แนวคิดทางพฤติกรรมศาสตร์
พฤติกรรม หมายถึงการกระทำหรือการแสดงออกของสิ่งมีชีวิตทั้งที่ปรากฏออกมาให้เห็นหรือสัมผัสได้ และไม่สามารถเห็นหรือสัมผัสได้ เป็นสิ่งที่สิ่งมีชีวิตกระทำหรือปฏิกิริยาต่างๆแสดงออก ซึ่งแสดงออกทั้งภายในและภายนอก ทั้งนี้พฤติกรรมสามารถสังเกตได้และสังเกตไม่ได้หรือสัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5หรือสามารถวัดได้ด้วยเครื่องมือ
องค์ประกอบของพฤติกรรม
ตามทฤษฏีของ Bloom ประกอบด้วย 3 ส่วนด้วยกันคือ
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของมนุษย์
พัฒน์ สุจำนงค์ แบ่งองค์ประกอบที่มีผลต่อพฤติกรรมของคนเป็น 10 ประการ คือ กลุ่มสังคม บุคคลที่เป็นแบบอย่าง สถานภาพ ความเจริญด้านเทคนิค กฎหมาย ศาสนา ขนบธรรมเนียมประเพณี สภาพแวดล้อม ทัศนคติ การเรียนรู้ในทางจิตวิทยาสมัยใหม่
ปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการและพฤติกรรมของมนุษย์
สามารถแบ่งได้เป็น 2 ปัจจัยหลักๆคือ ด้านปัจจัยด้านพันธุกรรม และด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากทั้ง 2 ปัจจัยนี้ทำให้บุคคลมีความแตกต่างกันในด้านต่างๆทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา
สิ่งที่กำหนดพฤติกรรมมนุษย์ คือ ลักษณะนิสัยส่วนบุคคล และกระบวนการทางสังคมอื่นๆ ซึ่งลักษณะนิสัยนั้นประกอบด้วยความเชื่อ ค่านิยม ทัศนคติและบุคลิกภาพ ส่วนกระบวนการทางสังคมที่ไม่เกี่ยวกับลักษณะนิสัยของมนุษย์ คือสิ่งกระตุ้นพฤติกรรมและความเข้มข้นของสิ่งกระตุ้น สถานการณ์ จึงถือได้ว่าปัจจัยทั้งหมดนี้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกำหนดพฤติกรรมของมนุษย์
การเรียนรู้ หมายถึง กระบวนการที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ถาวร หรือเปลี่ยนแปลงศักยภาพในการเกิดพฤติกรรมที่ค่อนข้างถาวร อันเป็นผลจากประสบการณ์ไม่ได้มาจากวุฒิภาวะหรือสัญชาตญาณ
องค์ประกอบการเรียนรู้
ตามความหมายดังกล่าวการเรียนรู้มีสิ่งที่ต้องคำนึงถึง 5 ประการคือ
ทฤษฏีการเรียนรู้
ทฤษฏีการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยม ประกอบด้วย
ทฤษฏีการวางเงื่อนไข หลักการคือการให้เงื่อนไขบางอย่างกับสิ่งเร้าสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้
ทฤษฏีการวางเงื่อนไขแบบการกระทำ ที่เน้นการกระทำของผู้รับการทดลองหรือผู้ที่เรียนรู้มากกว่า และผลที่ตามมานั้นจะเรียกว่าการเสริมแรง ตัวเสริมแรงนี้มีทั้งตัวเสริมแรงทางบวก และทางลบ
ทฤษฏีสัมพันธ์เชื่อมโยง เป็นการเรียนรู้เกิดจากการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้ากับการตอบสนอง ซึ่งสรุปกฎการเรียนรู้นี้ไว้ 3 ประการ คือกฎความพร้อม กฎการฝึกหัด และกฎความพอใจ ซึ่งทั้ง 3 กฏนี้จะส่งผลต่อการทำให้พันธะหรือสิ่งเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้ากับการตอบสนองมีความเข้มแข็งมั่งคงขึ้นหรืออ่อนกำลังลง
ทฤษฏีการเรียนรู้กลุ่มปัญญานิยม เป็นกลุ่มการเรียนรู้ที่เน้นองค์ประกอบด้านการสร้างความคิดมากกว่าด้านพฤติกรรม
ทฤษฏีการเรียนรู้ปัญญาสังคม กลุ่มนี้มีแนวคิดว่า พฤติกรรมของมนุษย์ขึ้นอยู่กับผลของการร่วมกันระหว่างกระบวนการทางปัญญาของบุคคลและสิ่งแวดล้อม ยกตัวอย่างเช่น
ทฤษฏีปัญญาสังคม ของ Bandura ซึ่งมีแนวคิดพื้นฐานที่สำคัญอยู่ 3 ประการคือ ประเด็นเกี่ยวกับการเรียนรู้ในสภาพธรรมชาติ ประเด็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนและสิ่งแวดล้อมและประเด็นเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างการเรียนรู้กับผลงาน
องค์ประกอบสำคัญของการเรียนรู้นั้นมี 3 ประการด้วยกัน คือ แม่แบบในรูปพฤติกรรมต่างๆ ผลกรรมจากพฤติกรรมของแม่แบบ และกระบวนการทางปัญญาของผู้เรียน
ซึ่งหากจะมองถึงความสัมพันธ์ระหว่างกระบวนการทางปัญญาและผลการกระทำที่แม่แบบได้รับ จะเรียกว่า กระบวนการเรียนรู้ และกระบวนการเรียนรู้ในทรรศนะของ Blandura มี 4 ขั้นตอน คือ
1.ผู้เรียนเกิดความสนใจ เอาใจใส่ 2. การจดจำ 3. กระบวนการปฏิบัติตามแม่แบบ 4. กระบวนการจูงใจ
ทฤษฏีลำดับขั้นความต้องการของ Maslow’
ลำดับขั้นความต้องการนี้ เรียกว่า Hierarchy of needs มี 5 ลำดับขั้นตอน คือ
ความแตกต่างระหว่างบุคคลในการเรียนรู้
ความแตกต่างระหว่างบุคคล หมายถึง ลักษณะของบุคคลแต่ละคนซึ่งไม่เหมือนกัน แตกต่างกันมีลักษณะหรือแบบไม่ซ้ำใครและไม่เหมือนใคร ความแตกต่างระหว่างบุคคลทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา ซึ่งความแตกต่างระหว่างบุคคล ทำให้บุคคลมีเอกลักษณ์ของตนเอง
การเรียนรู้หมายถึง การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปจากเดิมไปสู่พฤติกรรมใหม่ที่ค่อนข้างถาวรอันเป็นผลมาจากประสบการณ์หรือการฝึกฝน
ดังนั้นความแตกต่างระหว่างบุคคลในการเรียนรู้หมายถึง ความแตกต่างของแต่ละบุคคล หรือลักษณะเฉพาะตนในเรื่องการเรียนรู้ หรือการสร้างพฤติกรรมใหม่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสามารถทางด้านร่างกาย สติปัญญา ความคิด ความจำ การแก้ปัญหา ตลอดจนการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์แวดล้อมได้อย่างเหมาะสม และอาจหมายรวมถึงลักษณะเฉพาะตนของบุคคลในเรื่องการเรียนรู้ การแปรความหมาย และการสื่อสาร ตลอดจนระดับความสามารถทางสัมฤทธิ์ผลของบุคคล ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆด้วย ซึ่งความแตกต่างระหว่างบุคคลยังสามารถจำแนกได้ 2 ประเภท คือ ความแตกต่างด้านร่างกาย และความแตกต่างด้านอารมณ์
ปัจจัยที่ส่งผลให้บุคคลมีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน
2.1 สภาพแวดล้อมก่อนเกิด คือสภาพภายในมดลูกเป็นสภาพที่ดีสำหรับการพัฒนาการของทารก
2.2 สภาพแวดล้อมขณะเกิด คือ ขณะเกิดต้องมีความปลอดภัย
2.3 สภาพแวดล้อมหลังเกิด มีอิทธิพลและสำคัญมากต่อชีวิตของบุคคล ดังรายละเอียดดังนี้
- ความแตกต่างทางสังคม คนที่มาจากสังคมที่แตกต่างกันย่อมมีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน
- ครอบครัว คนจะมีพฤติกรรมอย่างไรนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับการอบรมเลี้ยงดู และความสัมพันธภาพภายในครอบครัว
- ความแตกต่างทางเพศ ความแตกต่างในเรื่องต่างๆทางเพศชายและหญิง การกำหนดบทบาททางสังคม วัฒนธรรม รวมถึงยังส่งผลไปยัง อารมณ์ และระเบียบวินัย อีกด้วย
- ความแตกต่างทางด้านอายุ หรือวัยของคนเรามีส่วนเกี่ยวข้องและทำให้เกิดความแตกต่างในด้านประสบการณ์ ความรับผิดชอบ ความสนใจ ความรอบรู้ ความสามารถในการแก้ปัญหา ความคิด บุคลิกภาพและวุฒิภาวะด้านต่างๆ
- ความแตกต่างด้านสติปัญญา คือความสามารถทางด้านระดับไอคิว คนเราแต่ละคนย่อมมีความสามารถในการทำสิ่งต่างๆแตกต่างกัน
ดี มั๊ก มั๊กน้า คร้า