ด.ญ.ศรีออน ปู่สม เด็กไร้สัญชาติแห่งแม่อาย ผู้ทนทุกข์ทรมานจากอาการป่วย ด้วยโรคลูคิเมียชนิดเฉียบพลันมาเกือบ ๓ ปี (ตอนที่ ๑) : มีสถานะบุคคลตามกฎหมายไทยอย่างไร ?


 

การสำรวจและวิเคราะห์สถานะบุคคลตามกฎหมายไทย

ของ ด.ญ.ศรีออน ปู่สม:

เด็กไร้สัญชาติแห่งแม่อาย ผู้ทนทุกข์ทรมานจากอาการป่วย

ด้วยโรคลูคิเมียชนิดเฉียบพลันมาเกือบ ๓ ปี

---------------------------------------------------------------

·       ด.ญ.ศรีออน เกิดเมื่อวันที่ ๑๗  กุมภาพันธ์  พ.ศ. ๒๕๔๕

·       ปัจจุบันอายุ ๗ ปี

--------------------------------------------

 สถานที่เกิดของ ด.ญ.ศรีออน ปู่สม

--------------------------------------------

·       เกิดที่โรงพยาบาลแม่อาย จ.เชียงใหม่

----------------------------------------------------------------------

เอกสารที่รัฐไทยออกให้เพื่อรับรองสถานะบุคคลตามกฎหมายไทยของ ด.ญ.ศรีออน ปู่สม

----------------------------------------------------------------------

·       สูติบัตร (ท.ร.๓ ออกตามหนังสือรับรองการเกิดที่ ๒๔๙/๔๕ ลงวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕) ออกโดย สำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลตำบลแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ปรากฎเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก คือ ๗-xxxx-xxxx-xx-x

-----------------------------------------

ภูมิลำเนาของ ด.ญ.ศรีออน ปู่สม

-----------------------------------------

·       เลขที่ ๑๑๗/ช หมู่ ๑๔  ต.ท่าตอน  อ.แม่อาย  จ.เชียงใหม่

--------------------------------------------------------

 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบิดาของด.ญ.ศรีออน ปู่สม

--------------------------------------------------------

·       บิดาชื่อนายวิริยะ ปู่สม ชาติพันธุ์ไทลื้อ

·       นายวิริยะเกิด ที่เมืองสาด จังหวัดเชียงตุง ประเทศพม่า  ประมาณ พ.ศ.๒๕๒๑

·       นายวิริยะได้อพยพเข้ามาจากประเทศพม่า ทางด่านหินแตกเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๖ และเข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านร่มไทย อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่

·       นายวิริยะได้รับการสำรวจและจัดทำทะเบียนประวัติชุมชนบนพื้นที่สูงตามแผนแม่บทฯ ฉบับที่ ๒ เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๔๒ โดยสำนักทะเบียนอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ปรากฎเลขรหัสประจำบ้าน คือ ๐๑๐-๙๐๒๙๙๔-๑ มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ ๘/ช หมู่ ๑๔  ต.ท่าตอน  อ.แม่อาย  จ.เชียงใหม่

·       นายวิริยะได้รับการถ่ายบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย(ชุมชนบนพื้นที่สูง) มีเลขประจำตัวประชาชน คือ ๖- xxxx-xxxx-xx-x

·       ปัจจุบันนายวิริยะประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป

----------------------------------------------------------

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับมารดาของด.ญ.ศรีออน ปู่สม

----------------------------------------------------------

·       มารดาชื่อนางหน่อย มะลิสร้อย ชาติพันธุ์ไทลื้อ

·       นางหน่อย เกิดที่เมืองตูม ประเทศพม่า ประมาณ พ.ศ.๒๕๒๖

·       นางหน่อย ได้อพยพเข้ามาจากประเทศพม่า ทางด่านหินแตกเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๗ และเข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านร่มไทย อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่

·       นายวิริยะได้รับการสำรวจและจัดทำทะเบียนประวัติชุมชนบนพื้นที่สูงตามแผนแม่บทฯ ฉบับที่ ๒ เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๔๒ โดยสำนักทะเบียนอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ปรากฎเลขรหัสประจำบ้าน คือ ๕๐๑-๐-๙๐๓๘๙๐-๒ มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ ๑๑๗/ช หมู่ ๑๔  ต.ท่าตอน  อ.แม่อาย  จ.เชียงใหม่

·       นางหน่อยได้รับการถ่ายบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย(ชุมชนบนพื้นที่สูง) มีเลขประจำตัวประชาชน คือ ๖- xxxx-xxxx-xx-x

·       ปัจจุบันนางหน่อย ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป

------------------------------------------

การศึกษาของด.ญ.ศรีออน ปู่สม

------------------------------------------

·       เรียนระดับชั้นอนุบาล ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กครูประกายดาว อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่

---------------------------------------------------------------

สถานะบุคคลตามกฎหมายไทยของด.ญ.ศรีออน ปู่สม

---------------------------------------------------------------

·       ขณะเกิด ด.ญ.ศรีออน ไม่ได้สัญชาติไทยโดยการเกิดโดยหลักดินแดนตามมาตรา ๗ () แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ..๒๕๐๘ ซึ่งถูกแก้ไขและเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๓๕ เนื่องจากตกอยู่ภายใต้มาตรา ๗ ทวิ วรรคหนึ่ง  กล่าวคือ ปรากฏว่ามีบิดาและมารดาเป็นผู้ที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง

·       นอกจากนั้น ด.ญ.ศรีออน ยังตกอยู่ภายใต้มาตรา  ๗ ทวิ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ..๒๕๐๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ ๒) ..๒๕๓๕ อันทำให้ ด.ญ.ศรีออน ถูกถือว่า เป็นผู้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองแม้โดยข้อเท็จจริงเธอจะเกิดในประเทศไทยก็ตาม

·       และแม้ว่า ด.ญ.ศรีออน จะไม่ได้สัญชาติไทยโดยการเกิดโดยหลักดินแดน แต่เธอก็เป็นบุคคลที่รัฐไทยรับรองสถานะบุคคลตามกฎหมายไทย โดยกำหนดเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก ให้เป็นกลุ่มบุคคลประเภท “๗”

·    นอกจากนี้นับตั้งแต่วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๔๘ เป็นต้นมา ด.ญ.ศรีออน ถือเป็นบุคคลตามยุทธศาสตร์การจัดการสถานะและสิทธิบุคคลตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๔๘  เนื่องจากเป็นบุตรของกลุ่มที่อพยพเข้ามาในประเทศและอาศัยอยู่เป็นเวลานานแล้ว โดยยุทธศาสตร์ได้กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาสถานะบุคคล คือ (๑) ให้สถานะบุคคลต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายแก่บุคคลที่มิได้มีเชื้อสายไทยซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศติดต่อกันเป็นเวลา ๑๐ ปีขึ้นไป และไม่สามารถเดินทางกลับประเทศต้นทางได้ และ (๒) ให้สัญชาติแก่บุตรที่เกิดในประเทศไทย แต่จากข้อเท็จจริงพบว่านับตั้งแต่มีมติคณะรัฐมนตรีฯฉบับดังกล่าวเป็นต้นมา ยังไม่ปรากฎว่ามีกฎหมาย หรือนโยบายฉบับใดที่ออกมากำหนดหลักเกณฑ์ในการได้สัญชาติไทย อันเป็นเหตุให้ ด.ญ.ศรีออน ยังคง “ไร้สัญชาติ” จนกระทั่งถึงปัจจุบัน

·    ต่อมาในวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๑ พระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ ๔) ..๒๕๕๑ มีผลใช้บังคับ มาตรา ๒๒ ของพระราชบัญญัติดังกล่าวกำหนดให้นำบทบัญญัติมาตรา ๗ ทวิ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.๒๕๐๘ ซึ่งถูกแก้ไขและเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๕๑ มาใช้บังคับกับบุคคลที่เกิดในประเทศไทยแต่ไม่ได้สัญชาติไทยเพราะมีข้อเท็จจริงตกอยู่ภายใต้มาตรา ๗ ทวิ วรรคหนึ่ง ดังนั้น โดยผลของมาตรา ๗ ทวิ วรรคสาม ประกอบกับมาตรา ๒๒ ดังกล่าว  ด.ญ.ศรีออน จะอยู่ในประเทศไทยในฐานะใด กรณีนี้เป็นไปตามกฎกระทรวงซึ่งต้องคำนึงถึงความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรและสิทธิมนุษยชนประกอบกัน แต่ในระหว่างที่ไม่มีกฎกระทรวง ด.ญ.ศรีออน ยังถูกถือว่าเป็นบุคคลเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง

---------------------------------------

ทำไมด.ญ.ศรีออน ปู่สมจึงไร้สัญชาติ ?

---------------------------------------

·       จากข้อเท็จจริง จะเห็นว่า ด.ญ.ศรีออน มีจุดเกาะเกี่ยวกับ ๒ ประเทศ กล่าวคือ ประเทศพม่า และ ประเทศไทย กล่าวคือ

·       ประเทศพม่าย่อมมีความสัมพันธ์กับบรรพบุรุษรุ่นบิดามารดา ปู่ย่า ตายาย ของด.ญ.ศรีออน เนื่องจากบรรพบุรุษรุ่นดังกล่าวเกิดในประเทศพม่า ก่อนที่จะอพยพเข้ามาตั้งรกรากในประเทศไทยเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๒

·       อย่างไรก็ดี เมื่อไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่าบรรพบุรุษรุ่นบิดามารดา ปู่ย่า ตายาย ของด.ญ.ศรีออน ได้รับการยอมรับจากรัฐบาลพม่าว่าบุคคลดังกล่าวมีสัญชาติพม่า ดังนั้น บรรพบุรุษของ ด.ญ.ศรีออนจึงประสบความไร้สัญชาติ

·       แม้ต่อมาเมื่อบรรพบุรุษของ ด.ญ.ศรีออน อพยพมาตั้งรกรากในประเทศไทยและได้รับการสำรวจและจัดทำทะเบียนประวัติตามกฎหมายไทยอันเป็นการขจัดความไร้รัฐและได้รับการรับรองสถานะบุคคลตามกฎหมายไทยแล้ว แต่ก็ยังปรากฎข้อเท็จจริงว่าบรรพบุรุษของ ด.ญ.ศรีออน ยังคงประสบความไร้สัญชาติ ตราบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน

·       ในขณะเดียวกัน ด.ญ.ศรีออน ยังมีความสัมพันธ์กับประเทศไทยอย่างเหนียวแน่น เนื่องจาก เกิด เติบโต และเรียนหนังสือ และใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย มาโดยตลอดตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบัน

·       ดังนั้น การได้สัญชาติไทยเท่านั้นที่จะเอื้อประโยชน์ต่อชีวิตความเป็นอยู่ของ ด.ญ.ศรีออน คนไร้สัญชาติ

-----------------------------------------------------------------------

 แนวคิดและวิธีการแก้ปัญหาสถานะบุคคลของด.ญ.ศรีออน ปู่สม

-----------------------------------------------------------------------

·       เนื่องจากบิดาและมารดาของ ด.ญ.ศรีออน เป็นบุคคลต่างด้าวที่ได้รับการสำรวจและจัดทำทะเบียนประวัติชุมชนบนพื้นที่สูงตามแผนแม่บทฯ ฉบับที่ ๒ ตั้งแต่วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๔๒ และได้รับการยอมรับให้มีสิทธิอาศัยชั่วคราวในประเทศไทยโดยผลของมาตรา ๑๗ แห่ง พ...คนเข้าเมือง พ..๒๕๒๒ (ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๔๓ มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๔๔ มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๔๕ มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๔๖ มติคณะรัฐมนตรี ๒๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๗ มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๔๘)  ซึ่งทำให้เธอมีสิทธิที่จะลงรายการสถานะบุคคลใน ทะเบียนราษฎร (ทร.๑๓)ทำให้มีสถานะเป็น ราษฎรไทยประเภทอยู่ชั่วคราวโดยผลของมาตรา ๓๘ วรรคหนึ่ง แห่ง พ...การทะเบียนราษฎร พ..๒๕๓๔ แก้ไขและเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๕๑ เธอจึงมีสถานะเป็น  คนไร้สัญชาติแต่ไม่ไร้รัฐที่ยอมรับให้สิทธิอาศัย

·       และนับตั้งแต่วันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๑ เป็นต้นมา ด.ญ.ศรีออน มีสิทธิได้รับการถ่ายบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยตามระเบียบสำนักทะเบียนกลางว่าด้วยการจัดทำบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย พ.ศ.๒๕๕๑ ซึ่งกำหนดให้บุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทยต้องมีบัตรประจำตัวภายในหกสิบวันนับแต่วันที่มีอายุครบห้าปีบริบูรณ์หรือ นับตั้งแต่วันที่นายทะเบียนเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน (ท.ร.๑๓)

·       นอกจากนี้ ปัญหาความไร้สัญชาติของ ด.ญ.ศรีออน จะหมดไปหากมีมติคณะรัฐมนตรีกำหนดหลักเกณฑ์ การได้สัญชาติไทยแก่บุตรของกลุ่มบุคคลต่างด้าวซึ่งมิได้มีเชื้อสายไทยที่อพยพเข้ามาในประเทศและอาศัยอยู่เป็นเวลานานแล้ว และไม่สามารถเดินทางกลับประเทศต้นทางได้ เช่นเดียวกับ ด.ญ.ศรีออน ดังนั้น ตราบเท่าที่ยังไม่มีการกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าว ด.ญ.ศรีออน จึงยังไม่อาจเข้าสู่สิทธิในสัญชาติไทยได้ตามเจตนารมณ์ของยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคลฯ


 

----------------------------------------

สำรวจข้อมูลพื้นฐานโดย นางสุ ดวงใจ

วิเคราะห์สถานะบุคคลโดย นางสาวกิติวรญา รัตนมณี

ครูผู้รับผิดชอบห้องเรียนการจัดการปัญหาสิทธิในสถานะบุคคลของคนไร้รัฐไร้สัญชาติในประเทศไทย

ห้องเรียนที่ ๓ บุคคลมีเลขประจำตัว ๑๓ หลัก เกิดในประเทศไทย แต่บิดามารดาต่างด้าวเกิดนอกประเทศไทย

๗ กรกฎาคม  พ.ศ.๒๕๕๒

----------------------------------------

 

 

หมายเลขบันทึก: 276141เขียนเมื่อ 13 กรกฎาคม 2009 17:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 20:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่าน


ความเห็น
  • ยังไงก้อขอเป็นกำลังใจให้น้องเค้าละกันนะครับ

ไหมคะ

อ.แหววไม่ค่อยเห็นด้วยกับไหมคะ ที่เสนอให้เพิ่มชื่อศรีออนใน "ทะเบียนประวัติ" มันจะมีประโยชน์อะไรคะ

ทะเบียนประวัตินั้น ทำขึ้นเพื่อบันทึกตัวบุคคลของคนที่ไม่ได้รับการรับรองสถานะบุคคลตามกฎหมายของรัฐ กล่าวคือ เป็นคนไร้รัฐ

เมื่อศรีออนมีชื่อใน ท.ร.๓ กล่าวคือ สูติบัตร และใน ท.ร.๑๓ กล่าวคือ ทะเบียนบ้าน จะต้องย้อนเอาชื่อไปใส่ในทะเบียนประวัติเพื่ออะไรคะ

กฎหมายใดคะที่กำหนดให้ทำเช่นนั้น เป็นการสร้างปัญหาให้ชาวบ้านเกินสมควรไหมคะ

เพื่ออะไรคะ ข้อดีคืออะไรคะ นึกไม่ออกจริงๆ

ตอนนี้ ให้คนแถวสองพาไปยื่นขอ ท.ร.๑๓ แล้วยังทั้งครอบครัวเลย อันนี้น่าจะทำได้เลย หากมีนโยบายหลักประกันสุขภาพขึ้นว่า มีความเป็นไปได้ที่จะผูกติดกับทะเบียนบ้านนะคะ

อดีตคนบัตรเขียวขอบแดงและบุตรมีสิทธิอาศัยนะคะ มีสิทธิในทะเบียนบ้านค่ะ

กรณีของศรีออน ต้องการมติคณะรัฐมนตรีให้สัญชาติไทย เพราะไม่อยู่ในมติคณะรัฐมนตรีสำหรับบุคคลบนพื้นที่สูงดั้งเดิม การยื่นคำขอตามมาตรา ๗ ทวิ จึงน่าจะยังไม่ได้ ขอไหมเช็คอีกทีกับ อ.อุดมเขต

ไปหาข้อมูลให้ชัดกว่านี้ แล้วมาเขียนต่อให้ชัดและจบ

น่าจะกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาของพ่อแม่ด้วยนะ

ลืมชื่นชมว่า อันนี้ ก็เป็นการเริ่มจับ ๑ ใน ๙๖ กรณีนะคะ

อันนี้คงไม่ใช่หนังสือรับรองมังคะ มันคงเป็นเพียงการสำรวจและวิเคราะห์สถานะบุคคลมังคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท