คำสอนจากคำสวด


คำสอนจากคำสวด
มีเพื่อนมาผมถามว่า การสวดมนต์จำเป็นไหม ต้องสวดไหม เจอคำถามแบบนี้เข้าไป ท่านอื่นเห็นว่าเป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับผมนะครับ การสวดมนต์ก็เป็นการปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่งเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่า เวลาที่เราสวดมนต์ เราทำอะไร หลายคนอาจจะงงว่า อ้าว ตอนสวดมนต์ก็ต้องสวดมนต์สิ จะทำอะไรอีก คนที่งงนี่อาจจะไม่เคยสวดบทยาวๆ หรือไม่ก็สวดมนต์แบบไม่รู้สึกตัวครับ เพราะเวลาที่สวดมนต์นั้น ถ้าเจอบทใหม่ๆ เราก็จะตั้งใจอ่าน อย่างแข็งขัน แต่ถ้าเป็นบทที่ชำนาญกันแล้ว เราก็สวดออกไปด้วยความชำนาญ จนบางทีเผลอไปคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ได้ตลอดเวลาเลยครับ นี่แหละครับ สวดมนต์โดยไม่รู้ตัว
 
อย่าลืมว่าการมีสตินั้นสำคัญมาก เราสามารถระลึกรู้ตัวได้แทบทุกอริยาบทของเรา เราสามารถระลึกตัวได้แทบทุกอารมณ์ที่เข้ามากระทบเรา แต่เรามักเผลอไป ลืมไป ไม่เป็นไรครับ เผลอก็ให้รู้ไปว่าเผลอ ไม่ต้องหัวเสีย เผลอแล้วเรารู้ว่าเผลอเราก็ได้ 1 คะแนน ถ้าเราหัวเสียตามมาแล้วเรารู้อีก เราก็ได้อีก 1 คะแนน คอยสะสมคะแนนหยอดกระปุกธรรมไปเรื่อยๆครับ เราสวดมนต์เราก็รู้ตัวว่าเห็นคำว่าอะไรในหนังสือสวดมนต์ หรือกำลังพูดคำว่าอะไรออกไป เผลอไปคิดก็รู้ว่าเผลอไปคิดแล้ว ปวดขาขึ้นมาก็รู้ว่ามีอาการปวดเกิดขึ้นที่ขา อยากขยับเพื่อลดความปวด ก็รู้ว่ามันไม่ไหว อยากจะขยับ ขยับเสร็จแล้วสบายก็รู้ว่าเออ สบายแล้ว รู้ง่ายๆแบบนี้แหละครับ ขยันรู้เข้าไป แล้วจะพบว่าการสวดมนต์ธรรมดาๆนี่แหละ เป็นยิ่งกว่าปาฎิหาริย์ต่างๆเสียอีก
 
ไหนๆวันนี้ก็พูดถึงเรื่องการสวดมนต์แล้ว อยากจะอธิบายความหมายที่แฝงไว้สักหน่อยครับ เคยสวดบทสรรเสริญคุณพระธรรมไหมครับ ที่สวดว่า
 
โยโส สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ
 
รู้ไหมครับ บทนี้แฝงคำสอนยิ่งใหญ่เอาไว้เตือนเรานะครับ มาดูความหมายกันดีกว่า โยโส สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม หมายถึง พระธรรมนั้นใด เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว สันทิฏฐิโก คือ เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติ พึงเห็นได้ด้วยตนเอง อะกาลิโก คือ เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล เอหิปัสสิโก คือ เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกับผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด โอปะนะยิโก คือ เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ นี่ครอบคลุมครับ แปลว่า เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน
 
เห็นไหมครับ จากบทที่เราคุ้นเคย พอเรารู้ความหมายที่แฝงไว้ เราก็จะรู้ทันทีว่า พระธรรมที่พระพุทธองค์สอนไว้ให้แก่พวกเรานั้น ก็เปรียบเสมือนว่าพระองค์ได้ชี้ทางอันประเสริฐแก่เราแล้ว เราต้องเป็นผู้ที่ศึกษา และปฏิบัติด้วยตัวเราเอง ตรงนี้สำคัญนะครับ เราจะไปกราบไหว้พระ หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์แค่ไหน หรือครูบาอาจารย์ ร้อยแปดทั่วสารทิศ ก็ไม่ช่วยให้เราบรรลุธรรม ถ้าเราไม่ลงมือปฏิบัติด้วยตัวเราเอง  และยังบอกเราอีกด้วยว่า อะกาลิโก เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล โอโห อันนี้เป็นกำลังใจให้เราเลยนะครับ แม้พระพุทธองค์จะดับขันธ์ไปแล้ว แต่ธรรมที่ทรงค้นพบ มีผลเหนือกาลเวลา เราอยู่ในสมัยนี้ เราก็สามารถปฏิบัติและบรรลุธรรมได้ไม่ต่างจากในสมัยพุทธกาล ไม่ต้องไปกราบพระขอให้เกิดในสมัยพระศรีอาริยเมตไตร อย่าลืมว่าธรรมะของพระพุทธเจ้าองค์นี้หรือธรรมของพระพุทธเจ้าองค์หน้าก็คือธรรมะแบบเดียวกัน เรามีบุญมาเกิดในสมัยที่มีคำสั่งสอนของพระพุทธองค์อยู่ เราก็เริ่มเลยครับ ออกตัวก่อนก็มีสิทธิก่อน ไปรออีก 2500 ปีนั้น ไม่แน่เราอาจจะพลาดไปก้ได้ เคยได้ยินไหมครับ มีหลายคนที่อยู่ร่วมในสมัยของพระพุทธองค์ แต่ก็ไม่ได้มีดวงตาเห็นธรรม หรือได้ฟังธรรมของพระพุทธองค์ เราอาจจะเป็นแบบนั้นในยุคหน้าก็ได้ ลงมือเสียแต่วันนี้เถิดครับ ดีไม่ดี พวกเราอาจจะเคยอธิษฐานขอให้เกิดในยุคสมัยของพระพุทธองค์แล้ว แต่มันคลาดเคลื่อนมา 2500 กว่าปีเท่านั้น ซึ่งเราก็ยังมีโอกาสศึกษาและปฏิบัติธรรม เราจะทิ้งนาทีทองในสังสารวัฎไปทำไม
 
เอหิปัสสิโก ธรรมของพระพุทธองค์เป็นสิ่งที่เราควรบอกกับผู้อื่นให้ศึกษาและปฏิบัติ และ โอปะนะยิโก เป็นสิ่งที่ควรน้อมมาใส่ตัว คือเอาไปปฏิบัติด้วยตนเอง ไปขอใครไม่ได้ เนื่องจาก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ เป็นสิ่งที่ใครรู้ก็รู้เฉพาะตัวคนนั้น ไม่ใช่ว่าถ้าผมรู้ ผมจะเอามือไปแตะท่าน แล้วท่านจะรู้เหมือนผม ท่านต้องลงมือรู้ด้วยตัวท่านเอง ปฏิบัติด้วยตัวท่านเอง เพื่อนมิตรสหายต่างๆ เพียงแค่ช่วยท่านประคับประคองให้อยู่ในทางที่ถูกต้อง ให้อยู่ในทางสายเอกเท่านั้น อย่าปล่อยโอกาสทองที่เราได้เกิดมาพบธรรมของพระพุทธองค์นี้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ ลงมือเสียแต่วันนี้ ต่อให้ไม่บรรลุ ก็เป็นประสบการณ์สะสมไปในวันหน้า ถ้าไม่ทำอะไรแล้วจะไปรอวันหน้าแล้ว คิดว่าถึงวันนั้นเราจะเป็น มันเป็นไปไม่ได้ครับ อย่าลืมว่า สันทิฏฐิโก เป็นสิ่งที่ผู้รู้และปฏิบัติจะเห็นได้ด้วยตนเอง เค้าไม่ได้บอกว่า เป็นสิ่งที่ผู้อยู่เฉยๆจะรู้ได้ด้วยคนอื่นมาบอกเสียหน่อยครับ
 
หมายเหตุ คำแปลบทสวดมนต์นี้ผมได้มาจาก คู่มืออุบาสกอุบาสิกา บทสวดมต์ทำวัตรเช้า-เย็น แปลไทย ของสำนักสวนโมกขพลารามไชยา จัดพิมพ์โดย ธรรมสภาครับ
คำสำคัญ (Tags): #คำสอนจากคำสวด
หมายเลขบันทึก: 269769เขียนเมื่อ 21 มิถุนายน 2009 15:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 07:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท