20.45น.วันที่ 20กรกฎาคม 2552หน้าระเบียงตึกICU
วันนี้ผมมีเรื่องที่ผมสับสนและรู้สึกคับข้องใจและหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ผมอยากรับรู้ความคิดเห็นของ
เพื่อนชาวKM เพื่อนผมแนะนำให้ผมเข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้ควาคิดเห็นและเข้ามาดูมุมมองชีวิตที่บ้าง
ครั้งเราไม่มีโอกาสได้รับรู้เลย...ตอนนี้ผมรู้สึกเศร้าใจที่สุดในชีวิตที่มีโอกาสได้รู้จักและรับรู้เรื่องราวที่ผมจะ
เล่าให้ฟัง...ซึ้งในชีวิตนี้ผมไม่เคยคิดว่าคนที่เลวที่สุดมีจริง...คนที่มีความสุขบนความทุกข์คนอื่นมีจริง...
คนที่สามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นภัย..หนีปัญหาทิ้งปัญหาให้คนอื่นตามแก้ไข...พ่อที่
สามารถคิดฆ่าแม้นสายเลือดตัวเอง...ทั้งที่ยังไม่ทันได้ลืมตาออกมาดูโลก...ถึงสองครั้งสองครา....
ทำร้ายไดแม้นกระทั้งผู้หญิงที่รักเขาเสียสละทุกอย่างเพื่อเขายอมอยู่กับความทุกข์...จนวาระสุดท้ายของ
ชีวิต...โดยปราศจากความเมตตา...ลืมความดี...จนหมดสิ้นอย่างที่ผมไม่คิดว่าจะคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อคน
จะสามารถทำได้.....
4ปีที่แล้วผมได้มีโอกาสรู้จักผู้หญิงคนหนึ่ง...โดยคำสั่งของเจ้านายให้ช่วยหาเบอร์โทรของผู้หญิงคนนี้ให้ที่
เจ้านายผมบอกว่าชอบมากเป็นผู้หญิงที่เก่งมีความคิดมีความอ่อนน้อมและมีเสนห์...ผมทำหน้าที่ตามเจ้า
นายสั่ง...เห็นหน้าครั้งแรกก็ไม่ใช่ผู้หญิงสวยมากมายแต่คมขำ...ที่สะดุดตาคือคิ้วโกงเหมือนคันศรจริงๆ
คำพูดสุภาพแต่ไม่มีจริตจะกร้าน...แต่มีรอยยิ้มที่ประทับใจ..ที่สำคัญ(ไม่ออล้อ...ภาษาทางใต้ที่ผมจำจาก
เพื่อนตอนเรียนที่สามพราน...)การปฏิเสธอย่างนุ่มนวล...แตไม่แข็งกราว..ในที่สุดเจ้านายผมก็ละอายแก่ใจ
ที่จะคิดในทางที่ไม่ดี....ทุกครั้งที่ประชุมหัวหน้าส่วนระดับอำเภอผมจะติดตามเจ้านายทุกครั้ง...
จะเห็นการทำงานและการปฎิบัติตัวของเธอ....1 ปีผ่านผมได้เป็นเพื่อนกับเขา...และก็ได้แค่เป็นเพื่อนจริงๆ
ได้แต่โทรศัพท์พูดคุย.... 1ปีผ่านในที่สุดสิ่งที่ผมไม่เคยคาดคิด...เพื่อนผมที่มีแต่รอยยยิ้มบนใบหน้า
กลับมีแต่ความทุกข์....เขาตกอยู่สภาพแม้นแต่ตัวเขาเองเขาไม่ได้อยากอยู่สภาพนั้น....มีเรื่องราวเกิดขึ้น
มากมาย..เธอตั้งท้อง......ในที่สุดเธอโทรมาหาผม....ภาพที่ผมเห็นคือ...เลือดที่นองเพื่อนเธอนอนหนาว
สั่นเพราะพิษไข้...เธออยู่คนเดียวไม่มีญาติพี่น้อง.....ผมพาเธอไปร้องโรงยาบาล...สิ่งที่เธอทำเป็นสิ่งที่
เธอเจ็บปวดที่สุด...แม่ที่ฆ่าลูกตัวเองเพียงแค่คำข้อร้องของคนที่เธอรัก......เพียงไม่อยากให้คนที่เธอ
รักทุกข์ใจ......แล้วเธอก็อยู่กับความทุกข์เลยมา ถัดมาอีกปี...สิ่งที่ผมทราบคือเขาเป็นเนื้องอกในสมอง...
และน่าจะเป็นเนื้อราย..เขาจะมีอาการปวดหัวมาก...ตาเริ่มมองไม่เห็นในที่สุด...หมอบอกว่าเธอจะอยู่ได้
1-2ปีแต่ถ้ารีบทำการ....ผ่าตัดเธอจะอยู่ได้อีก5ปี...สิ่งที่เธอทำคือขอร้องผมว่าวันหนึ่งถ้าเธอจากโลกนี้ไป
เธอไปเปิดบัญชีไว้ 3 ธนาคารใส่เงินที่หาได้จากการทำงานทุกวัน...และก้อนสุดท้ายคือการขายบ้านบ้าน
ที่ผมรู้ว่าเธอรักมากที่สุด....7แสนกว่าบาทเงินในบัญชีทั้ง3 ธนาคารร่วมล้านกว่าบาทและโฉนดที่ดิน17
ไร่ที่เธอซื้อเพราะอยากปลูกยางให้ลูกที่เธออยากมีกับคนที่เธอรัก...เธอบอกผมว่า...ต่อไปเราจะได้ส่งให้
ลูกเราเรียน.....ในที่สุดเธอตัดสิ้นใจรับการผ่าตัดสมองเผื่อจะมีโอกาสมีชีวิตต่ออีก5ปีตามที่หมอบอก...
สิ่งที่เธอหวังในที่สุดของชีวิตเธอคือมีโอกาสมีลูกกับคนที่เธอรัก...การผ่าตัด...2ครั้งเธอรอดตายเพราะ
เธอได้ยินเสียงที่เธอรักเพลงที่คนที่เธอรักเปิดให้เธอฟังแค่คำมั่นสัญญาที่คนที่เธอรัก...บอกว่ายินยอมจะให้
ลูกกับเธอและเวลาที่เหลือให้เธอมีความสุขที่สุด.....เวลาผ่านมีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย...เวลาเป็นเครื่งพิสูจน์
คนเธอยอมเจ็บปวดชีวิตมีแต่การรอคอย...ไม่เคยมีคำพูดที่ดี...คำพูดที่มีแต่ทำให้เธอเสียใจ...ข้อเสนอที่
แลกเปลี่ยนให้ลูกแต่ให้ไปจากชีวิต......ผมอาจจะเป็นคนบ้าหรือโง่แต่ผมก็เคยถามผู้ชายคนนั้นว่ารักเธอ
จริงมั้ย....ถ้าไม่รักเขาผมขอได้มั้ยยกเขาให้ผมได้มั้ย....ผมถามอย่างลูกผู้ชาย...คำตอบของผู้ชายคนนั้น...
ผมจำได้ดี...มิถุนายน2552 เขาตั้งท้องได้2เดือน(เขาบอกผมเป็นการตั้งท้องลูกคนที่2ของเธอจากการ
ยินยอมการให้ของผู้ชายที่เธอรัก....แล้วทุกอย่างก็เกิดขึ้นเธออาจจะทำในสิ่งที่ผิดผู้ชายคนนั้นโกรธมาก
จนลืมว่าทำมั้ยเธอถึงทำอย่างนั้น....เพราะตลอดเวลาผู้ชายคนนั้นไม่เคยนึกถึงจิตใจเธอเลย...
เธอต้องเจ็บปวดกับการกระทำคำพูดมากมาย...สมองที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งจิตใจที่ไม่เคยได้รับการดูแลในที่
สุดเธอบางครั้งเธอนั่งพูดคนเดียว...นอนไม่หลับ...ความดันในสมองเพิ่ม...มีเลือดออกทางจมูกและปาก
......แต่เธอไม่ยอมรับยาอีกเลยเพราะไม่อยากให้ผลจากยากระทบกระเทือนเด็กในท้อง......
มิย.52จนกรกฎาคม 1เดือนเต็มไม่มีการติดต่อจากพ่อของลูกสามีที่เธอบอกผมว่าจะชั่วจะดีอย่างไรเขาก็
คือพ่อของลูก...ตลอด1เดือนเธอพยายามโทรศัพท์เพียงเพื่อรับผิดชอบในสิ่งที่เธอทำ
(เธอทำให้ปืนผู้ชายคนนั้นเสียหายติดต่อเพื่อซื้อปืนคืนให้)....เธอไม่เคยคิดจะโทรไปเพื่อให้เขารับผิดชอบ
ในชีวิตเธอและลูกแต่สิ่งที่เธอได้รับคือการถูกด่าว่าเหยียดหยาดจากเพื่อนนร่วมงานญาติพี่น้องของผู้ชาย
คนที่ได้ชื่อว่า...สามี...พ่อของลูกเธอ....สิ่งที่ผมเล่ามันไม่ใช่นิยายน้ำเน่าช่อง7 มันเป็นเรื่องจริง....จน
เพื่อนผมที่กำลังมีอนาคตจะได้ขึ้นตำแหน่งผู้บริหาร...แต่เธอปฏิเสธเธอบอกว่าเธอไม่สามาถ..เป็นผู้บริหาร
ที่ดีได้เพราะเธอเป็นคนไม่ดีเธอไม่อยากให้ใครว่าได้.....ความทุกข์ที่มีสุดท้ายเธอได้รับจดหมายฉบับ
หนึ่ง...เธออ่านแล้ว..อาการเธอ
ทรุดหนัก...เลือดออกทางจมูก..หมอบอกว่าถ้าไม่เอาเลือดที่คั่งในสมองออกจะไม่รอดทั้งแม่และลูก...
เธอตัดสิ้นใจผ่าตัด...แต่ต้องใช่เงินก้อนหนึ่งโรงพยาบาลเอกชนต้องจ่ายเงินก้อนส่วนหนึ่งก่อนเขาถึงจะผ่า
ตัดให้เงินเธอทั้งหมดอยู่ใน 3 บัญชีที่เธอให้ผู้ชายคนนั้น...ทำเอทีเอ็ม..แต่เธอได้เผาทำลายสมุดบัญชี..
และบัตรเอทีเอ็ม...เพราฉนั้นคนที่จะทำเรื่องเบิกที่ธนาคารได้คือผู้ชายคนนั้น...เธอตัดสินใจโทรไปหา
ผู้ชายคนนั้นให้ช่วยจัดการเงินในบัญชีออกมาเนื่องจากเธอติดต่อธนาคารแล้ว..เธอแค่ต้องการเงินแค่ 3
แสนบาทจะเอาแค่นั้น...ไม่ได้คิดจะเอาทั้งหมด..เธอตัดสินใจให้เขาแล้ว...เพราะเธออยากมีชีวิตรอดพอแค่
อีก 6 เดือน พอให้ลูกเธอได้มีชีวิตรอดลืมตามาดูหรอก...แต่สิ่งที่ได้รับเชื่อมั้ยครับ...ผู้ชายคนนั้นไม่รับ
โทรศัพท์เลย...แม้นกระทั้งแม่ซึ้งเป็นคนแก่ที่จะโทรไปขอร้องเขา....แม้นแต่ผมที่โทรไปสิ่งที่พวกเขา
ปฎิบัติคือ
...การยกหูโทรศัพท์วางข้างนอก...และสุดท้ายคืดถอดโทรศัพท์......นี้คือ...คำว่าลูกผู้ชาย...คำว่าพ่อคน
ทำต่อคนที่เป็นภรรยา...ต่อลูกสายเลือดเขาเอง....จนตอนนี้...เธอได้รับการผ่าตัดจากเงินของแม่ผมเอง
ถ้าเธอฝืนมาเธอจะเสียใจแค่ไหน....ทุกอย่างแค่เศษเสี่ยวที่ผม....ที่แม่ผม...แม่เพื่อนผมได้รับการกระทำ
ด้วยตัวเอง
ตัวเอง.....ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงที่ผม...รู้สึกมีคำถามว่าทำมั้ย...ใจคอเขาทำได้ขนาดนี้...
เหมือนประโยคสุดท้ายก่อนที่เพื่อนผมจะช๊อคไม่รู้สึกตัว...คือทำมั้ยเขาทำกับเรากับลูกได้ขนาดนี้หรือเรา
กับลูกไม่ใช่คนใช่มั้ยเรน....
ช่วยบอกผมที่ครับ...ความดี...ความเลวถูกผิดดีชั่ว....คำว่าพ่อผู้ให้ชีวิต....มันคืออะไร...
ภรรยานอกสมรส......ลูกนอกสมรส.....ไม่ใช่คน....ไม่มีสิทธิ์...ได้รับความยุฒิธรรม...
สิ่งที่หน่วยงานที่เขาบอกว่าเขาเป็นสถานที่ราชการแต่คนที่ปฏิบัติ...การยกหูวางข้างนอก...
การดึงสายโทรศัพท์...เป็นการกระทำของคนที่เรียกตัวเองว่าข้าราชการ..แค่คำว่าพวกพ้อง
ปกป้องพวกพ้องจนลืมคำว่าถูกผิดและดีชั่ว.....แม้นแต่ระดับผู้บริหารเชื่อมั้ยครับ...
คำพูดที่ออกมาจากปากผู้บริหารหน่วยงานนั้น" รู้มั้ยคุณพูดอยู่กับใคร" ครับผมรู้แล้วครับว่าผมพูดอยู่
กับผู้จิตใจต่ำกว่าคนที่ไม่มีมงกุฏครอบดาว.....ผมไม่แปลกใจว่าทำมั้ยพ่อของลูกเพื่อนผมจึงไม่ใช่คน
เพราะพวกเขาถูกหล่อหลอมมาแบบนี้เอง......
ผมเสียใจครับ...ที่ผมไม่สมารถช่วยเหลืออะไรเพื่อนผมได้เลย.......ถ้าเขามีโอกาสฟื้นมา....
ผมครอบครัวผม....จะดูแลเขาและลูกเขาให้ดีที่สุด....ตื่นน่ะเพื่อน....วันนี้ถ้านายไม่ตื่นหมอจะถอดเครื่อง
ช่วยหายใจแล้ว.....ถ้านายเหนื่อยทุกข์ใจมากแล้วก็หลับให้สบายน่ะเพื่อน....เราจะพานายกลับบ้าน....
ช่วยบอกผมที่ครับเพื่อนผมกับเด็กที่บริสุทธิ์ผิดอะไร....ผมเสียใจครับ
ไม่มีความเห็น