วันนี้เป็นวันหยุดงานของข้าราชการ ดิฉันเป็นลูกจ้างก็พลอยสบายไปกับเค้าด้วย วันนี้ดิฉันก็เดินทางกลับบ้านมาหาคุณแม่ คิดถึงแม่และบ้านมากเลย หลังจากนั่งทำงาน กลับมาจากที่ทำงานก็มานั่งทำการบ้านอีก วันๆก็อยู่แต่หน้าคอม จนวันนี้ดิฉันเริ่มปวดหลัง และปวดมาก ไม่รู้ว่าผู้อ่านจะเป็นเหมือนดิฉันบ้างไหม?
ก็เลยหาสาเหตุสำคัญจริงๆของโรคปวดหลัง ว่าสาเหตุหลักๆเป็นเพราะอะไร
จนได้มาพบกับหัวข้อที่ว่า "ปวดหลัง" โรคที่เริ่มคุกคามคนวัยทำงาน ดิฉันจึงคลิกเข้าไปอ่าน
สาเหตุของโรคปวดหลัง พญ. ทัศนีย์กล่าวว่า ส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมการนั่งนาน ๆ หรือนั่งผิดท่าเช่น นั่งหลังโก่ง นั่งบิด ๆ เนื่องจากการนั่งเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อกระดูกหลังมากที่สุด โดยเฉพาะนั่งนาน ๆ และโค้งงอผิดท่า บวกกับความตึงเครียด ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหลังเกิดการเกร็ง ยิ่งส่งผลให้ปวดหลังมากยิ่งขึ้น อาการปวดหลังแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือปวดหลังแบบเฉียบพลันอาการมักจะไม่เกิน 6 สัปดาห์ ถ้าอาการปวดมากกว่า 12 สัปดาห์เรียกปวดหลังเรื้อรัง อาการส่วนใหญ่รู้สึกปวดตรงกลางหลังส่วนล่าง ซึ่งอาจเกิดขึ้นเฉียบพลันหรือค่อยเป็นทีละน้อย อาการปวดอาจเป็นอยู่ตลอดเวลา หรือปวดเฉพาะในท่าบางท่า การไอ จาม หรือบิดตัว เอี้ยวตัวอาจทำให้รู้สึกปวดมากขึ้น
พญ.ทัศนีย์
แนะนำว่าการรักษาโรคปวดหลังจำเป็นต้องสังเกตว่ามีสาเหตุจากอะไร
ถ้าหากเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของเราก็ควรแก้ไขเสีย อาทิ
หากนอนหงาย ให้ใช้หมอนข้างใบใหญ่หนุนใต้โคนขาไว้
ซึ่งจะทำให้หลังเหยียดตรงราบกับที่นอนมากขึ้น ลดการปวดหลังจากการนอน
ผิดท่าได้ ส่วนท่านอนที่ดีที่สุดเพื่อลดการปวดหลังคือ นอน ตะแคง
ให้ขาล่าง เหยียดตรง ขางอ ตะโพกและเข่ากอดหมอนข้างเอาไว้
“นอกจากนี้การเปลี่ยนอิริยาบถเมื่อรู้สึกเมื่อยขณะทำงาน จะช่วยคลาย
กล้ามเนื้อได้พยายามเปลี่ยนท่านั่ง หรือ ลุกเดินเพื่อผ่อนคลาย ทุก 30
นาที ก็จะทำให้ผ่อนคลายการปวดหลังได้
อุปกรณ์การทำงานก็เป็นส่วนสำคัญในการป้องกันโรคปวดหลังเช่นกัน
โดยควรจะเลือกเก้าอี้ที่หมุนได้เพื่อป้องกันการบิดของเอว
มีที่พักของแขนขณะที่นั่งพัก ควรจะมีหมอนเล็ก ๆ รองบริเวณเอว
เป็นต้น”
ดิฉันคิดว่า บทความนี้คงมีประโยชน์กับท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ
เดี๋ยวดรีมจะเก็บมาฝากนะคะ