ง
----------------------------------------------------------------------------------------
ข้อเสนอแนะของที่ประชุมฯ ต่อท่านรัฐมนตรีฯ
----------------------------------------------------------------------------------------
เพื่อสนับสนุนกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาสังคม
เพื่อให้เกิดนวัตกรรมทางความคิดในเรื่องของสังคมเป็นเจ้าของปัญหาร่วมกันและร่วมจัดการปัญหาอย่างเป็นเครือข่ายเอกภาพ
จึงเสนอให้กระทรวงฯผลักดันให้เกิดเครือข่ายเฝ้าระวังที่เป็นเอกภาพ
โดยเน้นการทำงานของการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนเป็นหลัก
----------------------------------------------------------------------------------------
ข้อเสนอแนะเชิงวิธีการเพื่อตอบสนองต่อ
แนวคิดในการจัดการ ต่อท่านรัฐมนตรีฯ ---------------------------------------------------------------------------------------
เสนอให้ทางกระทรวงฯจัดเวทีเชิงปฎิบัติการเพื่อระดมแนวคิดและจัดทำยุทธศาสตร์การสร้างเครือข่ายเข้มแข็งในรูปของเครือข่ายเฝ้าระวัง
ซึ่งวางอยู่บนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมของประชาสังคม ในกลุ่มภาคประชาชน
ภาคธุรกิจเกมคอมพิวเตอร์ ร่วมกับ
การทำงานด้านเครือข่ายที่มีอยู่ในส่วนต่างๆของภาครัฐ เช่น Cyber
Inspector Team ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
เครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ของกระทรวงวัฒนธรรม เป็นต้น
เพื่อสร้างความชัดเจนและเป็นเอกภาพของเครือข่ายเฝ้าระวังความมั่นคงของมนุษย์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
----------------------------------------------------------------------------------------
ข้อเสนอแนะที่ ๘ :
การสร้างความรู้และความเข้าใจให้กับสังคมในรูปแบบกิจกรรมโรงเรียนเคลื่อนที่และการสื่อสารสาธารณะ
----------------------------------------------------------------------------------------
แนวคิดในการพิจารณา
-----------------------------------------
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า วันนี้
ปัญหาเกมคอมพิวเตอร์เป็นปรากฏการณ์ที่ปรากฏอยู่แต่เฉพาะในกลุ่มเด็ก
เยาวชนและมนุษย์ในสังคมไทยเฉพาะกลุ่มเท่านั้น และบุคคลเหล่านี้
อาจจะไม่มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับปัญหาและประโยชน์จากเกมคอมพิวเตอร์
ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้กลุ่มเด็ก เยาวชน
และผู้ใหญ่บางส่วนตกอยู่ภายใต้การครอบงำของเกมคอมพิวเตอร์
ในขณะที่บุคคลในส่วนต่างๆของสังคมยังคงขาดความรู้
ความเข้าใจถึงพิษภัยของเกมคอมพิวเตอร์
จึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับกระบวนการเฝ้าระวังบุตรหลาน หรือ
ในกรณีที่ไม่เข้าใจถึงผลกระทบเชิงสร้างสรรค์ที่ได้จากเกมคอมพิวเตอร์ทำให้หลายฝ่ายจำกัดการเล่มเกมของบุตรหลานอย่างสุดโต่ง
แนวทางในการจัดการปัญหาเกมคอมพิวเตอร์
ไม่อาจหลีกเลี่ยงกระบวนการในการสร้างความรู้
ความเข้าใจเกี่ยวกับเกมคอมพิวเตอร์อย่างถูกต้อง
โดยไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแต่กลุ่มเฉพาะบางกลุ่มที่มีความสนใจเล่มเกมเท่านั้น
แต่ต้องมีความหลากหลาย ทั้งมิติของเพศ อายุ การศึกษา วัฒนธรรม
และครอบคลุมในทุกพื้นที่ของสังคม
นอกจากนั้นแล้ว
กระบวนการในการสื่อสารความรู้ทั้งในแง่ของการสื่อสารด้านสถานการณ์
การสื่อสารเชิงความรู้ การสื่อสารเชิงกระตุ้นเตือนภัย
และการสื่อสารเชิงขับเคลื่อนการจัดการ
รวมทั้งการสื่อสารเชิงอ้างอิงให้กับสังคมกลุ่มต่างๆ
เป็นกระบวนการที่จะทำให้สังคมได้รับรู้และเข้าใจถึงสถานการณ์และสามารถเป็นพลังในการขับเคลื่อนได้เป็นอย่างดี
----------------------------------------------------------------------------------------
ข้อเสนอแนะของที่ประชุมฯ ต่อท่านรัฐมนตรีฯ
----------------------------------------------------------------------------------------
เพื่อให้เกิดกระบวนการในการเสริมสร้างความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับเกมคอมพิวเตอร์
และสร้างความเข้าใจร่วมกันระหว่างครอบครัวและคนในสังคม
อันเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของปัญหาโดยการสร้างรากฐานของภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็งให้กับสังคม
จึงเสนอต่อกระทรวงฯในการผลักดันให้เกิดกิจกรรมการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในรูปแบบของโรงเรียนเคลื่อนที่เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเกมคอมพิวเตอร์ในด้านต่างๆ
นอกจากนั้นแล้ว
กระทรวงยังต้องผลักดันให้เกิดการสื่อสารสาธารณะทั้งในเชิงการสื่อสารเชิงสร้างสรรค์และการสื่อสารเชิงเตือนภัยเฝ้าระวัง
เป็นประจำและต่อเนื่องในประเด็นด้านเกมคอมพิวเตอร์
เพื่อให้สังคมได้รับรู้สถานการณ์ ความรู้ในการจัดการที่เหมาะสม
----------------------------------------------------------------------------------------
ข้อเสนอแนะเชิงวิธีการเพื่อตอบสนองต่อ
แนวคิดในการจัดการ ต่อท่านรัฐมนตรีฯ ----------------------------------------------------------------------------------------
เสนอให้ทางกระทรวงฯ
จัดเวทีเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดสร้างหลักสูตรการให้ความรู้
ความเข้าใจกับสังคมโดยอาศัยองค์ความรู้จากเครือข่ายๆในการทำงานในรูปแบบของโรงเรียนเคลื่อนที่
โดยเน้นการให้ความรู้ ความเข้าใจในมิติต่างๆ เช่น มิติของเทคโนโลยี
มิติของของศีลธรรม วัฒนธรรม มิติของความรู้ในด้านต่างๆที่เกี่ยวข้อง
โดยลงไปให้ความรู้
ความเข้าใจที่เน้นการในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ
นอกจากนั้นแล้ว เสนอให้ทางกระทรวงจัดเวทีวิชาการเพื่อ
ระดมแนวคิดและจัดทำพื้นที่ในการสื่อสารสาธารณะด้านความมั่งคงของมนุษย์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เป็นรูปธรรม
รวมทั้งการจัดทำยุทธศาสตร์ในการสื่อสารในกลุ่มสื่อมวลชนทุกแขนงเพื่อสร้างตัวตนในการสื่อสารที่เป็นเอกภาพ