เล่าเรื่องเมืองเหนือ ว่าด้วยความสุขของคนเมือง
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน 52 ผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมประชาสัมพันธ์โรงเรียนทันตแพทย์สร้างสุข ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เดินทางโดยรถโดยสารปรับอากาศจากจังหวัดขอนแก่นถึงปลายทางที่จังหวัดเชียงใหม่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง ออกจากขอนแก่นตอน 3 ทุ่มถึงจังหวัดเชียงใหม่ก็ประมาณ 7 โมงกว่า แต่แปลกมากที่ไม่อาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า ทั้งที่นั่งบนรถเป็นเวลานาน อาจเป็นเพราะตื่นเต้นและมีความสุขที่จะได้ไปเยือนเมืองแห่งความสุขที่ผู้คนหลงใหล อาจเป็นเพราะที่นี่อากาศดี บ้านเมืองสวยงาม มีความผสมกลมกลืนกันอย่างลงตัวระหว่างพื้นที่เขตอนุรักษ์ และย่านเศรษฐกิจของเมือง มีสาธารณูปโภคที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้อยู่และผู้มาเยี่ยม อย่างครบครัน ทำให้เมืองเชียงใหม่เป็นเมืองที่คึกคัก มีแหล่งท่องเที่ยวดึงดูดให้ผู้คนหลงใหล จนผู้เขียนเองก็แอบอิจฉาคนที่อยู่ที่นี่ที่ได้อาศัยอยู่ในเมืองที่น่าจะเป็นเมืองที่อยู่แล้วมีความสุขได้
หลังจากพักผ่อนสักพักแล้ว ผู้เขียนก็ได้ออกจากที่พักไปยังคณะทันตแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่สถานที่จัดงาน ซึ่งคณะทันตแพทย์นั้นจะตั้งอยู่ทางด้านโรงพยาบาลสวนดอกอีกโซนหนึ่งของมหาวิทยาลัย พอมาถึงพื้นที่เตรียมงานก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคณะผู้จัด ที่กำลังสาละวนอยู่กับการเตรียมงานซึ่งมองดูแล้วก็รับรู้ถึงความอลังการของลานที่จะจัดกิจกรรม โดยคณะฯได้จัดการแข่งขันประกวดตั้งชื่อลานกิจกรรม นี้ขึ้นมา (ตรงกับกระแสการตั้งชื่อน้องหมีแพนด้าพอดี) ผลการคัดเลือกปรากฏว่าชื่อที่ได้รับคัดเลือกให้ใช้เป็นชื่อของลานกิจกรรมสร้างสุข คือ ข่วงทันตะม่วนใจ๋ โดยน้องนักศึกษาทันตแพทย์ผู้ที่ได้รับรางวัลได้อธิบายที่มาของชื่อว่า ข่วงในภาษาเหนือ หมายถึง ลาน และโดยรวมความหมายของชื่อนี้หมายถึง ลานที่ชาวทันตะจะมาสร้างความสุขกาย สุขใจด้วยกัน
การจัดงานประชาสัมพันธ์โรงเรียนทันตแพทย์สร้างสุขในวันนั้นประกอบด้วย 3 โซนกิจกรรมตามลำดับเวลา ได้แก่ 1) โซนจัดนิทรรศการแสดงผลงานของคณะ และสอดแทรกเนื้อหาการนำแนวคิดสุขภาพองค์รวมมาใช้ในการเรียนการสอนและงานทันตกรรม 2) ห้องบรรยายตามประเด็น "ถอดบทเรียนจากประสบการณ์ วิถีสร้างสุข แบ่งเป็น 3 ห้องย่อย ห้องที่หนึ่งหัวข้อ งานได้ผล...คนเป็นสุข ห้องที่สองหัวข้อ โรงเรียนทันตแพทย์สร้างสุข และห้องที่สามในหัวข้อ มองผ่านเลนส์(เห็นนก) เห็นความสุข ให้บุคลากร อาจารย์ นิสิตนักศึกษาสามารถเลือกเข้าฟังได้ตามความสนใจ และ 3) บริเวณข่วงทันตะม่วนใจ๋ มีการจัดซุ้มอาหารสุขภาพอย่างหลากหลายทั้งคาว หวาน ผลไม้ตามฤดูกาล น้ำสมุนไพร มีพื้นที่แสดงผลงานและกิจกรรมสร้างความสุข ของคณะที่ผ่านมา เช่นโครงการถักไหมพรม วาดภาพ โต๊ะแข่งขันทำอาหารสุขภาพ
การจัดงานครั้งนี้มีแม่งานใหญ่ คือ ผศ.ทพ. ดร. เกษรา ปัทมะพันธุ์ ซึ่งขอบอกว่าในวันนี้ผู้บริหารคณะเห็นความสำคัญของกิจกรรมที่เป็นประโยชน์โดยจัดให้งดการเรียนการสอนในวันดังกล่าวเพื่อให้ทุกคนได้เข้าร่วมกิจกรรมได้อย่างเต็มที่ ซึ่งบรรยากาศโดยรวมวันนั้นสดชื่นสดใส เต็มไปด้วยรอยยิ้มของทุกคนที่ได้มาร่วมงานนี้ เพราะเห็นบรรยากาศแห่งความสุขที่ทุกคนสนุกสนาน อิ่มกาย อิ่มใจ สบายกระเป๋า สบายท้อง ถ้วนทั่วกันทุกคน ยิ่งทำให้ผู้เขียนแอบอิจฉาผู้คนในเมืองนี้ยิ่งขึ้น
จากการจัดงานในวันนั้น ได้แสดงให้เห็นว่า คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีต้นทุน ที่ดี ที่พร้อม มีศักยภาพสูง ทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม เขียวขจี มีสังคมที่อบอุ่น บุคลากร อาจารย์ นิสิตนักศึกษาดูเป็นมิตรและอบอุ่น และยังมีแรงสนับสนุนจากผู้บริหารเข้ามาผนวกเสริมทุนที่มีอยู่ คาดว่าโรงเรียนทันตแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จะทำให้ผู้คนที่อยู่ในโรงเรียนเป็นผู้มีความสุขสามารถสร้างความสุขให้กับผู้อื่นและคงความสุขให้อบอวลอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ต่อไป โดยอาศัยทุนที่ดี ที่มีพร้อมและมีศักยภาพสูงนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าต้นทุนที่มีอยู่จะออกดอกออกผลเป็นความสุขให้ทุกคนได้ซึมซับและได้เผื่อแผ่ความสุขออกมาสู่สังคมจนบรรลุความเป็น โรงเรียนทันตแพทย์ที่สร้างสุขให้กับสังคมได้
ความเห็น (1)
"ความสุขที่หลาย ๆ วิชาชีพกำลังเริ่มออกแบบ" ...
ม่วนขนาดนะครับ ;)