บันทึกแค้มป์บ้านกร่าง ตอนที่ 5


แคมป์บ้านกร่าง

เว้นไปหลายวัน สนิทเริ่มเกาะแล้ว ยังค้างอยู่เรื่องไว้อีก 2 ตอน คิดว่าตอนหน้าคงต้องปิดบันทึกเสียที

ตอนที่ 5

วันที่สองสำหรับแคมป์บ้านกร่างเกิดขึ้นตอน 6 โมงเช้า ฟ้าปลอดโปร่ง เสียงนกมาร้องหน้าแคมป์เด็กใหม่อย่างไร 3 คนตื่นก่อนเจ้าภาพอย่างน้าตุ๋ยและน้าหมู  ทำภารกิจส่วนตัวกันเป็นเหตุให้คนที่นอนอยู่ต้องพลอยตื่นตามกันเป็นลำดับ แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่เดินตรวจตราป่าที่ผูกเปลนอนอยู่ด้านหน้าของที่พักของคณะเราก็ต้องพลอยตื่นตามไปด้วย น้าหมูก็มาดูแลน้ำต้ม เพื่อว่าจะได้ดื่มกาแฟ ขนมปังหรือปรุงมาม่า ไว้เป็นอาหารเช้า เตรียมตัวกันไม่นาน มีการแบ่งคนให้เข้าบังไพรพอดี ๆ กัน 2 หลัง เจ้น๊อคมาอยู่บังไพรของผู้เขียน ส่วนที่เหลือก็ไปกองอยู่บังไพรของน้าตุ๋ยที่เป็นบังไพรแฝด ทุกคนเสร็จภารกิจแล้วก็ไปถ่ายนกแต้วแล้วอีกคำรบเหมือนเมื่อวาน แต่สิ่งที่ต่างกันคือ เวลาและกลุ่มคณะที่มาถ่ายนก พบว่าวันนี้มาด้วยกันหลายกลุ่ม จึงมีบังไพรกันหลายหลัง สำหรับตัวผู้เขียนแล้วได้ที่ถ่ายที่ดีกว่าน้าตุ๋ย ขณะที่น้าตุ๋ยต้องเปลี่ยนที่ไปอยู่อีกฟากหนึ่งต่างจากเมื่อวาน การถ่ายวันนี้ของผู้เขียนตั้งใจว่าจะต้องได้ภาพที่สมบูรณ์กว่าเมื่อวานและทุก ๆ ครั้งที่เคยถ่ายเจ้านกสายพันธุ์นี้ ภาพถ่ายเมื่อวานที่ได้ถ่ายไปผู้เขียนลบภาพเหล่านั้นทิ้งไปเยอะอยู่เหมือนกันด้วยเพราะความคมชัด องค์ประกอบ ภาพสั่น ภาพไม่คม แสงไม่พอดี เหล่านี้เป็นต้น ถือได้ว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติสำหรับมือใหม่อย่างผู้เขียนในสายตาของคนเล่นกล้องและถ่ายภาพนก การเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่กับการถ่ายในวันนี้คือความตั้งใจที่จะเก็บภาพให้ได้ถือว่ามันคือความท้าทายที่รออยู่เบื้องหน้า ระหว่างที่บันทึกภาพไป สอนเจ้น๊อคไปบังไพร รอบข้างของผู้เขียนก็ละเลงกดชัตเตอร์ไปไม่ต่างกัน แต่สิ่งที่ต่างกันคือ มีบางบังไพรใช้ไฟแฟลชแบบหนักหน่วงยิงนกจนน่าสงสารนกกันว่าไปเลย ขนาดรูปที่ผู้เขียนได้บันทึกไปนั้นเอามาเปิดดูพบเลยว่ามันสว่างเกินไป จำใจต้องลบทิ้งไปด้วยเพาะความไม่สมบูรณ์ของภาพเนื่องจากไฟแฟลช

เสียงชัตเตอร์จากบังไพรแต่ละหลังกระหน่ำยิงไปยังครอบครัวนกแต้วแล้วนี่แบบไม่ยั้งกันเลย ขอให้นกมาเกาะที่คอนหรือกิ่งไม้ในองศาที่กล้องสามารถถ่ายได้เมื่อไหร่ เสียงชัตเตอร์นัดกันกระหน่ำส่งเสียงได้ยินพร้อมกับแฟลชจากบางบังไพร สงสารครอบครัวนกอยู่เหมือนกันกับการถูกรบกวนยามนี้ สงสัยนกมันคงเครียดไปน่าดูเหมือนกันนะ ไหนจะตัวเองที่ต้องถูกไฟแฟลชสาดกระหน่ำหนึ่งหละ ไหนจะเป็นห่วงลูกในรังอีกหนึ่งหละ กลัวว่าลูกจะอด กลัวว่าใครจะไปทำร้ายลูกตัวเองบ้างหละ ผมว่าพ่อแม่นกคงไม่ต่างจากพ่อแม่คนกระมัง มีความรู้สึกนึกคิดว่าไหนร้อนไหนเย็น การไปทำกิจกรรมอย่างเรา ๆ นี่ถือได้ว่าเป็นการรบกวนเขาอย่างไม่ต้องสงสัย ขนาดเราเองหากว่านั่งทำอะไรซักอย่าง แล้วมีใครซักคนจ้องมองเราอยู่ตลอดเวลาขณะทำกิจกรรม ผู้เขียนว่าคงเครียดน่าดูเหมือนกันนะ ครอบครัวของนกแต้วแล้วก็คงต้องการความเป็นส่วนตัวเหมือนอย่างมนุษย์สายพันธุ์อย่างเรา ๆ นี่ยังดีนะว่ามีบังๆพรปิดบังคนถ่ายไม่ให้พ่อแม่นกเห็น สามารถลดความเครียดไปได้ระดับหนึ่ง กิจกรรมยามเช้านี้คงจบลงอีกหนเนื่องจาก นกมันไม่ค่อยจะยอมลงมาป้อนอาหารลูกซักเท่าไหร่คงเนื่องมาจากความเครียดที่ผู้เขียนได้เขียนไว้ข้างต้น น้าหมูและน้าตุ๋ยตกลงใจกันว่าไปเก็บผีเสื้อแถวลำธาร 2 ดีกว่า มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า แล้วอีกอย่างหนึ่งวันนี้เจ้น๊อคกับเจ้เอ๋ต้องกลับกรุงเทพแล้ว คณะเราจึงเห็นว่าควรให้เจ้เอ๋เจ้น๊อคไปถ่ายผีเสื้อตามที่ได้ตั้งใจไว้แต่ก่อนจะมาแคมป์บ้านกร่าง คณะเราก็เลยถอยตัวออกมาจากครอบครัวนกแต้วแล้ว

อ่านต่อตอนจบ

คำสำคัญ (Tags): #นกแต้วแล้ว
หมายเลขบันทึก: 280794เขียนเมื่อ 27 กรกฎาคม 2009 20:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

มาชม

ชมนก

ชมไม้...ในธรรมชาตินะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท