การทำงานที่เสี่ยงต่อการติดไข้หวัดใหญ่ของครอบครัวดิฉัน


26-7-52

 

ครอบครัวดิฉันต้องยุ่งกับไข้หวัดใหญ่เพราะลูกสาวเป็นแพทย์อายุรกรรมที่เป็นน้องน้อย

แพทย์รุ่นพี่จะมาขอร้องให้น้องน้อยช่วยอยู่เวรให้หน่อยโดยมีแรงจูงใจให้ทำให้หมอน้อยต้องอยู่เวรถี่ๆ

ดิฉันสอนให้ลูกระวังตัว      ไม่อยู่จนง่วงอาจทำให้พลาดได้    การระบาดครั้งนี้คงต้องใช้เวลาอีกประมาณหนึ่งปีกว่าจะหยุดระบาด

ดิฉันถามอาจารย์ประเสริฐ  ทองเจริญ   ท่านบอกว่าต้องมีการติดเชื้อประมาณ40%ของคนไทยก่อนจึงหยุดระบาด    

ดิฉันฟังแล้วเครียดเหมือนกันเพราะเราเสี่ยงทั้งแม่และลูก    แต่ก็พยายามระวังตัวในการป้องกันค่ะ

เมื่อลูกกลับบ้านหลังทำงาน   ดิฉันจะให้ไปอาบน้ำก่อนมานอนดูทีวีในห้องรวมเพราะกลัวเสื้อผ้าที่ใส่ติดเชื้อมาเนื่องจากคนไข้ที่มารอตรวจมีจำนวนมาก

เห็นลูกเป็นหวัดหลังคุณพ่อเป็น(มีอาการเล็กน้อย)ก็เตือนให้ดูแลตัวเอง       ลูกสาวบอกว่าอาจเป็นแล้วนะแม่   แต่อาการน้อย

ตัวดิฉันเวลาตรวจก็ต้องระวังไม่เอาหน้ากากถอดเข้าถอดออกจนกว่าจะหมดเวลาตรวจ    การถอดเข้าออกทำให้มีโอกาสติดเชื้อเพราะลืมล้างมือก่อนจับหน้ากาก    หรือรีบใส่ทำให้ใส่ผิดด้านหรือมือไปถูกด้านหน้าของหน้ากากซึ่งเราถือว่าสกปรกเพราะอาจจะสัมผัสสิ่งสกปรกจากการไอมาค่ะ

การถอดบ่อยๆทำให้ติดเชื้อง่ายเพราะมือเราสกปรก  

ไปที่ธนาคารเห็นคนธนาคารใส่หน้ากากเข้าๆออกๆ   เดี๋ยวแขวนไว้เดี๋ยวนำมาใส่ทำให้เป็นห่วง   แต่ไม่กล้าเตือนค่ะ

ทุกวันนี้ได้แต่อธิษฐานขอให้มันผ่านไปด้วยดี   เพราะดิฉันผ่านช่วงโรคSARS  และไข้หวัดนก ทำให้เหนื่อยใจมากๆ   

พอลูกสาวเรามาเจอ H1N1 2009   ดูเธอก็มีความสุขดี   ก็รู้สึกดีใจที่เธอสู้งานหนักได้ค่ะ 

 

คำสำคัญ (Tags): #ไข้หวัดใหญ่2009
หมายเลขบันทึก: 280512เขียนเมื่อ 26 กรกฎาคม 2009 23:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

ผมเป็นหนึ่งใน 40 เปอร์เซ็นต์เรียบร้อยแล้วครับคุณหมอ

ผมว่าเวลาเกิดโรคระบาด ทำให้เรามีสติในการดำเนินชีวิตประจำวันได้ดีขึ้นนะครับ

สวัสดีค่ะคุณหมอ ถ้าเป็นลูกสาวตัวเอง คงเครียดมากค่ะ เพราะความเป็นห่วงลูก
 ตอนนี้ไปซื้อ สมุนไพร ฟ้าทะลายโจร ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าเป็นสมุนไพรที่ช่วยบรรเทาอาการหวัด และเสริมภูมิต้านทานดีกว่าการใช้ ยาปฏิชีวนะ มาเก็บไว้สักขวด 2 ขวด

ที่เมืองไทย มีข่าวว่า บุคคลากรด้านสาธารณสุข และกลุ่มคนที่ีมีความเสี่ยง อาจได้ฉีดวัคซีนไข้หวัด 2009 ก่อน แต่ที่อเมริกา ข่าวเมื่อ 26-07-2552 บอกว่า....เด็กนักเรียนอาจเป็นกลุ่มที่จะได้ฉีดก่อน...แต่ก็ยังไม่เป็นที่แน่นอน..

WASHINGTON - Schoolchildren may be first in line for swine flu vaccine this fall - and might even be able to get the shot right at school.
No decision has been made yet on whether and how to vaccinate millions of Americans against the new flu strain that the World Health Organization last week formally dubbed a pandemic, meaning it now is circulating the globe unchecked.
เลยไม่ทราบว่า ที่เมืองไทย จะให้ใครฉีดก่อนค่ะ

เรียนคุณพี่ศศินันท์ หมอโทรคุยกับคุณหมอคำนวณทราบว่าจะฉีดให้บุคคลากรก่อนค่ะ หลังจากนั้นจึงฉีดให้กลุ่มเสี่ยง แต่เวลาปฏิบัติจริงอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลวิชาการค่ะ คุณหมอแจ้งว่าประมาณธันวาคม การทดลองของวัคซีนน่าจะมีคำตอบ คนไทยอาจจะได้ฉีดไม่เกินเดือนมิถุนายนค่ะ หมอถามว่าขณะนี้ประเมินว่าเราติดไปประมาณเท่าไหร่ คุณหมอท่านว่าน่าจะ10% ของประชากร อีกไม่ถึงปีน่าจะจบการระบาดค่ะ ทั้งหมดเป็นข้อมูลประเมิน ยังไม่ใช่การวิจัยค่ะ ตัวเลขอาจเปลี่ยนแปลงเพราะไม่ใช่ตัวเลขที่ทางการแถลงค่ะ หมอถามโดยบอกว่าเพื่อนๆอยากรู้ค่ะ นำมาเล่าเพื่อให้พวกเราเข้าใจสถานการณ์และเตรียมตัวค่ะโดยตั้งสติและไม่กลัวมากเกินไปแต่ก็ไม่ประมาทนะคะ

  • เห็นใจคุณหมอทั้งสองท่านเลยค่ะ...คนไข้ยังมีความหวังที่จะพึ่งคุณหมอ  แต่คุณหมอต้องพึ่งตนเองอย่างแรงก่อนอื่นเลยค่ะ
  • โรคใกล้ตัวที่เราเผชิญอยู่ทำให้เราได้ฝึกเจริญสติไปด้วยนะคะดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท...และสังเกตอาการ เฝ้าดูภายในตัวเองอยู่ตลอดเวลามากขึ้นค่ะ
  • ขอบพระคุณมากค่ะ...ยิ่งอ่าน ทำให้ยิ่งเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นค่ะ

คุณสามารถคะ

ดีใจที่มาเยี่ยมและดีใจที่ไม่เป็นอะไรมากค่ะ ลูกน้องเก่าไปรับปริญญา กลับมาไม่มีอาการมากแต่ตรวจแล้วติด2009ค่ะ

ขอให้เจริญในธรรมนะคะ ให้กำลังใจคุณสามารถค่ะ

ขอเรียกอาจารย์ศิลานะคะ

ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจกันค่ะ

หมอมีเลื่องเล่าในช่วงที่โรงพยาบาลมีcase คนไข้โรค SARS คุณหมอที่จะใส่ ท่อหายใจกลัวมากเพราะเรายังไม่รู้จักโรคนี้ รู้แต่ว่าที่ฮ่องกงและเวียตนามแพทย์และพยาบาลตายกันมากหลังจากไปรักษาคนไข้โรคนี้ เธอบอกลูกเธอยังเล็กนะพี่ หมอไม่ได้ผลักดันให้เธอใส่ท่อหายใจโดยเราคิดว่าอาจต้องพึ่งพยาบาลดมยา พอถึงเวลาเธอแต่งตัวและบอกว่า เอาก็เอาวะ (ต้องวะด้วยเพื่อหายกลัว) แล้วเธอก็ใส่ท่อด้วยความปลอดภัยค่ะ

นึกถึงพระคุณของหมอพยาบาลและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เป็นน้องๆเสมอเพราะผู้อำนวยการจะได้หน้าตามากกว่าคนอื่นค่ะ เวลาคนชมองค์กรก็จะนึกถึงน้องทุกครั้งเพราะกว่าที่จะทำให้ทุกคนไม่กลัวมากก็ต้องเหนื่อยทั้งกายและใจค่ะ

คุณหมอต้องระวังหน่อยนะ เห็นใจมาก แต่ก็หน้าที่

ขอบคุณ คุณเบดูอินที่มาเยี่ยมค่ะ ระวังเสมอแต่วันใหนเป็นหวัดก็กังวลนิดๆค่ะ

เมื่อวานตรวจภายใน หมอไม่ได้ใช้หน้ากากอนามัยขณะตรวจเพราะมีการคัดกรองมาจากOPD คนไข้มาถึงไอไม่หยุดและอยู่ห้องแอร์ ร่วมกับคนไข้อื่นๆ

ตัดสินใจบอกคนไข้ให้หายไอก่อนค่อยมาตรวจภายในทีหลังค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท