ล้างผักถูกวิธี หนีมะเร็ง


วิธีล้างผักให้สะอาดเพื่อลดปริมาณสารพิษ

    ยุคสุขภาพนิยม ใครๆก้หันมาใส่ใจสุขภาพ  อาหารก็เน้นถั่ว เน้นผัก ว่าด้วยเรื่องผักแล้ว หากถูกการันตรีว่าเป็นผักปลอดสารพิษ หรือ ผักอินทรีย์ด้วยแล้ว ยิ่งสร้างความรู้สึกว่าอยากบริโภคสดๆ แบบว่าไม่ต้องล้างน้ำเพราะเชื่อว่าปลอดสารพิษแน่นอน  ซึ่งข้อนี้เป็นอันตรายเพราะแม้จะเป็นผักอินทรีย์ที่จำหน่ายในตลาดสดติดแอร์(ซูปเปอร์มาร์เกต) ยังถูกตรวจพบบ่อยครั้งว่ามีสารเคมีตกค้าง  ฉนั้นไม่ว่าจะซื้อผักจากแหล่งใดก็ตามอย่าลืมล้างให้ถูกวิธีด้วย  บันทึกนี้จึงอยากเอาผลการวิจัยในเรื่องการล้างผักด้วยวิธีการต่างมาเสนอ ดังนี้ครับ

วิธีล้างผักให้สะอาดเพื่อลดปริมาณสารพิษ

  1. ลอกหรือปอกเปลือก แล้วแช่น้ำสะอาดนาน 5-10 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งลดปริมาณสารพิษตกค้างได้ร้อยละ 27-72

  2. แช่น้ำปูนใส นาน 10 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง ลดปริมาณสารพิษตกค้างได้ร้อยละ 34-52

  3. การใช้ความร้อน ลดปริมาณสารพิษตกค้างได้ร้อยละ 48-50

  4. แช่น้ำด่างทับทิม นาน 10 นาที (ด่างทับทิม 20-30 เกล็ด) ผสมน้ำ 4 ลิตร) ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง ลดปริมาณสารพิษตกค้างได้ร้อยละ 35-43

  5. ล้างด้วยน้ำไหลจากก๊อก นาน 2 นาที ลดปริมาณสารพิษตกค้างได้ร้อยละ 25-39

  6. แช่น้ำซาวข้าว นาน 10 นาที และล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งลดปริมาณสารพิษตกค้างได้ร้อยละ 29-38

  7. แช่น้ำส้มสายชูหรือเกลือป่น (น้ำส้มสายชูหรือเกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 4 ลิตร) และล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งลดปริมาณสารพิษตกค้างได้ร้อยละ 29-38

  8. แช่น้ำยาล้างผัก นาน 10 นาที และล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งลดปริมาณสารพิษตกค้างได้ร้อยละ 22-36

      รู้อย่างนี้แล้ว เสียเวลาซักนิด ล้างผักให้ถูกวิธีลดพิษจากสารเคมีลงได้มากครับ

ข้อมูลโดย  ฝ่ายตรวจวิเคราะห์สารเคมีและบริการเครื่องมือ กองป้องกันและกำจัดศัตรูพืช กรมส่งเสริมการเกษตร

หมายเลขบันทึก: 272445เขียนเมื่อ 1 กรกฎาคม 2009 10:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 11:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

มาทักทายครับ  หายไปนานเลยนะครับ  ระลึกถึงอยู่เสมอครับ

 

ขอบคุณครับ pa daeng

ที่แวะมาเยี่ยมครับ

ขอบคุณครับ นายก้ามกุ้ง ที่ยังแวะมาอ่าน ให้กำลังใจบันทึกนี้เสมอครับ

สวัสดีค่ะ

หนูรีตามมาถึงบ้าน แวะมาเยี่ยมและขอขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ

ขอบคุณน่ะค่ะ

ขอบคุณครับ คุณหนูรีที่แวะมาเยี่ยมครับ

สวัสดีน้องชาย

  • เพิ่งจะค้นพบ..มาเป็นกำลังใจ
  • ทั้ง2 บร็อก มีประโยชน์มากครับ

สงสัยจึงมาถามครับ...

เท่าที่อ่านเอาน้ำซาวข้าวมาล้างผักลุงคิดว่าคงเป็นน้ำซาวข้าวจ้าวในการหุงข้าวใช่ใหมครับ..

หากเรามีน้ำข้าวมวก(น้ำแช่ข้าว/น้ำข้าวหม่าคนล้านนา)จะนำมาล้างผักได้หรือไม่..เพราะน้ำข้าวมวกทางหมอล้านนานำมาเป็นกระสายยาสมุนไพรรักษาโรคสัตว์ 

 ลุงอ่านแล้วคิดว่าหากนำน้ำข้าวมวกมาล้างผักอาจจะทำให้ผักปลอดสารพิษลงได้บ้าง..

จากลุงหนาน..พรหมมา

ขอบคุณครับ ท่านเกษตรยะลา ที่มาเยี่ยมครับผมเองติดตามผลงานท่านตลอดมาเช่นกันครับ

ยินดีครับ คุณลุงหนานพรหมมา

จริงทีเดียวครับ คุณลุงเพราะคนที่วิจัยเป็นคนไทเลยใช้น้ำซาวข้าว แต่สำหรับคนเมือง น้ำเข้ามวกดีที่สุดครับ คุณลุงเคยสงสัยก็ครับ ว่าเวลาละอ่อนเจ็บคอเขาจะให้กินน้ำเข้ามวก กับเกลือตัวปู้ เพราะ ในนำข้าวมวกจะมีกรดยูริก และ เชื้อจุลินทรีย์ หลายชนิดที่เป็นประโยชน์และที่สำคัญสามารถต่อต้านเชื้อโรคที่ทำให้คออักเสบได้ ดังนั้นภูมิปัญญหาคนโบราณเลยให้เด็กกินนำเข้ามวกครับ

สำหรับการล้างผัก ผมเองก็เคยทดลองใช้น้ำเข้ามวกล้างผัก แล้วนำไปตรวจหาสารพิษ ปรากฏว่า ตรวจหาสารพิษมะเจอเลยครับ แสดงว่าน้ำเข้ามวกช่วยลดสารพิษลงได้นักมาก

ขอบคุณคุณลุงครับที่เข้ามาเยี่ยม

ขอบคุณสำหรับการไปเยี่ยมชมบล๊อคผมนะครับ

เรื่องผักนี่ปัจจุบันเป็นปัญหาใหญ่อยู่นะครับ สุดท้ายเห็ดราก็พลอยโดนไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ผมเชื่อว่ายาฆ่าแมลงในที่สุดก็มีผลต่อพวกเห็ดราเหมือนกันนะครับ น่าจะลองทำวิจัยดูนะครับ น่าสนใจอย่างยิ่ง เผื่อว่าจะได้ประชาสัมพันธ์ในเวลาต่อ ๆ ไปข้างหน้าครับ

ขอบคุณคุณส้มโป้ยครับ

อยากทราบว่าด่างทับทิม 20 - 30 เกล็ด นั้นมีน้ำหนักเท่าใดค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท