17 มิ.ย. 52 ผมเดินทางมาตำบลหนองพันจันทร์ อำเภอบ้านคา จ.ราชบุรี เพื่อร่วมการประชุมปรึกษาหารือประจำเดือนของสภาองค์กรชุมชนตำบลหนองหนองพันจันทร์ เรื่องที่มีการปรึกษาหารือมี 2 เรื่องครับ คือเรื่องการเตรียมการเวทีประชุมระดมความคิดเห็นการจัดทำเป้าหมายตัวชี้วัดการพัฒนาของตำบล และเรื่องการติดตามความก้าวหน้าการประมวลภาวะหนี้สินของคนในตำบลหนองพันจันทร์ ซึ่งเรื่องการแก้หนี้เป็น 1 ใน 8 ประเด็นเป้าหมายการพัฒนาครับ จากการประมวลข้อมูลมีสิ่งที่น่าสนใจอยู่หลายเรื่องครับ โดยเฉพาะเรื่องหนี้สิน และเงินทุน มีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
· หนี้สถาบันการเงินภายนอก(ธกส.) จำนวน 82.2 ล้านบาท
· หนี้กองทุนหมุนเวียนในหมู่บ้านและสถาบันการเงินชุมชน 20ล้านบาท
รวมหนี้ทั้งตำบลประมาณ 100 ล้านบาทครับ
· ในชุมชนมีกองทุนหมุนเวียนในหมู่บ้านและสถาบันการเงินชุมชน 20ล้านบาท
สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินของชุมชน ที่ประชุมสภาองค์กรชุมชนได้เสนอแนวทางดังนี้
1. การรณรงค์ให้คนทั้งตำบลมีความตระหนักในการจัดทำ บ/ช ครัวเรือน จากการประเมินเบื้องต้นน่าจะมีไม่เกิน 3%ของครัวเรือนที่รู้จักทำ บ/ช ครัวเรือน
2. การรณรงค์กับคนทั้งตำบลให้ตระหนักในเรื่องปัญหาหนี้สินของคนทั้งตำบลแล้วช่วยกันหาทางแก้ร่วมกัน
3. การน้อมนำเอาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาสู่การประยุกต์ใช้ในชุมชน ที่หมู่ 5 มีศูนย์ปราชญ์ชาวบ้านและมีศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงของชุมชนอยู่แล้วจึงควรมาใช้ขยายผล
4. การรณรงค์ให้คนทั้งตำบลใช้ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยชีวภาพ เพื่อลดต้นทุนการผลิต ซึ่งมีโรงงานปุ๋ยของชุมชนอยู่แล้ว
5. การบริหารกองทุนในชุมชนให้ส่งผลต่อการลงทุนและนำเงินกู้ไปใช้เกี่ยวกับการสนับสนุนปัจจัยการผลิตอย่างจริงจัง
6. การรณรงค์ให้คนทั้งตำบลมีความตระหนักในการออมกับสถาบันการเงินชุมชน เพื่อสถาบันการเงินชุมชน จะได้มีบทบาทและความสามารถในการเป็นแกนในการแก้หนี้ได้
นี่เป็นร่างข้อเสนอเบื้องต้นของสภาเพื่อนำเข้าสู่วงการประชุมระดมความคิดเห็นการจัดทำเป้าหมายตัวชี้วัดการพัฒนาของทั้งตำบล ในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ครับ
ขอบคุณ คุณมนัญญาครับ
เป็นความคาดหวังครับ ว่าการประชุมแบบรวมพลังสร้างอนาคตจะเป็นกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันแบบมีความหวัง
เชื่อว่าคนเราหากคิดคนเดียวก็จะมีพลังน้อย หากร่วมมือกันจะเป็นพลังทวีคูณครับ เมื่อคนเราได้พูดคุยกันอย่าสร้างสรรค์ เปิดใจ อย่างน้อยก็จะทำให้เราก็มีความเชื่อมั่นในคนและในพลังชุมชนท้องถิ่นครับ มีหลายพื้นที่กำลังค่อยๆแกะค่อยๆฟื้นกับเรื่องนี้ครับ
พวกเขา ยังต้องการพลังใจ ต้องการการหนุนเสริม
เช่นในพื้นที่ที่เราไปเรียนรู้ด้วย เราเชื่อว่าคนในชุมชนท้องถิ่นที่เราทำงานด้วย ก็เหมือนคนในพื้นที่อื่นๆ ที่สามารถพัฒนาได้ เรียนรู้ได้ พวกเขามีจุดแข็งคืออยู่ในพื้นที่มานาน มีความรักความผูกพันกันและกันเป็นพี่น้องและมีความภาคภูมิใจกับแผ่นดินของตน พวกเขามีความปรารถนาที่จะเห็นและมุ่งที่จะสร้างชุมชนที่ดี ให้เป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็งและมีสิ่งแวดล้อมที่ดี
เขารู้ปัญหา รู้จุดแข็ง รู้จุดอ่อนของคนและของชุมชนท้องถิ่นตนเองมากกว่าใครๆเมื่อให้โอกาส ได้รับความเชื่อมั่น
คนเหล่านั้นก็จะช่วยกันคิดค้นหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆและลงมือแก้ไข มีความรับผิดชอบดูแลชุมชนท้องถิ่นของเขาด้วยความกระตือรือร้นในการลงมือทำ เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของ หากผิดพลาดหรือล้มเหลวก็สามารถสรุปบทเรียนและเรียนรู้ใหม่ แก้ไขใหม่
และยกระดับ ทั้งการเรียนรู้และการปฏิบัติได้ครับ(หวังว่าครับ)
ขอบคุณครับที่มาเยี่ยมทักทาย
อ.ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ให้คำปรึกษาการจัดทำเป้าหมายและตัวชี้วัดการกับสมาชิกสภาองค์กรชุมชนตำบลหนองพันจันทร์ โดยเฉพาะการแก้หนี้ที่เป็นทุกข์ของคนในชุมชน