"ผมกับ ครูแต้ว แพ้มติ การประชุม จัดกิจกรรมออกร้านงานสารทเดือนสิบ"
ในวันอังคารที่ผ่านมาท่าน ผอ. เรียกประชุมครูอาสาสมัคร ร่วมกับหัวหน้าห้องสมุดประชาชนจังหวัด วาระหนึ่งที่คุยกันในที่ประชุมคือเรื่อง การออกร้านงานสารทเดือนสิบซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนานของเมืองนคร
ท่าน ผอ. แจ้งว่า ปีนี้จังหวัดจะไม่ให้มีการออกร้านค้าในบริเวณวัดพระบรมธาตุ แต่จะมาจัดออกร้านที่วัดหน้าพระบรมธาตุแทน ซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์ กศน. อำเภอเมือง เป็นโอกาสดีที่เราได้ประชาสัมพันธ์กิจกรรมการส่งเสริมกลุ่มอาชีพต่างๆ คือการนำผลิตภัณฑ์ของแต่ละกลุ่มมาออกร้านจำหน่าย เรื่องนี้ไม่สำคัญเพราะเราทำหน้าที่เพียงประสานและอำนวยความสะดวก แต่เรื่องที่เป็นประเด็นโต้แย้งของผมคือ
มีคนนำเสนอให้มีเจ้าหน้าที่ในแต่ละวันมาคอยบริการกับกลุ่มที่ส่งผลิตภัณฑ์เข้าร่วม เรื่องนี้ก็ไม่มีปัญหามาสะดุดตรงที่ กลุ่มต้องนำสินค้ามาส่งในราคาต้นทุน ให้เจ้าหน้าที่ลงรับสินค้า และเจ้าหน้าที่จำหน่าย (ผมจึงรู้ว่าที่คุยมาตั้งแต่ต้นผมเข้าใจผิดมาตลอด) ผมคิดว่าเขาให้กลุ่มมาขายเอง ที่ใหนได้ กศน.รับสินค้าชาวบ้านมาขายในราคาต้นทุน และจะหักเงินกำไร 10% ให้กับเจ้าหน้าที่ที่ขายสินค้าในแต่ละวัน
ผมนำเสนอเห็นแย้งว่า กศน.น่าจะทำหน้าที่ประสานกลุ่มและจัดสถานที่เพื่อให้กลุ่มได้ทำกิจกรรม นำสินค้ามาขาย หรือมีการสาธิต และหากกลุ่มมีชุดความรู้หรือนิทรรศการก็ให้นำมาด้วย ผมกับครูแต้วเห็นพ้องต้องกันและพยายามนำเสนอแนวทางดังกล่าว เพราะเป็นกระบวนการส่งเสริมให้ชาวบ้านถ่ายทอดความรู้และรู้วิธีการจัดการด้านการตลาด
ครูวรรณี ครูหทัยกาญจน์ และพี่กาญจนาหัวหน้าห้องสมุดก็ยังยืนยันรูปแบบเดิมคือให้ชาวบ้านนำของให้ กศน. ในราคาส่ง และให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบในแต่ละวันขาย ผลกำไร หัก 10% ให้กับผู้ขาย
งานนี้ผมแพ้มติที่ประชุม ท่าน ผอ. ตกลงเอาตามที่ ครูวรรณี ครูหทัยกาญจน์ และพี่กาญจนาหัวหน้าห้องสมุด นำเสนอ ผมพยายามที่จะเอาเหตุผลโต้แย้งต่อแต่ไม่เป็นผล แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจครับ... มันชินกับสภาพอย่างนี้มานานแล้ว อะไรก็ได้เมื่อเขาสั่งก็ต้องทำ (ฝืนทำทั้งที่ใจไม่อยากทำ) "เสียงข้างน้อยพูดไปก็ลำบาก สู้เสียงข้างมากเอาใจนายไม่ได้"
ชาวบ้านลงทุนทำตามประสาชาวบ้าน กศน. เพียงแต่งส่งเสริมกระบวนการให้กลุ่มเข้มแข็ง แต่สุดท้ายชาวบ้านได้อะไรจากเรา "รีดเลือดปู" หรือหากเป็นภาษาบ้านๆ ที่ชาวบ้านพูดกันคือ "กินเลือดคางคก" รับจากกลุ่มอาชีพมาในราคาต้นทุน แล้วขาย ผลกำไรที่ได้ หัก 10% ให้กับคนขาย ซึ่งเป็นคน กศน. มติที่ผมกับครูแต้วแพ้ในวันนี้ จะจดจำไปจนตาย จิตสาธารณะ ธรรมาภิบาล มองผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก มันหายไปอยู่ที่ซอกใหนของสมอง
ถึง..ครูราญ..เมืองคอน..อย่าจดจำสิ่งที่ไม่ดีเลยไร้สาระ..พวกปลวกเกาะกินกศน.จนไม่เหลืออะไรแล้ว..ขอเป็นกำลังใจให้น้องและพี่น้องกลุ่มชาวบ้านอาชีพ..และผู้ทำงานเพื่อปวงประชา..ต่อไปหน่วยงานอื่นๆเค้าก็จะยื่นแซงหน้าเรา..หากพวกเราขาดความสามัคคี..แต่ในความสามัคคีนั้นต้องมีคุณธรรมจริยธรรมด้วยนะขอรับ
การได้ลงมือทำเอง คือ บทเรียนที่ดีได้ ทำเอง เรียนรู้เอง
ได้ขายเอง ได้คุยกับคนซื้อเอง น่าจะเป็นบทเรียนที่ให้ชาวบ้านได้เรียนรู้โดยตนเอง
สวัสดีครับ...พี่ชายที่แสนดี
สวัสดีครับ...คุณบางบ่อ
พี่ชายที่แสนดี...
สวัสดีครับ...พี่ธวัช
ขอให้กำลังใจ ด้วยคน ในสังคมนี้ คนที่ คิด ทำ เหมือนท่าน ยังมีอีกมาก เพียงแต่ เรายังไม่ได้พบกัน สักวันหนึ่ง สิ่งดีๆ จะมารวมกัน เช่น น้ำอยู่ที่ใหน ก็ไหล ลงเล
สวัสดีครับ...พี่วีระ
คนกศน.เห็นพูดกันประจำว่า ส่งเสริมการศึกษาพัฒนาอาชีพ เมือมีอาชีพอยู่แล้วก็ให้มีรายได้เสริม เมืออ่านบทความท่านสำราญไม่ทราบว่าตอนนี้เขาเพิ่มอาชีพเสริมให้ใครกันแน่
สวัสดีครับ...อาจารย์เกษม