ฉันน่ะ ลูกชาวนา


         วันหยุดนี้กลับบ้านมาค่ะ  กลับทุกทีก็ดูเหมือนไม่มีอะไร เพราะใช้ชีวิตปกติแบบนี้ทุกครั้ง  แต่กลับคราวนี้รู้สึกแปลก ๆ เพราะได้รับโทรศัพท์เพื่อนตอนเช้า คุยกันได้ซักสองนาที ก็เลยบอกว่าแค่นี้ก่อนนะ  จะรีบไปทำนา  เท่านั้นแหละปลายสายแสดงเสียงตกอกตกใจยกใหญ่ เพื่อนบอกแปลกใจ  ว่าทำไมต้องไปทำนา... โอ้แม่เจ้า ไม่มีเวลาอธิบายแล้ว เพราะแม่กับป้าติดเครื่องรถรอ ส่วนพ่อก็ออกไปตั้งแต่เช้า รอกินข้าวอยู่ที่ทุ่งนานู่นจ้า สายตะวันโด่งแปดโมงครึ่งแล้ว! เลยมาขอเล่าตรงนี้ละกันนะคะ...ก็ง่าย ๆ สั้น ๆ คือ ฉัน น่ะ ลูกชาวนา ตั้งแต่จำความได้ก็ต้องไปช่วย ถอนกล้า ดำนา เกี่ยวข้าวตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว จันทร์ถึงศุกร์ก็เรียน เสาร์อาทิตย์ก็เรียนพิเศษ แต่หลังเลิกเรียน ถ้าพระอาทิตย์ยังไม่ตกดินก็ต้องแวะลงท้องนาก่อนเข้าบ้าน  จนกระทั่งบัดเดี๋ยวนี้ที่ทุกครั้งที่กลับบ้านก็ยังต้องลงไปถอนกล้า ดำนา เหมือนทุกที!

   แต่พอมองกลับไป คนวัยเดียวกันตอนนี้ ก็หาคนทำนายากนะคะ อายุราว ๆ 24-25 ปี นี่ มีคนทำนาซักกี่คน เพราะอะไรกันหนา...เท่าที่นึกได้ ก็อาจเป็นเพราะระบบการศึกษาที่เปลี่ยนไปใช่หรือเปล่า สมัยนู๊นจำได้ว่าเรียนทันระบบที่หนึ่งปีเรียนสามเทอม และช่วงหยุดก็จะตรงกับช่วงฤดูทำนา แต่ตอนนี้ไม่ใช่อย่างนั้น กลายมาเป็นสองภาคการศึกษา ไม่มีช่วงหยุดตรงกับฤดูทำนาเลย แม่บอกว่าเด็กสมัยนี้มันสบาย ไม่ต้องทำนา แม่เป็นครูสอนโรงเรียนที่มันห่างเมือง รู้สึกได้เลยว่าเด็กสมัยนี้มันเปลี่ยนไป คุณธรรม จริยธรรม สามัญสำนึกหายหมด พ่อแม่อยู่นา ลูกดูทีวีอยู่บ้าน เอาแต่สนุกเข้าว่าอย่างเดียว พ่อแม่เขาก็หวังพึ่งให้ครูสั่งสอน แต่ว่าตั้งแต่เอาไม้เรียวออกจากมือครู ทุกอย่างมันก็ยาก เด็กมันหัวหมอในทางที่ผิด ๆ สอนอะไร  ว่าอะไร ก็อ้างสิทธิเด็ก!

     ระบบการศึกษาไทย ตอนนี้มันยังถูกทางอยู่อีกไหม ผลลัพธ์แสดงให้เห็นมากมาย เมื่อไหร่ผู้ใหญ่จะมองเห็นซักที?

     ประเทศไทยคนส่วนใหญ่อยู่ที่ไหนกันแน่  แค่กรุงเทพและเขตปริมณฑลเท่านั้นนะหรือ?

     ตอนนี้กสิกรยังแข็งขัน และเป็นกระดูกสันหลังของชาติอยู่รึเปล่า  หรือว่านโยบายต่าง ๆ กำลังจะผลักดันให้เราไปกินขนมปังแทนข้าว ?

      แล้วทำไมต้องวิ่งตามต่างชาติ ต่างวัฒนธรรมกันนักหนา ทำไมต้องเอากฎ เอานโยบายมากมายมาครอบจารีต มาบังคับความเป็นอยู่พื้นฐานจริง ๆ ของเรา?

      เวลาเขียนนโยบาย  คนเขียนได้เดินลงมาเหยียบดิน เดินดูวิถีกันจริง ๆ ไหม หรืออ่านแค่รายงาน แล้วนั่งเขียนในห้องแอร์?

      เฮ่อ...อนาคตข้างหน้าล่ะ  ใครจะทำนาให้กินข้าว

ข้าวเปลือกราคาตก คนทำนาตอนนี้ก็ทำแค่พอกินกันแล๊ว เพราะขายไปก็ขาดทุน ชาวนาล้มละลายมีมากมาย แล้วใครจะทนได้ล่ะคะ

    ฉันน่ะ ลูกชาวนา .... ตั้งแต่เกิดมายังไม่เห็นชาวนาคนไหนพออยู่พอกินเลย! อย่างน้อยก็ต้องเป็นหนี้ค่าปุ๋ยกับ ธกส ไม่ก็ล้มละลายติดหนี้แบบต้องขายที่ ใช้กันเลย!

 

ท่านผู้รู้ แนะนำลูกชาวนาอย่างดิฉันด้วยนะคะ

 

หมายเลขบันทึก: 282355เขียนเมื่อ 2 สิงหาคม 2009 12:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 08:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีค่ะ

  • ครูนกทานข้าวหมดทุกเม็ด....เพราะเห็นคุณค่าของชาวนา
  • "หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน" เป็นอาชีพที่ควรให้ความสำคัญ
  • ไม่มีความเห็นหรือคำแนะนำใดๆ ครูนกก็มีบรรพบุรุษทำนาเช่นกัน  สิ่งที่เราตอบแทนแผ่นดินเกิดเราได้คือเป็นคนดีในวิชาชีพของเรานะค่ะ

สวัสดีครับ

เด็กชาวนา มาเป็นกำลังใจให้ลูกชาวนาครับ

บันทึกนี้ประทับใจผมมากเลยครับ

และเห็นด้วยกับคำถามต่างๆที่เขียนนะครับ

(ลูกชาวนา)

  • ชอบบันทึกนี้ของคุณน้องวิไลวรรณมากเลยครับ
  • เขียนแบบปลดแอกตัวเองจังเลยนะ
  • มาให้กำลังใจ

ขอบคุณมากค่ะ

สำหรับทุก ๆ กำลังใจ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท