moopum
นางสาว ประภาพร moopum ศรีสมบูรณ์

สำรวจค่าจ้างและสวัสดิการจำเป็นแค่ไหน


การบริหารคน

ตอบกันตรงๆได้เลยครับว่า “จำเป็น” และจำเป็นมากด้วยหากต้องการทำธุรกิจให้ได้ดีในระยะยาว ไม่ใช่ทำกันสั้นๆแบบมีกำไรก็ทำ ขาดทุนก็เลิก เพราะถ้าคิดกันแค่นั้น ไม่ต้องไปสำรวจค่าจ้างและสวัสดิการให้เสียเวลาและเสียเงินกันอีกหรอกครับ
ว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว ยังมีธุรกิจจำนวนไม่น้อยที่บริหารธุรกิจกันแบบไม่ให้ความสำคัญกับเรื่อง “การบริหารคน” โดยเฉพาะ ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องของการสำรวจค่าจ้างและสวัสดิการเลย
  ที่เป็นเช่นนี้เพราะอาจมีเหตุมาจากหลายประการ เช่น

  • คิดว่าได้จ่ายตามที่เห็นว่าเหมาะสมกับสภาวะของธุรกิจและตามความสามารถของพนักงานอยู่แล้ว จะให้จ่ายมากกว่านี้ ธุรกิจก็อาจไปไม่รอด พูดตามภาษานักบริหารค่าจ้างก็คือ นายจ้างนั้นคิดว่า ก็ว่ากันตาม ability to pay ว่างั้นเถอะ
  •  ใครคิดว่ามีความสามารถหาได้มากกว่านั้น จะจากไปอยู่ที่อื่นกันจริงๆ ก็ไม่ว่ากัน ก็มีความสามารถกันเท่านี้นี่นา
  • อีกประเภทหนึ่งคือ ดูผลสำรวจไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะไม่คิดจะปรับอะไรให้อยู่ดี ดังนั้นก็อย่าไปดูหรืออย่าไปสำรวจอะไรมาเลย

ยังอาจมีเหตุผลอื่นอีกบ้าง แต่สรุปได้ว่า ไม่เห็นประโยชน์หรือความสำคัญของเรื่องนี้ และถ้านายจ้างไหนที่มีความคิดอย่างที่ว่ามา ต้องตอบคำถามที่มักเป็นปัญหาเหล่านี้ให้ได้ อาทิเช่น

  • จะรู้ได้อย่างไรว่าค่าจ้างที่จ่ายให้พนักงานอยู่นั้นเหมาะสมและแข่งขันในตลาดแรงงานได้แล้ว
  • ถ้าจ่ายโดยไม่ดูชาวบ้าน เกิดจ่ายอยู่ในอัตราที่ “สูงกว่า” ทำให้ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจสูงกว่าตามไปด้วย ยังคิดว่าความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจจะยืนระยะไปได้อีกยาวนานแค่ไหน
  • แต่ถ้าจ่ายค่าจ้างและสวัสดิการอยู่ “ต่ำกว่า” ตลาด เวลาหาคนมาทำงานไม่ค่อยจะได้ หรือถ้าได้ก็ได้ไม่ตรงอย่างที่ต้องการ ครั้นพอได้อย่างที่ต้องการ เขาก็ใช้เราเป็นที่ “พักร้อน” แล้วค่อยไปหางานที่อื่นต่อ ส่วนคนที่มีอยู่แล้วก็เข้าๆออก พวกไม่ออกไปไหน ส่วนหนึ่งก็ทำงานเหมือนไม่มีแรงจูงใจ
  • ที่สำคัญหนักกว่านั้นคือ คนเก่งที่พอมีอยู่ ก็ดันออกไปอยู่กับคู่แข่งอีกต่างหาก

เรื่องทำนองนี้มักวนเวียนให้เห็นแบบไม่รู้ว่าจะจบสิ้นกันที่ตรงไหนถ้าใครยังทำธุรกิจโดยไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้  เพราะปัญหาที่ว่ามานั้น ล้วนบั่นทอนความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจลงได้ทั้งสิ้น  การแข่งขันกันหรือความอยู่รอดและเจริญเติบโตของธุรกิจ จึงไม่อาจมองแค่มิติของกลยุทธ์ของธุรกิจหรือกลยุทธ์ทางการตลาด โดยมองข้ามความสำคัญของกลยุทธ์ด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ไปได้ ดังนั้น เรื่องของการบริหารค่าจ้างและสวัสดิการให้เหมาะสมและแข่งขันได้ในตลาดแรงงาน จึงแทบจะเรียกว่าอยู่คู่ไปกับการดำเนินธุรกิจที่ดีอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก
 ขนาดธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการบริหารค่าจ้างค่าตอบแทนต่างๆให้มีประสิทธิภาพ และมีการสำรวจค่าจ้างอย่างสม่ำเสมอ ยังต้องมานั่งวิเคราะห์กันเลยว่าจะต้องใช้ข้อมูลการสำรวจในขอบข่ายแค่ไหน เช่น

  • จะสำรวจค่าจ้างหาข้อมูลกันเฉพาะ “คู่แข่งขัน” หรือจะต้องสำรวจกับธุรกิจอื่นที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันหรือพื้นที่ใกล้เคียง หรือแม้กระทั่งสำรวจธุรกิจอื่นด้วย เพราะเวลาพนักงานลาออกไป ก็ไม่ได้ออกไปอยู่กับคู่แข่งขันเพียงอย่างเดียว แต่ธุรกิจอื่นก็แย่งคนจากเราไปด้วย
  • แถมเมื่อได้ข้อมูลการสำรวจมาแล้ว จะนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์และใช้ประโยชน์กันอย่างไร ผลสำรวจที่ได้มาจึงจะคุ้มค่า
  •  จะวางPositioning ค่าจ้างของเราที่ตรงไหนจึงจะอยู่ในตำแหน่งของการแข่งขันที่ดี ในขณะที่ก็ต้องไม่ทำให้ต้นทุนด้าน Labor cost ของเราสูงเกินไปจนกระทบความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ และอีกสารพันเรื่องที่ต้องคิด

   นี่ยังไม่ได้ว่ากันถึงว่า เวลาปรับโครงสร้างค่าจ้างกันจริงๆ นายจ้างจะเล่นกับเราด้วยหรือไม่ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต้องทำการบ้านอีกหลายยก เว้นแต่เป็นเรื่องที่นายสั่งมาโดยตรงอันนี้ก็จะกลายเป็นเรื่อง่าย
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เราเสนอ หรือจะเป็นเรื่องที่นายสั่ง ข้อมูลจาการสำรวจค่าจ้างและสวัสดิการต้องนำมาใช้ทั้งนั้นแหละครับ
  ข้อมูลเหล่านี้ เสกหรือยกเมฆเอาได้ที่ไหนละครับถ้าไม่สำรวจค่าจ้างและสวัสดิการกัน

ที่มา : " หนังสือสูตรคำนวณ (ไม่ลับ) ในการบริหารคน" หน้าที่ 87
โดยคุณไพศาล เตมีย

หมายเลขบันทึก: 276378เขียนเมื่อ 14 กรกฎาคม 2009 11:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 09:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

มาเยี่ยมชมผลงาน อย่าลืมสรุปด้วยครับ และบางถ้อยคำยังเป็นประโยคคำพูดของผู้เขียนอยู่ มีคำว่าครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท