การที่มีโอกาสได้สัมผัส พบเจอ ใช้ชีวิตในสถานที่ที่แตกต่าง
ทำให้สามารถมองเห็นเปรียบเทียบในมุมต่างๆ
และเกิดการสังเกต-เรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง
โดยไม่ต้องไปเรียนจากใครที่ไหน
คุณแอ้ม สโรชา พรอุดมศักดิ์ มีโอกาสใช้ชีวิตอยู่ที่ สหรัฐอเมริกา
และในเมืองไทย สิ่งหนึ่งที่เธอสะท้อนออกมาในพ็อตเกตบุคส์ของเธอ คือ
คนไทยหลายคนไม่เห็นคุณค่าของประเพณีวัฒนธรรมของไทย
เด็กอเมริกันและเด็กไทย มีความคิดมุมมองต่างกัน
จนบางครั้งอาจไม่เข้าใจว่า คนไทยคิดอะไรอยู่
แต่ทุกวันนี้
บางทีก็เห็นคนไทยรุ่นใหม่หลายคนมองไม่เห็นคุณค่าของวัฒนธรรมหลายอย่าง
มองว่า เชยบ้าง…
เช่นการไปทานอาหารกับญาติๆหลายคนในร้านอาหาร
ที่ผู้ใหญ่จะเป็นคนสั่งอาหารให้เด็กๆ แต่คุณแอ้ม
อยากทานแบบที่ผู้ใหญ่ทาน เลยบอกว่า อยากทานแบบนั้น
เลยถูกผู้ใหญ่อบรมเรื่องมารยาท
ความจริงทุกคนควรมีสิทธิในการที่จะเลือกทานอาหารอะไรก็ได้
แต่คุณสโรชา ก็เกิดการเรียนรู้ด้วยตัวเองในเวลาต่อมาว่า
นี่เป็นวัฒนธรรมไทยอย่างหนึ่ง ถ้าตามใจเด็ก 10 คน
คงต้องสั่งอาหารกันวุ่นวาย และเสียมารยาทอีกหลายอย่าง
แต่เวลาที่อยู่ที่บ้าน ผู้ใหญ่จะตามใจเด็กเต็มที่
คุณสโรชา เกิดการเรียนรู้ด้วยตัวเอง แต่ทำไมเด็กไทยอีกหลายคน
ถึงไม่เกิดการเรียนรู้เช่นนี้บ้าง หรือเป็นเพราะว่า
1. ผู้ใหญ่ไม่ตั้งใจที่จะอบรมสั่งสอบลูกหลาน
2. เห็นเป็นเรื่องน่ารำคาญ และเบื่อที่จะตอบคำถามของลูกหลาน
เลยดุบ่อยๆ หรือบอกให้ไปถามครูที่โรงเรียนโน่น
3. ผู้ใหญ่ไม่ส่งเสริมการเรียนรู้แก่เด็กๆ อาจเป็นเพราะ
สอนเด็กไม่เป็น
เมื่อคุณสโรชาต้องไปพักอยู่กับครอบครัวของญาติช่วงหนึ่ง
เธอสังเกตพบว่า ญาติในครอบครัวนั้นรักและห่วงใย
มีความเอื้อเอ็นดูเธอเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน
ทั้งๆที่ไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้
ในครอบครัวอเมริกา
เธอไม่มีโอกาสจะได้สัมผัสความรักความห่วงใยแบบนี้เลย
เมื่อได้เห็นความแตกต่างเช่นนี้
ทำให้เธอเริ่มเห็นคุณค่าของสังคมไทย
1. จากความแตกต่างที่เห็นในครอบครัวของไทยเช่นนี้
หรือเปล่าที่ทำให้ชาวต่างชาติประทับใจและพยายามเข้ามาสัมผัสความรู้สึกตรง
นี้ในสีงคมไทย
2. จากข้อ 1 น่าจะมีผลกับการที่ชาวต่างชาติจะมาแต่งงานกับคนไทย
มีครอบครัวในไทย มีใช้ชีวิตในเมืองไทย มีแฟนเป็นคนไทย
อยากได้ความรักความห่วงใยแบบนี้
3 นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวไทย หลายคนอยากจะสัมผัสวัฒนธรรมในแบบไทยแท้
พยายามซึมซับความงดงามในส่วนนี้ แต่คนไทยรุ่นใหม่หลายคน
กลับเห่อวัฒนธรรมตะวันตก…
อันนี้ เป็นข้อสังเกตและสิ่งที่แกะมาได้จาก
พ็อตเกตบุคส์เล็กๆเล่มนี้ครับ คุณสโรชา พรอุดมศักดิ์ ไม่ได้เขียนข้อ
1-2-3 แบบนี้หรอกนะครับ …..
เป็นการลองแกะ KM จากหนังสือของเธอเท่านั้นเองครับ