ครั้งแรกกับการเขียนบล็อกของเอ๋ค่ะ ตื่นเต้นนิดๆ คิดในใจว่า "จะเขียนอะไรดีน๊า" ก็นั่งนึกได้ว่าเรารู้จักกับG2K กับการหาข้อมูลเรื่องเมฆเพื่อมาประกอบงาน แล้วโชคชะตาก็พัดพาเข้ามาสู่บล็อก "ชายผู้หลงรักมวลเมฆของพี่ชิว" ก็เลยสมัครเป็นสมาชิก G2K ซะเลย ตามมาด้วยขอพี่ชิวสมัครเป็นสมาชิกชมรมคนรักมวลเมฆ (ใช่สุดๆ ชมรมนี้) ตามต่อด้วยการเป็นสมาชิกชมรมนักพับกระดาษไทยของพี่ปอม งานนี้เรียกได้ว่า ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว...อิ อิ
เมื่อพูดถึงท้องฟ้า สำหรับเอ๋นะคะ เอ๋จะนึกถึงตา "ตาไม่ได้ไปไหน ตาอยู่บนฟ้า" แม่บอกกับเอ๋อย่างนั้น คำพูดที่ใช้หลอกเด็กโง่ๆ ให้หยุดร้องไห้ ในวันที่เด็กคนนั้นร้องไห้กอดร่างที่ไร้ลมหายใจของตาอันเป็นที่รักในห้อง ICU แต่เรายอมที่จะเป็นเด็กโง่ๆ และก็จะยอมเป็นคนโง่ตลอดชีวิต เพราะตาของเราไม่ได้ตายจากเราไปไหน "ตาอยู่บนฟ้า"ต่างหาก......
นี่เป็นสาเหตุที่เอ๋รักท้องฟ้า หากจะกล่าวถึงตา....ตาใบ ชื่อไทยๆสั้นๆ ที่หลานน้อยเรียกอยู่วันละหลายร้อยรอบ อะไรก็ตา หิวก็ตา หาอะไรไม่เจอก็ตา อะไรอะไรก็ตา
เอ๋กะตาสนิทกันมาก ตาเลี้ยงเอ๋กับน้องมาตั้งแต่เด็ก ตามใจทุกอย่าง ตาเป็นคนยิ้มเก่ง อารมณ์ดี ตาไม่เคยหน้านิ่วคิ้วขมวด ตาไม่เคยบ่นว่าเหนื่อย ไม่เคยบ่นว่าเจ็บ แม้ว่าหมอหรือพยาบาลจะเจาะนั่นเจาะนี่ให้ตา ตาก็ไม่เคยบ่น มีแต่รอยยิ้มเท่านั้นที่เราเห็นบนใบหน้าตา
ตอนเด็กๆ ตาจะทำของเล่นให้เอ๋กะน้องเล่น มีทั้งปลาตะเพียนสาน นกสาน ตะกร้อสาน ตาทำเป็นหมด ยังมีดาบไม้ ไว้ให้หลานตัวป่วนสองคนได้ฟาดฟันกันเล่น เอ๋เป็นนางงามสาวไทยของตาค่ะ ทำไมหน่ะเหรอคะ
ตาจะถามว่า"โตขึ้นอยากเป็นอะไร" พี่จ๊ะเอ๋จะตอบว่า "เป็นนางงามสาวไทย" ส่วนน้องฟุตบอลจะตอบว่า "บองอยากเปงคนขับรถแม็คโคร" น้องบอลพูดไม่ค่อยชัดค่ะ เอ๋ก็เลยเป็นนางงามสาวไทยของตา
ตาเป็นโรคหอบหืด และถุงลมโป่งพอง เพราะตาสูบบุหรี่มาตั้งแต่หนุ่มๆ ตารักษามาเป็นสิบๆปีได้ค่ะ แต่ก็ไม่หาย ตารักหลานๆมากแม้ว่าจะป่วยขนาดไหนก็มานั่งรอหลาน ให้หลานกลับจากเรียนพิเศษประมาณทุ่มกว่าๆ เห็นหน้าหลานแล้วค่อยเบาใจ ไปนอนได้ เป็นอย่างนี้ตลอดค่ะ
ตอนเด็กๆ เสาร์อาทิตย์เราจะเอาการบ้านไปทำที่แคร่หลังบ้าน ทำเสร็จก็นอนดูเมฆกัน กับตา ตาเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเอ๋ค่ะ
เป็นเทวดา เพราะเสกทุกสิ่งที่อยากได้ให้ได้หมด "อย่าร้องๆ เดี๋ยวตาหาให้"
เป็นหมอ เพราะเวลาหกล้มตาจะเป่าแผลให้แล้วบอกว่า "ไม่เจ็บหรอก พู่... หายแล้ว คนเก่ง"
เป็นผ้าห่ม เพราะตาชอบกอดเรา กอดแน่นด้วย
เป็นผู้ช่วยชีวิต เวลาโดนแม่ตี ตาจะมาห้ามตลอด
เป็นม้า "ตาขี่หลัง....ขี่หลัง"
แต่ใช่ว่าเราก็ช่วยตานะ
เราเป็น หมอนวด นวดขาให้ตา "ข้างละบาทนะตา" "ตา....พอได้ยัง"
เราเป็น คนถอนหงอกให้ตา ถอนหนวดให้ด้วย "เส้นละบาทนะตา"
เราเป็นยาดมให้ตาด้วยนะ "ตาบอกเหนื่อยๆหอมเราแล้ว...... ชื่นนนนน ใจ"
นี่คือวันอันแสนสุข แต่ตาต้องไปอยู่บนฟ้าเพราะร่างกายที่ไม่พร้อม อาการหอบหืดของตาเริ่มเกิดบ่อยขึ้น เอ๋ต้องไปเฝ้าตาทุกเดือนที่โรงพยาบาล จากนั้นก็อาทิตย์เว้นอาทิตย์ แล้วตาก็ได้เข้า ICU แล้วตาก็ไปอยู่บนฟ้า เอ๋ร้องไห้ทุกครั้งที่เห็นพยาบาลดูดเสมหะให้ตา ดูตาทรมาณมาก เด็กคนนึงร้องไห้ดึงพยาบาลออกมาบอกว่า "อย่าทำตา ตาเจ็บ อย่าทำตา" ..............
"ตาไม่ได้ไปไหน ตาอยู่บนฟ้า " คำพูดของแม่ที่ติดหูฉันอยู่ตลอดเวลา
วันนี้ทุกครั้งที่ฉันมองฟ้า ฉันจะคิดถึงตา "ตาจ๋า ตาอยู่บนฟ้าสบายดีมั้ย" "ตาวันนี้เอาพะโล้ของโปรดตาไปวัดนะ ตาได้กินยัง กินแล้วอย่าลืมกินยานะตา"
เวลาเอ๋เหนื่อย ทุกข์ใจ ร้องไห้ วันนี้ไม่มีตาคอยเช็ดน้ำตาให้ ไม่มีตาคอยกอดให้กำลังใจ
เอ๋อยากจะบอกว่า วันนี้คนที่คุณรักอาจอยู่ใกล้ๆ แต่คุณได้ให้ความรักกับท่านเหล่านั้นหรือยัง อย่ารอให้ท่านจากไปก่อนถึงมาคิดถึงเลยนะคะ การเอาปิ่นโตไปวัด หรือทำบุญสร้างวิหารไปให้ ก็ไม่รู้ว่าท่านจะได้รับจริงหรือไม่ แต่เราสามารถทำได้ในวันนี้ วินาทีนี้ อย่างน้อยสิ่งที่เราได้เห็นคือรอยยิ้ม ยิ้มที่สุขใจ นี่คือสิ่งที่เราเห็นได้จริงๆ ไม่ต้องอายนะคะ สำหรับการกอด หรือหอมแก้ม เพราะคุณจะเสียดายถ้าไม่ได้ทำซะตั้งแต่ตอนนี้
วันนี้หลานตาสองคนโตแล้ว คนนึงเป็นข้าราชการครูนะตา เป็นนักเรียนทุนกระทรวงวิทย์เชียวนะ ส่วนน้องบอลจบนายร้อยตำรวจแล้ว จะรับกระบี่เดือนมีนาคม ปีหน้าจ่ะตา
แม้ว่าจะไม่มีตา แต่วันนี้ทุกครั้งที่เหนื่อยล้า เอ๋จะยิ้มให้กับท้องฟ้า เหมือนยิ้มให้ตา "ตายิ้มให้หลานด้วยนะตา ขอพลังให้หลานต่อสู้บนโลกที่วุ่นวายใบนี้ต่อไป" และนี่ก็คือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เอ๋รักท้องฟ้าค่ะ
ขอบคุณค่ะคุณเพ็ญศรี(นก)ที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
เอ๋เชื่อว่าทุกคน จะมีบุคคลคนนึงที่เป็นพลังให้เรา เวลาเหนื่อยล้า
อย่าลืมมอบความรัก ให้บุคคลเหล่านั้นนะคะ
ผมก็คิดถึงคุณตาของผมครับ ท่านจากไปนานเเล้ว ..
บันทึกของคุณเอ๋ น่ารักมากๆเลยครับ :)
ขอบคุณค่ะพี่เอก เอ๋ก็เข้าไปอ่านบล็อกพี่เอกบ่อยๆ
จำได้รืเปล่าคะ เอ๋แนะนำให้ไปเที่ยววัดไร่ขิงไงคะพี่
เอ๋รู้สึกว่าต้องทำความดี เพราะมีตาคอยมองอยู่
แม้ใครจะไม่เห็น อย่างน้อยก็มีตาที่เห็นค่ะ
สวัสดีจ่ะเอ๋ ^^
บันทึกอย่างนี้พี่ต้องกลับไปอ่านเงียบๆที่บ้านครับ...ต้องซึ้งแน่ๆเลย
เดี๋ยวพี่เดย์จะแวะมาใหม่เด้อ กลับบ้านก่อนจ๊า ;)
เอ๋...พี่อ่านแล้วจ่ะ ^^
ซึ้งจังเลย...เพิ่งรู้ว่าเหตุผลที่รักท้องฟ้ามากขึ้นเพราะคุณตาเอ๋นั่งปั้นเมฆให้ดูทุกวัน ทุกวัน ^_^
บันทึกแรกเขียนได้ดีนะครับ เขียนมาเถอะน้อง อย่างน้อยก็เก็บไว้อ่านยามคิดถึงเรื่องนั้นๆจ๊า ;)
รูปที่มีค่าทั้ง 3 รูปแบ่งเก็บไว้ดีดีเด้อ เยี่ยมไปเลย ^^ พี่ต้องไปค้นดูรูปเก่าๆซะแล้ว 555
ขอบคุณมากนะจ๊ะน้องเอ๋ ;)
พี่เดย์....
ขอบคุณค่ะที่เข้ามาอ่านและเมนท์บันทึกแรกให้เอ๋
อย่าลืมร่อนการ์ดงานแต่งมาสารคามนะค๊ะ
ไม่ร่อนมาโกรธแน่เลย จะหยอดกระปุกทุกวันไว้ใส่ซองให้พี่เดย์ค่ะ
เป็นบันทึกถึงคนที่รักที่ให้ความรู้สึกอ่อนหวาน ลึกซึ้ง กินใจมากจ๊ะ รู้สึกดี จริงๆน๊ะ