ได้พบคุณดังตฤณตัวจริงเสียงจริง


คุณดังตฤณบอกว่า ปัจจุบันสื่อการ์ตูนและสื่อต่างๆที่มีอยู่ เป็นเหมือนฟาร์มสร้างฆาตกรอยู่ทั่วโลก

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คุณบีเพื่อนกัลยาณมิตรที่แสนดี ที่ได้รู้จักกันจากการทำงานในวงการธุรกิจ ได้ชวนไปร่วมงานประกาศรางวัล ประกวดผลงานโครงการการ์ตูนคุณธรรม จัดโดยทีมงานในเครือสื่อนิตยสารออนไลน์ ธรรมะใกล้ตัว ที่มี คุณดังตฤณ ผู้แต่งหนังสือ เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน เป็นที่ปรึกษาและผู้จุดประกาย เอาเป็นว่างานนี้จุดประสงค์หลักคือเป็นการเปิดตัวเวบไซด์ใหม่ที่ชื่อว่าhttp://www.cartoondhamma.com/

 

งานนี้ได้เห็นเยาวชนไทยหลายคนได้มีโอกาสแสดงออกทางฝีมือการวาดการ์ตูนโดยการนำเอาความเข้าใจความรู้ธรรมะ มาจุดประกายความคิดออกมาในรูปแบบที่คนรุ่นใหม่สามารถสื่อถึงกันและกันได้ให้เข้ากับยุคสมัยและเหตุการณ์ปัจจุบัน งานนี้จัดกันเล็กๆ ที่มูลนิธิบ้านอารีย์ ซอยอารีย์ ใกล้ๆสะพานควาย  คนมาร่วมงานก็ไม่ได้มีจำนวนมากมายอะไร แต่ก็ดูอบอุ่นเพราะเหมือนการรวบรวมคนที่มีความตั้งใจดี่มาอยู่ด้วยกันเพื่อทำสิ่งที่ดีๆ ในฐานะผู้สังเกตุการณ์และผู้ติดตาม(และแอบขอหนังสือธรรมะฟรีติดมือมาจำนวนหนึ่ง)ของหนึ่งในผู้สนับสนุนโครงการคือคุณบีเพื่อนที่แสนดี ในฐานะผู้จัดการธุรกิจสินค้าลูกอมและหมากฝรั่งข้ามชาติยี่ห้อดัง(บริษัทนี้ถือว่าได้บุญเพราะเพื่อนเรานะเนี่ย) ร่วมให้การสนับสนุนกิจกรรมนี้ซึ่งดูเหมือนจะมีทั้งหมดเพียงสองรายเท่านั้น(น้อยจริงๆ)

 

คุณบีบอกว่าตอนที่เอเจนซี่มาติดต่อขอการสนับสนุนเธอดีใจมากเพราะเป็นแฟนคลับคุณดังตฤณอยู่แล้วเลยแอบอยากมาเจอตัวจริงด้วย เอเจนซี่ที่ติดต่อเธอมายิ่งดีใจอย่างแรงเพราะ หายากมากที่ บริษัทเอกชน จะให้การสนับสนุนโครงการที่ไม่สร้างผลตอบแทนเป็นตัวเงินแบบนี้ (อันนี้ผู้เขียนขยายความเพิ่มให้เอง) คุณเพื่อนบีบอกว่าแค่สนับสนุนเล็กๆน้อยทางโครงการก็ดีใจเป็นอย่างสูงแล้ว เอาเป็นว่างานนี้เพื่อนเราทำให้บริษัทได้โฆษณาแบบได้กุศลไปด้วย และจากที่ผู้จัดแถลงให้ฟังในงาน มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดไม่ถึง 40 ราย และหลายคนบอกเธอว่าแค่ได้วาดได้ทำผลงานออกมาก็สุขใจแล้ว ยังไม่ต้องนึกถึงว่าจะได้รางวัลหรือเปล่า (ขอให้จำเริญๆกันถ้วนหน้า) งานนี้ผู้จัด ได้เชิญคุณดังตฤณเป็นผู้มอบรางวัลแก่ทุกคนทั้งผู้ชนะรางวัลที่ 1 2 3 ชมเชย จนถึงทุกคนที่ส่งผลงานเข้าประกวด  พอมอบรางวัลเสร็จพิธีกรสาวสวยก็ได้สัมภาษณ์แรงบันดาลใจของผู้เข้าร่วมประกวดแต่ละคน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากความประทับใจที่ได้เห็นการทำดีของบุคคลรอบข้างทั้งสิ้น แต่มีน้องอยู่คนหนึ่งแอบเหมือนคุณบีเธอบอกว่า เพราะหนูอยากมาเจอคุณดังตฤณค่ะ  อันนี้ก็สะท้อนให้เห็นว่า แม้ในท่ามกลางสังคมอันวุ่นวายที่สามารถพาวัยรุ่นให้ออกนอกลู่นอกทางไปได้อย่างง่ายดายนั้น ในวันนี้ก็ยังมีเยาวชนอีกจำนวนหนึ่งที่มีความใฝ่ดีพร้อมที่จะเป็นหนึ่งในพลังดีๆที่จะช่วยดูแลสังคมในอนาคต

 

ตอนท้ายคุณดังตฤณได้ขึ้นร่วมเสวนาบนเวที ตามที่ทุกคนรอคอย ที่จะได้ฟังอะไรดีๆ จากคุณดังตฤณแน่นอน ผู้เขียนแอบจดประเด็นมาคร่าวๆกะว่าจะมาเขียนบล๊อกนี้แหละ คุณดังตฤณ ได้กล่าวประมาณว่า เด็กๆของเราในปัจจุบัน เกิดและเติบโตขึ้นท่ามกลางความสับสน และการ์ตูนก็มีอิทธิพลต่อเด็กมากมาตั้งแต่สมัยที่เริ่มมีสื่อการ์ตูนขึ้นบนโลกนี้ คุณดังตฤณบอกว่า ตอนเด็กถ้าเป็นสมัยก่อนที่จะมีเทคโนโลยีมากมายเหมือนสมัยนี้ เวลาเราดูการ์ตูนเช่น ทอมกับเจอรี่ เห็นแมวพยายามคิดแผนชั่วร้ายแต่ก็แพ้หนูตัวน้อยเสมอ ดูเสร็จพ่อแม่ก็จะบอกว่า ต้องเป็นคนดีนะเพราะพ่อแม่ตีความแบบผู้ใหญ่ว่า คนดีย่อมชนะคนไม่ดีเสมอ โดยที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่เด็กรับอาจจะไม่ได้ผ่านกระบวนการสรุปแบบพ่อแม่ก็ได้ แทนที่จะได้ข้อสรุปเหมือนพ่อแม่ เด็กอาจกลับรับรู้ภาพความรุนแรงจากการ์ตูนมากกว่าข้อคิดแบบที่ผู้ใหญ่ได้ เช่นหนูเจอรี่ หลอกเอากะทะตีหัว แมวทอมจนสลบไป เด็กอาจรับเอาความสะใจจากการตีหัวอีกฝ่ายหนึ่ง คุณดังตฤณบอกว่า เด็กไม่เหมือนผู้ใหญ่ ความสนใจอย่างแรกของเด็กจะเน้นการรับรู้ทาง สัญญลักษณ์ และ ภาพ ที่วิ่งเข้ามากระทบตา โดยเฉพาะในทุกวันนี้การ์ตูนและสื่อต่างๆยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เท่าที่ทุกคนก็รู้อยู่

 

จากการที่ฟังคุณดังตฤณ ผู้เขียนขอสรุปโดยคร่าวว่า เด็กเปรียบเสมือนผ้าขาว (อันนี้คุณดังตฤณก็พูดด้วย) ดังนั้นจะเอาอะไรใส่ไปในความรับรู้ของพวกเขาต้องระมัดระวัง ต้องละเอียดอ่อน ซึ่งผู้จัดโครงการและเจ้าของเวบไซด์การ์ตูนธรรมมะนี้อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างสรรค์นักการ์ตูนและผลงานการ์ตูนที่ดีๆ ออกมาสู่สังคมเพื่อให้มีสื่อดีๆให้เข้าถึงเยาวชนมากยิ่งขึ้น อยากชักจูงให้คนรุ่นใหม่ให้เข้าถึงธรรมะ ไม่ใช่ดูการ์ตูนเห็นแบบหนึ่ง พ่อแม่มาสอนอีกแบบหนึ่ง (เด็กคงจะงงและสับสน) แว๊บเดียวเลียนแบบฮีโร่ฆาตกรดีกว่าเท่ห์ดี เหมือนที่เห็นกันบ่อยๆในข่าวที่ผ่านมา คุณดังตฤณบอกว่า ปัจจุบันสื่อการ์ตูนและสื่อต่างๆที่มีอยู่ เป็นเหมือนฟาร์มสร้างฆาตกรอยู่ทั่วโลก คุณดังตฤณทิ้งคำถามไว้ว่า เมื่อเรารู้ว่าอะไรที่เด็กอ่านแล้วฝังใจ มันโดนใจ แล้วเราให้สิ่งแรกที่เด็กได้อ่านและสัมผัสนั้นคือสื่อธรรมะ คุณคิดว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น?

 

ผู้เขียนขอจบการรายงานจากการได้พบตัวจริงคุณดังตฤณ(ได้ถ่ายรูปด้วย)ไว้แต่เพียงเท่านี้ หากมีประเด็นน่าสนใจ ต่อเนื่องจะมาเล่าสู่กันฟังอีกที หวังว่าทุกท่านคงจะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากบทความนี้ไปบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ และขอให้ผู้อ่านทุกคนมีความสุขมากๆค่ะ

 

น้ำผึ้ง

เว็บอ้างอิง:

http://www.cartoondhamma.com/

http://dungtrin.com/

http://cartoondhamma.multiply.com/

หมายเลขบันทึก: 280994เขียนเมื่อ 28 กรกฎาคม 2009 15:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 พฤษภาคม 2012 19:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ชอบคุณดังตฤณเหมือนกันค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท