ตายอย่างสงบ... ของขวัญสุดท้ายของการมีชีวิต

แพทย์และพยาบาลที่ทำงานคลุกคลีกับผู้ป่วยระยะสุดท้ายต่างสะท้อนว่า การจากไปอย่างสงบเป็นรางวัลหนึ่งของชีวิต “การที่เราเข้าใจความต้องการลึก ๆ ของผู้ที่ใกล้จากไป และช่วยเขาได้รับฟังและตอบสนองความต้องการนั้น จะช่วยให้ผู้นั้นจากไปอย่างสงบได้” นายแพทย์พรเลิศกล่าว “เราต้องดูแลคนไข้ทั้งทางร่างกายและจิตใจ”

ผู้ป่วยมะเร็งคนหนึ่งกำลังรู้สึกหมดหวังกับชีวิต อาจเป็นเพราะแพทย์ในโรงพยาบาลที่กรุงเทพผู้ซึ่งดูแลเธอมาตลอดบอกให้เธอกลับบ้าน เมื่อถึงบ้านที่ต่างจังหวัด แพทย์และพยาบาลในโรงพยาบาลประ จำจังหวัดบอกเธอว่า เธอยังมีทางเลือก จะดูแลตัวเองแบบไหน เช่น ถ้าหายใจไม่สะดวก จะทำอะไรได้บ้าง ใส่ท่อแล้วเป็นอย่างไร ไม่ใส่เป็นเช่นไร

จากการให้ข้อมูลในการดูแลเยียวยา บอกข้ออ่อน ข้อดีของการดูแลแต่ละแบบแล้ว คนไข้เอากลับไปคิด เธอบอกว่า “ที่ผ่านมาไม่เคยนอนหลับได้ดีเลย เพราะกังวล แต่เมื่อคืนนอนได้ดี รู้สึกว่าตัวเองมีทางเลือก มีคุณค่า ดีใจที่ได้โอกาสเลือกทางเดินของชีวิตเอง”

รศ. แพทย์หญิง ศรีเวียง ไพโรจน์กุล จากขอนแก่นกล่าวว่า “แพทย์ลืมดูผู้ป่วยทั้งตัว ไม่ใช่แค่ร่างกาย แต่เป็นเรื่องสังคม ครอบครัว และ เศรษฐกิจด้วย"

“แพทย์มีบทบาทสำคัญในการกำหนดการตายของคนว่าจะไปดีหรือไม่ด้วย แพทย์ช่วยให้ญาติและคนไข้สบายใจได้ว่า บนหนทางที่เขาได้เลือกไว้นี้ แพทย์จะดูแลให้เราเดินทางบนเส้นทางที่เราเลือกได้ราบรื่น และมีความพอใจสุขที่สุด” แพทย์หญิงศรีเวียงกล่าว

[สุ-มหาวิทยาลัยชีวิต ที่ไม่มีวันปิดทำการ]

บทความสะท้อน ความรู้สึกก่อนตายได้ดีมาก  และถ้าเป็นไปได้ ก่อนตายก็ขอให้มีทางเลือก โดยขอตายอยู่ที่บ้าน จะอบอุ่นกว่า

ขอบคุณ บทความดีๆนี้ จะเข้ามาอ่านบ่อยๆคะ

[หยั่งราก ฝากใบ]

สวัสดีค่ะ

มาอ่านเพิ่มเติมความรู้ค่ะ

การจากไปอย่างสงบเป็นรางวัลหนึ่งของชีวิต

(^___^)