|
มาเบิ่ง...แว้วจ้า
วันนี้เรียนในหนังสือ
แล้วเข้ามาอ่านทำให้เข้าใจมากขึ้น
ขอบคุณอาจารย์มากคะ
ขอบคุณสำหรับเนื้อหา....good
กราบขอบพระคุนจารย์อีกครั้งครับผม สำหรับ 20 คะแนน ภาษาไทย ใน มิดเทอมเทส ของกระผม ละเอียดแบบนี้ กระผมคงได้เต็มชัวร์ครับ กราบขอบพระคุนอีกครั้งครับ หวัดดีปีใหม่ จารย์ ด้วยนะฮะ
สวัสดีนะจ๊ะ นู๋จอร์จจี้
เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสอบวัดผลปลายภาคด้วยล่ะ อย่ามัวร่าเริงใจอยู่
คือหนูกำลังทำโครงงานเรื่องนี้อยู่พอดีค่ะหนูอยากทราบเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์เนื้อเรื่องไม่ย่อนะค่ะคืออาจารย์หนูเข้มมากๆ
หนูเข้ามาชมแล้วก้ดีมากๆค่ะอาจารย์ค่ะได้โปรดนะค่ะช่วยตอบหนูหน่อยนะค่ะตอบทางอีเมลนะค่ะหนูขอร้อง
สวัสดีค่ะ parawee
เนื้อเรื่องทั้งหมดของวรรณคดีคำฉันท์เรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์นั้นครูได้บันทึกลงใน "ศึกษาวรรณคดี สามัคคีเภทคำฉันท์" แล้วค่ะ ทั้งที่เป็นคำฉันท์ และที่เป็นบทถอดความเป็นร้อยแก้ว มีทั้งหมด ๔๐ บันทึก ลองอ่านในบันทึกทั้งหมดนะคะ
กลุ้มมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยคะคุณครูให้เเปลสามัคคีเภทคำฉันท์ในหนังสือวรรณคดีวิจักษ์ ม.6มีหลายหน้าคะ ช่วยหน่อยนะคะ
สวัสดีค่ะ กวินธิดา
งานที่คุณครูสั่งคงไม่ยากจนเกินความสามารถของนักเรียนหรอกค่ะ ใจเย็น ๆ ไม่ต้องกลุ้มใจขนาดนั้นนะคะ
ช่วยถอดความให้หน่อย
๏ พร้อมเบญจางคประดิษฐ์สฤษติตษฎี
กายจิตร์วจีไตร ทวาร
๏ กราบไหว้คุณพระสุคตอนาวรณญาณ
ยอดศาสดาจารย์ มุนี
๏ อีกคุณสุนทรธรรมะคัมภิรวิธี
พุทธ์พจน์ประชุมตรี ปิฎก
๏ ทั้งคุณสงฆะพิสุทธิศาสนะดิลก
สัมพุทธสาวก นิกร
๏ นอบน้อมคุณพระคเณศวิเศษศิลปธร
เวทางคบวร กะวี
๏ เปนเจ้าแห่งวิทยาวราภรณะศรี
สุนทรสุวาท วิธาน
๏ สรวมชีพหัดถประณามประนตพระบทมาลย์
บพิตระสมภาร พระองค์
๏ สมเด็จอรรคะมหาจุฑาธิปะพระมง
กุฎเกล้าพิศิฏฐ์พงศ์ กระษัตริย์
๏ บานบำเทองพรััเถลิงถวัลยอธิปัติ์
ที่หกดลกรัฏฐ์ ประชา
๏ ชุ่มชื่นมณฑละภูมิ์นิพัทธ์วัฒนะปรา
กฎเพียงพระรามา วตาร
๏ ปางไวกูณฐประกอบประกาศกิติอุฬาร
เลิศมากประมาณคือ พระองค์
๏ สรวมศรีไตรรตนาธิคุณอดุละมง
คลเหตุพิเศษทรง ประสิทธิ์
๏ เสริมซึ่งโสตถิบวรพระพรจตรพิธ
ขอพึงสฤษดิ์นิจ นิรันดร์
๏ จุ่งไท้เทียรฆพระชนมะดลลุสตพรรษ์
ภัทร์เพิ่มพระศุขวรร ณพล
๏ อันใดสรรพะกะลีและนีรผละมล
ทินไกลยุคลบาท ลออง
๏ เพียรเพ็ญูในมนะข้าพเจ้านิยมะจอง
เจตน์คิดลิขิตปอง ประพันธ์
๏ สามัคคีภิทะโทษนิทานะคติธรรม์
โดยพิศดารอัน แสดง
๏ เชิงบรรพ์ฉันทะลเบงชเลงพจนะแปลง
บรรจงพจีแจง ประโยชน์
๏ บูชาศาสนะพากย์สุภาสิตะวิโรจน์
เริงปรีดิปราโมทย์ ประมวญ
๏ ใดบทบาทผิวะคลาศและผิดนิติขบวน
โกวิทกะวีควร อภัย
๒
วสันตดิดก ฉันท์ ๑๔
๏ โบราณะกาลบรมะขัต ติยรัชชเกรียงไกร
ท้าวทรงพระนามะอภิไธ ยะอชาตะศัตรู
๏ ครอบครองมไหยศุริยเอก อภิเศกประสิทธิ์ภูว์
อาณาปวัตติบริบู รณะบรรพประเพณี
๏ แว่นแคว้นมคธนคระรา ชคฤห์ราชบูรี
ทรงราชวัตร์วิธะทวี ทศธรรมะจรรยา
๏ แหล่งหล้ามหาอุดมะลาภ คุณะภาพพระเมตตา
แผ่เพียงชนกกรุณะอา ทระบุตร์ธิดาตน
๏ โปร่งปรีดิปราศอริริปู ภพะภูมิมณฑล
เปรมโสตถิ์ประสบวัฒนะผล ศุขะต้วยพระเดชา
๏ อำพนพระมณฑิรพระราช ะนิวาศน์วโรฬาร์
อัพกันตร์ก็ไพจิตระพา หิรภาคก็พึงชม
๏ เช่นหลั่งชลอดุสิตะเท วสถานพิมานพรหม
มารังสฤษดิ์ศิริอุตม ผิวะเทียบก็เทียมทัน
๏ สามยอดยะเยี่ยมยละระยับ วะวะวับสลับพรรณ์
ช่อฟ้าตระการกละจะหยัน จะเยาะยั่วทิฆัมพร
๏ บราลีพิลาศศุภจรูญู นพศูลประกัศร
หางหงส์ผจงพิจิตระงอน ดุจะกวักนภาลัย
๏ รอบด้านตระหง่านจตุรมุข พิศะสุกอร่ามใส
กาญจน์แกมมณีกนกะไพ ฑุริย์พร่างพะแพรวพราย
๏ บานบัฏพระบัญชระสลัก ฉลุลักษณ์เฉลาลาย
เพดาลก็ดารกะประกาย ระกะดาดประดิษฐ์ดี
๏ เพ่งภาพตลอดตละผนัง ก็มะลังมะเลืองสี
ยิ่งดูก็เด่นประดุจะมี ชิวะแม้นกมลครอง
๏ ภาพเทพพนมวิจิตระยิ่ง นรสิงหะลำยอง
ครุฑยุตภุชงค์วิยะผยอง และเผยอขยับผัน
๏ ลวดลายระบายระบุกระหนาบ กระแหนภาพกระหนกพัน
แผ่เกี่ยวผกาบุษปะวัล ลิและวางระหว่างเนือง
๏ ภายใต้เศวตร์ฉัตระรัต นะจรัศจรูญเรือง
ตั้งราชอาศนะประเทีอง วรมัญจบรรจ์ฐรณ์
๏ ห้อยย้อยประทีปอุบะประทิน รศกลิ่นชเอมอร
อาบอบตระหลบนิจะขจร ดุจะทิพย์สุมาลัย
๏ คัณนาอเนกคณะอนงค์ ศิริทรงเจริญูใจ
สรรพางคะพรรณพิศะประไพ กละพิมพอับศร
๏ เรียงรายจรูงรมยะบาท บริจาริกากร
ปันเวรพิทักษ์อธิบวร ทิวรัตติ์นิวัทธ์วาร
๏ โดยรอบมหานคระเล่ หะสิเนรุปราการ
มั่นคงอรินทระจะราญ ก็ระย่อและท้อหนี
๏ แถวถัมภะโดรณะสล้าง ระยะนางจรัลมี
ชลคูประตูวรบุรี ณ ระหว่างพระภารา
๏ เรียงป้อมและปักธวัชะราย ยละค่ายก็แน่นหนา
เสาธงสถิตยะธุชะมา ลุตะโบกสบัดปลาย
๏ หอรบอรินทรจะรอ รณะท้อหทัยหมาย
มุ่งยุทธะย่อมชิวะมลาย ก็ประลาศน์มิอาจทาน
๏ พร้อมพรั่งพฤนท์พหละรณ พยุห์พลทหารหาญ
อำมาตย์และราชบริวาร วุฒิเสวกากร
๏ เนืองแน่นขนัดอัศวะพา หนะชาติกุญชร
ชาญศึกสมรรถะณสมร ชยะเพิกริปูภินท์
๏ ความศุขก็แสนบรมศุข และสนุกสนานยิน
ดีในผไทรัฐะบุริน ทรรัตน์จรูญเรือง
๏ กลางวันอนันตคณนา นรคลาคระไลเนือง
กลางคืนมหุศวะประเทือง ดุริย์ศัพทะดีดสี
๏ บรรสานผสมสรนินาท พิณะพาทย์และดนตรี
แซ่โสตร์สดับเสนาะฤดี อุระเพลินเจริญใจ
๏ เมืองท้าวและเทียบพิพยโลก ภพะแหล่งสุราลัย
เมืองท้าวและสมบุรณไพ บุละทุกประการมาน
๓
ฉบงง ๑๖
๏ อันอรรคปุโรหิตอาจารย์ พราหมณ์นามวัสสการ
ฉลาดเฉลียวเชี่ยวชิน
๏ กลเวทโกวิทจิตร์จินต์่ ประจักษ์แจ้งศิล
ปศาสตร์ก็จบสบสรรพ์
๏ เปนมหาอำมาตย์ราชวัล ลภใครไป่ทัน
ฤเทียมฤเทียบเปรียบปาน
๏ สมัยหนึ่งจึ่งจอมภูมิบาล ท้าวจินตนาการ
จะแผ่อำนาจอาณา
๏ ให้ราบปราบปรามเพื่อปรา กฎไผทไพศา
ละจวบจังหวัดวัชชี
๏ หวังพระหฤทัยใคร่กรี ฑาทัพโยธี
กระทำประยุทธ์เอาไชย
๏ ครั้นทรงดำริห์ตริไป กลับยั้งหยั่งใน
มนัศมิแน่แปรเกรง
๏ หากหักจักได้ไชยเชวง ฤๅแพ้แลเลง
พะว้าพะวังลังเล
๏ ไป่อาจสามารถทุ่มเท ทำศึกรวนเร
พระราชหทัยโช่เบา
๏ ต้วยเหตุพระองค์ทรงเสา วนะศัพท์สำเนา
ระเบงระบีอลือชา
๏ ว่ากษัตริย์วัชชีบรรดา ครองรัชชสีมา
กเษตร์ประเทศทุกองค์
๏ อปริหานิยะธรรมธำรง ทั้งนั้นมั่นคง
มิโกรธมิกร้าวร้าวฉาน
๏ เพึ่อธรรมดำเนินเจริญูการณ์ ใช่เหตุแห่งหานิ์
เจ็ดข้อจะคัดจัดไข
๏ หนึ่ง.เมื่อมีราชกิจใด ปฤกษากันไป
บวายบหน่ายชุมนุม
๏ สอง.ย่อมพร้อมเลิกพร้อมประชุม พร้อมพรักพรรคคุม
ประกอบณกิจควรทำ
๏ สาม.นั้นถือมั่นในสัม มะจารีตจำ
ประพฤติ์มิตัดดัดแปลง
๏ สี่.ใครเปนใหญชะจง โอวาทศาสน์แสดง
ก็ยอมและน้อมบูชา
๏ ห้า.นั้นอันบุตริ์ภิริยา ผู้อื่นก็หา
ประทุษฐ์กระทำข่มเหง
๏ หก.ที่เจดีย์ชนเกรง เคารพยำเยง
ก็เส้นก็บวงสรวงพลี
๏ เจ็ด.พระอรหันต์อันมี โนรัฏฐ์วัชชี
ก็คุ้มก็ครองปัองกัน
๏ พร้อมสรรพสัปดพิธนิจนิรันตร์ สามัคคีธรรม์
ณหมู่กระษัตริย์ลิจฉวี
๏ อชาตศัตรูภูมี ทรงทราบโดยคดี
ดั่งนั้นก็ครั่นคร้ามขาม
๏ ศึกใหญ่หากจะพยายาม หาญหัก อาตาม
กำลังก็หนักนักหนา
๏ จำจักหักด้วยปัญญา รอก่อนผ่อนหา
อุบายทำลายมูลความ
๔
อุปชาติฉันท์ ๑๑
๏ บรมกระษัตริย์ปรา รภะการะปราบปราม
กับวัสสการพราหม ะณพฤฒิอาจารย์
๏ ปฤกษาอุบายดำ ริหะทำไฉนการ
จะสมนิยมภาร ธุระปราถนาเรา
๏ สมัคคิ์สมานมิตร์ คณะลิจฉวีเขา
มั่นคงจะคิดเอา ชนะด้วยประการใด
๏ ท่านวัสสการผู้ ทิชะครูฉลาดใน
อุบายคนึงไป ก็ประจักษ์กระจ่างจินตน์
๏ เสนอสนองทูล กละมูลยุบลรบิล
แต่องคภูมิน ทอชาตศัตรู
๏ ตกลงและทรงนัด แนะกะวัสสการครู
ตริเพื่อเผต็จมู ละสมัคคไมตรี
๏ สมัยเสด็จว่า กิจะราชะการี
เสนาธิบดี มุขะมวญูอมาตย์ผอง
๏ โดยศักดิฐานัน คระชั้นอนันต์นอง
ณท้องพระโรงทอง ขณะเฝ้าพระบทมาลย์
๏ สดับปกาสิต วระกิจวโรงการ
จึ่งราชะสมภาร พจนาตถ์ประภาษไป
๏ เราคิดจะใคร่ยก พยุห์พลสกลไกร
ประชุมประชิดไชย รณะรัฏฐวัชชี
๏ ฉนี้แหละเสนา ปติฐานะมนตรี
คอใครจะใคร่มี พจะคานประการไร
๏ ฝ่ายพราหมณ์ก็กราบทูล อติศูริย์ณทันใด
นยาธิบายไข วจนัตถทัดทาน
๏ พระราชปรารม ภนิยมมิควรการณ์
ขอองคภูบาล พิเคราะห์เหตุจงดี
๏ อันซึ่งจะกรีฑา พละทัพและไปดี
กระษัตริย์ณวัชชี ชนบทสมหมาย
๏ มิแผกมิผิดพา กยะข้าพระองค์ทาย
ไป่ได้สดวกตาย และจะแพ้เพราะไพรี
๏ พวกลิจฉวีขัต ติยรัชชวัชชี
ละองค์ละองค์มี มิตระพันธะมั่นคง
๏ และแสนจะสามารถ พละอาจกระทำสง
ครามยุทธยรรยง มิระย่อมิเยงใคร
๏ เราน้อยจะย่อยยับ ดละอัปราไชย
ฉนี้แหละแน่ใน มนะข้าพยากรณ์
๏ และอีกประการเล่า ผิวะเขาสิคิดคลอน
แคลนพาลระราญรอน ทุจริตผจญเรา
๏ เป็นก่อนกระนั้นชอบ ทุษะตอบก็ทำเนา
มิมีคดีเอา ธุระเห็นบเปนธรรม
๏ และโลกจะล่วงวา ทะติว่าพระองค์จำ
นงเจตนาดำ ริห์วิรุธประทุษฐ์เขา
๏ กระนี้พระจุ่งปรา รภะภาระแบ่งเบา
เพื่อกล่อมถนอมเกลา มิตระภาพสงบงาม
๕
อีทิสังฉันท์ ๒๐
๏ ภูบดินทร์สตับอุปายะตาม
ณวาทะวัสสการะพราหมณ์ และบังอาจ
๏ เกินประมาณเพราะการละเมิดประมาท
มิควรจะขัตบรมราช ชโยงการ
๏ ท้าวก็ทรงแสดงพระองคะปาน
ประหนึ่งพระราชหทัยธดาล พิโรธจึง
๏ ผันพระกายกระทีบพระบาทและอึง
พระศัพทะสีหนาทะพึง สยองภัย
๏ เอออุเหม่นะมึงชิช่างกระไร
ทุทาษสถุลฉนี้ไฉน ก็มาเปน
๏ ศึกบถึงและมึงก็ยังมิเห็น
จะน้อยจะมากจะยากจะเย็น ประการใด
๏ อวดฉลาดและคาดแถลงเพราะใจ
ขยาดขยั้นมิทันอะไร ก็หมิ่นกู
๏ เล่หะกากะหวาดขมังธนู
บห่อนจะเห็นธวัชริปู ก็ท้อถอย
๏ พ่ายเพราะไภยะตัวสิกลัวจะพลอย
พินาศชิพิตร์ประดิษฐ์ประดอย ประเด็นขัด
๏ กูก็เอกอุดมบรมกษัตริย์
วิจาระถ้วนบควรจะทัด จะทานคำ
๏ นี่ก็เห็นเพราะเปนอมาตย์กระทำ
พระราชการะมาฉนำ สมัยนาน
๏ ใช่กระนั้นละไซร้จะให้ประหาร
ชิวาตม์และหัวจะเสียบประจาน ณทันที
๏ นัคราภิบาลสภาบดี
และราชบุรุษฮะเฮ้ยจะรี จะรอไย
๏ ฉุดกระชากกะลีอปรีชะไป
บพักจะต้องกะรุณอะไร กะคนคด
๏ ลงพระราชอาชะญา ณ บท
พระอัยการพิพากษะกฎ และโกนผม
๏ ไล่มิให้สถิตย์ณคามนิคม
นครมหาสิมานิยม บุรีใด
๏ มันสมรรคสวามิภักดิใน
อมิตตะลิจฉวีก็ไป บห้ามกัน
๏ เสร็จประกาศพระราชธูระสรรพ์
เสด็จนิวัติศุขาภิมัณฑ์ มหาคาร
๖
อินทรวิเชียร ฉันท์ ๑๑
๏ ควรสุดจะสมเพช จิตระเวทนาการ
ที่ท่านพฤฒาจารย์ พะกระทบประสบทัณฑ์
๏ โตยเต็มกตัญูญู กตเวทิตาอัน
ใหญ่ยิ่งและยากครัน ขรการณ์จะทานทน
๏ ยินดีนิยมเพี่อ สละเนี้อและเลีอดตน
ยอมรับอดูรผล จะพะพ้องพะพานกาย
๏ ไป่เห็นกะเจ็บแสบ ชีวะแทบจะทำลาย
มอบสัตย์สมรรถหมาย มนะมั่นมิหวั่นไหว
๏ หวังการ ณ แผ่นดิน จะสดวกเพราะฉันใต
ให้กิจในฤทธิ์ไป บมิเลี่ยงฤเบี่ยงเบือน
๏ เหลือที่จะมีใคร ทมะในหทัยเหมีอน
กัดฟันบฟั่นเฟีอน สติอดสกดเอา
๏ พวกราชมัลล์โดย พละโบยมิใช่เบา
สุดหัตถะแห่งเขา ขณะหวดสิพึงกลัว
๏ ยลเนื้อก็เนื้อเต้น พิศะเส้นก็สั่นรัว
ทั่วร่างและทั้งตัว ก็ระริกระริวไป
๏ แลหลังก็หลั่งโล หิตโอ้เลอะลามไหล
พ่งผาดอนาถใจ ตละล้วนระรอยหวาย
๏ เนี่องนับอเนกแนว ระยะแถวตลอดลาย
เฆี่ยนครบสยบกาย ศิระพับพะกับคา
๏ ทั้งหลายสหายมิต ตะอมัจจะเสนา
ทัศน์เหตุทุเรศสา หศะแสนสลดใจ
๏ สุดที่จะกลั้นโท มนะโศกะอาลัย
ถ้วนหน้ามิว่าใคร ขณะเห็นบเว้นคน
๏ แก้ไขและได้คืน สติฟื้นประทังตน
จึ่งราชบุรุษกล ปกกรณ์ก็โกนหัว
๏ เสื่อมศีศะผมเผ้า พิศะเปล่าประจานตัว
เปนเยี่ยงประหยัดกลัว ผิมะลักจะหลาบจำ
๏ เสร็จอาชะญาทัณฑ์ กิจะพลันประกาศทำ
ปัพพาชนีย์กรรม ดุจะราชโองการ
๏ บรรดาประชาชน ขณะยลทิชาจารย์
สุดแสนจะสงสาร สรแซ่ประสาสันทน์
๏ บางคนกมลอ่อน อุระข้อนพิไรพรรณน์
บางเหล่าวิสัยอัน กุธะเกลียดก็เสียดสี
๏ บางพวกก็เปนกลาง ยละข้างพิจารณ์ดี
บางหมู่กะรุณมี ณหทัยก็ให้ของ
๏ พราหมณ์วัสสการเส กละเล่หะทำนอง
ท่าทางละอย่างผอง นระสิ้นบสงสัย
๏ ออกจากนครรา ชะคฤห์รีบจรัลไป
สู่เทศสถานไกล บุระรัฏฐัวัชชี