ฉบับที่ 17 (8 เมษายน 2552)
เศรษฐกิจโลกวิกฤตเพราะขาดธรรมาภิบาล โอกาสแห่งสติในโลกที่ไม่แน่นอน
สุริชัย หวันแก้ว
วิกฤตเศรษฐกิจในปัจจุบันสะท้อนถึงรากเหง้าของปัญหาบางด้านจากโลกาภิวัตน์ร่วมสมัย แรงขับเคลื่อนจากวิวัฒนาการของระบบเศรษฐกิจ ที่ภาคการเงินอิงอยู่กับการเก็งกำไรจนเสียดุล จนมีนักวิชาการที่ชี้ว่า โลกาภิวัตน์กระแสนี้ทำให้โลกกลายเป็น "บ่อนขนาดใหญ่" ที่สักวันหนึ่งจะต้องพ่ายแพ้ต่อความสำเร็จของตนเอง
นักคิดบางคนชี้ว่าวิกฤตหรือมหาวิกฤตครั้งนี้เป็นอาการของความปั่นป่วนสับสนอันมีแบบแผน และแบบแผนที่ว่าเป็นผลมาจากความโลภ ที่ไม่มีการกำกับทั้งจากภายในหรือภายนอกระบบเศรษฐกิจ
ข้อที่น่าสังเกตคือ มีนักเศรษฐศาสตร์จำนวนน้อยมากที่ได้ชี้ถึงภาวะความเสี่ยงภัยของระบบเศรษฐกิจโลกไว้อย่างเป็นจริงเป็นจัง
ในระดับโลกมีเพียงคนอย่าง โจเซฟ สติกลิทซ์ (โนเบล 2001) พอล ครุกแมน (โนเบล 2008) เท่านั้น ที่คาดการณ์เรื่องวิกฤตเช่นนี้ไว้ล่วงหน้าอย่างชัดเจน
ภาวะของเศรษฐกิจโลกขณะนี้ยังไม่มีวี่แววส่อว่าพลวัตของวิกฤตได้ก้าวมาถึงจุดต่ำสุดแล้วแต่อย่างใด
ขณะเดียวกันความเกี่ยวพันเชื่อมโยงระหว่างเศรษฐกิจไทยกับโลกทำให้การคาดการณ์ในอนาคตขาดความแน่นอน แม้ว่ายังไม่มีองค์ความรู้ ที่หนักแน่นพอ (แม้แต่ในวงเศรษฐศาสตร์เอง) ที่จะเขียนภาพที่ชัดเจนและแน่นอนก็ตาม
ขณะที่ปัญหาต่อเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจทำให้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนรวมทั้งชุมชน ทุกระดับมิอาจอยู่นิ่งเฉย ปัญหาที่เผชิญภาวะความไม่มั่นคงปรากฏตัวในทุกระดับของชีวิต (Human Insecurities) ทุกฝ่ายจึงต้องดำเนินการในทางที่เห็นควรอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
อ่านทั้งหมด click : ดาวน์โหลด
ไม่มีความเห็น