การเตรียมตัวเพื่อสมัครสอบทุนรัฐบาลญี่ปุ่น....โดยน้องโอ


            สวัสดีค่ะ.....ก่อนอื่นขอเกริ่นถึงที่มาของบทสัมภาษณ์นี้กันก่อนจ้า

           บทสัมภาษณ์นี้เขียนโดย นายอมรสิทธิ์ อัจฉริยบดี หรือ น้องโอ JSTP 6 ซึ่งเป็นนักเรียนทุนรัฐบาลญี่ปุ่น หรือ Monbusho (ทุนมอนบูโช) ซึ่งเพิ่งเดินทางไปเรียนต่อ ณ The University of Tokyo  น้องโอได้เขียนบทความนี้ไว้เพื่อเป็นประโยชน์แก่น้องๆ JSTP ซึ่งน้องต้า (JSTP รุ่น 8) ได้ส่งมาให้พี่เอด้วย ซึ่งทางน้องโอก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ให้เผยแพร่เพื่อเป็นประโยชน์ต่อน้องๆคนอื่นด้วย

           ถ้าอย่างนั้น...เรามาเตรียมตัว สมัครสอบชิงทุนรัฐบาลญี่ปุ่นกันเลยค่ะ

Q : ทำไมพี่โอถึงเลือกสมัครทุนรัฐบาลญี่ปุ่นครับ

A : ขออธิบายภาพรวมของทุนรัฐบาลญี่ปุ่นก่อนละกันนะครับ ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น หรือ ทุนมอนบูโช เป็นทุนที่รัฐบาลญี่ปุ่นให้กับนักเรียนไทยเพื่อไปศึกษาต่อยังประเทศญี่ปุ่น  โดยแบ่งออกเป็น 6 ประเภท สำหรับข้อมูลของทุนแต่ละประเภท สามารถเปิดได้  ตามนี้ ซึ่งส่วนใหญ่พวกเราจะสมัครกันก็จะเป็นทุน ประเภท ระดับปริญญาตรี ซึ่งมีไว้สำหรับ เด็กที่เพิ่งจบ ม.6 และต้องการศึกษาต่อระดับปริญญาที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ประเภทที่พี่สมัครก็คือ ประเภทนักศึกษาวิจัย ซึ่งเป็นทุนสำหรับนักศึกษาที่เพิ่งจบปริญญาตรี หรือ โท และมีความประสงค์จะเรียนต่อระดับปริญญาโท หรือปริญญาเอกที่ญี่ปุ่น ก็จะสมัครทุนนี้กัน ซึ่ง ทุนนี้ก็จะให้ค่ากินอยู่ ค่าเล่าเรียน และค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ อย่างละเที่ยว และอื่นๆ ซึ่งทุนนี้เป็นทุนให้เปล่า ไม่มีข้อผูกมัดใดๆทั้งสิ้น

            มาถึงเหตุผลที่พี่สมัครทุนนี้ก็คือว่า ทุนนี้มีข้อดีหลายอย่างคือ

1. เป็นทุนให้เปล่า ไม่มีข้อผูกมัด และถ้าเราไม่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นเลย ก็สามารถสมัครได้ (แต่ต้องมีเกรดเฉลี่ยเกิน 3.5 นะครับ แต่ถ้ามีความรู้ภาษาญี่ปุ่นก็ต้องสอบวัดระดับหนึ่ง หรือระดับสอง และเกรดให้ได้ถึงเกณฑ์ที่เค้ากำหนดไว้) และทางรัฐบาลญี่ปุ่นจะให้เวลามาเรียนภาษาที่นี่ก่อนด้วย ทำให้เราได้ภาษาเพิ่มอีกภาษาหนึ่งคือภาษาญี่ปุ่น

2. มหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่นจะเรียกได้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆของเอเชีย และอันดับต้นๆของโลกเลยก็ว่าได้

3. ถ้าเทียบกับทุนอื่นๆแล้ว ทุนรัฐบาลญี่ปุ่นถือว่าเป็นทุนที่ได้รับเกียรติสูงสุด เป็นที่น่าภาคภูมิใจ

           แต่ถึงแม้ว่าจะมีข้อดีอยู่หลายข้อ แต่ในทัศนคติพี่ ทุนนี้ก็มีข้อเสียอยู่บ้างก็คือ เราจะไม่ได้ฝึกภาษาอังกฤษที่นี่เลย เพราะว่าคนญี่ปุ่นไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ซะเป็นส่วนใหญ่ การใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่นจะต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น ดังนั้นถ้าจะหวังว่าจะมาพัฒนาภาษาอังกฤษที่คงจะเหนื่อยหน่อย ซึ่งในชีวิตจริง พวกเราจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษเยอะมาก ถ้าหวังว่าจะมาทุนรัฐบาลญี่ปุ่นเพราะว่าเตรียมสอบ Toefl  ไม่ทัน หรือว่าภาษาอังกฤษไม่ดี ก็อย่าไปคิดอย่างนั้นเลยนะครับ เพราะว่าพี่คิดว่าภาษาอังกฤษยังไงก็สำคัญมากๆ ควรจะฝึกให้สามารถพูดได้เขียนได้คล่องน่าจะดีกว่า 

Q : มีการให้ทุนในสาขาไหนบ้างครับ สำหรับทุนนักศึกษาที่พี่ได้รับอยู่

A : ทุนรัฐบาลญี่ปุ่นค่อนข้างใจกว้างนะครับ จะเปิดให้สมัครได้เกือบทุกสาย สำหรับเรื่องรายละเอียด ยังไงก็ลองอ่านได้ จากที่นี่นะครับ

Q :  ทุน Research Student มีการให้ทุนอย่างไรบ้างครับ

A : ทุน Research Student เป็นทุนที่ให้สำหรับนักศึกษา ป.ตรี หรือ ป.โท ที่จบมาแล้ว โดยที่จะมีการให้ทุนเป็น Research Student ที่ญี่ปุ่นก่อนสองปี โดยระหว่างนั้นถ้าเราไม่สามารถสอบเข้าเรียนต่อที่ มหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่นได้ ก็จะหมดสัญญาทุน ซึ่งแทบจะทุกคนมาเป็น Research Student ที่นี่ก่อน เพื่อมาเรียนภาษาและเตรียมตัวสอบเข้าเป็น Master Student  (ส่วนจะทำวิจัยระหว่างที่เตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยหรือไม่ขึ้นอยู่กับอาจารย์ที่ปรึกษา) ถ้าไม่ติด ก็สามารถสอบได้ในรอบถัดไป ภายในสองปีที่ได้รับทุน (ขึ้นกับว่า Department จัดสอบถี่แค่ไหน บาง Department จัดสอบทุกเทอม บาง Department จัดสอบปีละครั้ง)  เมื่อเราสามารถสอบติดได้เป็น Master Student  ทางรัฐบาลญี่ปุ่นจะให้ทุนเราเรียน Master เป็นเวลาสองปี และ ถ้ามีความประสงค์จะเรียนต่อ Doctoral Degree ก็จะให้ทุนเรียนเป็นเวลาสามปี

Q : ในขั้นแรกที่มีการเขียนใบสมัคร พี่มีเทคนิคในการเขียน Study plan อย่างไรบ้างครับ

A : ในตอนแรกๆ พี่ก็ไม่มีไอเดียเลยว่า จะเขียนยังไง ก็เลยไปขอ Study plan ที่รุ่นพี่ Jstp ที่ได้รับทุนรัฐบาลญี่ปุ่นเคยเขียนไว้ และรุ่นพี่ทุนอื่นๆที่เคยเขียนไว้มาดูว่า แต่ละคนมีเทคนิคในการเขียนอย่างไร และนำมาดัดแปลงให้เป็นของตัวเอง หลังจากนั้นก็อาจจะให้คนที่เคยมีประสบการณ์ดูให้ว่าเขียนไว้ดีแล้วหรือยัง

 Q : สำหรับการสอบรอบแรก พี่มีเทคนิคการเตรียมตัวอย่างไรบ้างครับ

A : ในการสอบรอบแรก สำหรับสายวิทย์ จะต้องสอบ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และ วิชาสายวิทยาศาสตร์ หนึ่งวิชา จากสามวิชา คือ ขีววิทยา ฟิสิกส์ และ เคมี เทคนิคที่พี่ใช้ก็คือ ดูข้อสอบเก่าหลายๆปีว่ามีออกอะไรบ้าง ซึ่งจะมีบางบทที่เราเรียนจะไม่ออก ดังนั้นก็สังเกตให้ดีจากข้อสอบเก่าๆ ว่าออกบทไหนบ้างก็จดไว้ และก็อ่านเฉพาะบทนั้น (ข้อสอบเก่าหาได้ตาม internet นะครับ)  

Q : ในรอบสอบสัมภาษณ์นี่ พี่มีเทคนิคในการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง บรรยากาศการสัมภาษณ์เป็นอย่างไรบ้างครับ

A : ตอนนั้นก่อนที่จะมีการสัมภาษณ์ พี่ได้ค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต และดูว่าคำถามที่ถามๆส่วนใหญ่มีอะไรบ้าง จากประสบการณ์ที่ผ่านการสัมภาษณ์มาแล้ว คำถามที่เค้าถามส่วนใหญ่ก็คือ ทำไมถึงเลือกไปญี่ปุ่น ถ้าได้ทุนนี้คุณจะไปเรียนอะไร และ สาขาที่คุณเรียนมีประโยชน์อย่างไร

           ตอนนั้นพี่ก็ค้นหาว่ามีคำถามอะไรบ้างที่เป็นไปได้ และก็เขียนคำตอบไว้ก่อน และไปปรึกษาคนที่มีประสบการณ์ว่าการตอบคำถามแบบนี้ดีหรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้คำตอบที่ได้ดูดีมากขึ้น  และท่องจำให้ขึ้นใจ ซึ่งตอนนั้นการเขียนคำตอบไว้ก่อน และท่องไว้ก่อนช่วยได้มากจริงๆ เพราะว่าในตอนสัมภาษณ์ตอนนั้น พี่ประหม่ามากๆ ทำให้นึกอะไรไม่ออกเลย พูดไปตามที่เขียนไว้ เลยทำให้คำตอบดูเคลียร์ มีเหตุมีผลและชัดเจนมาก

            เทคนิคอีกอย่างหนึ่งคือไปดูในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยที่เราสนใจว่ามีโครงการอะไรหรือเปล่า เพราะว่าในตอนนั้นสัมภาษณ์ตอนนั้น เจ้าหน้าที่เค้าถามเกี่ยวกับโครงการที่รัฐบาลกำลังสนับสนุนมหาวิทยาลัยอยู่ ถึงแม้ว่าพี่จะไม่รู้โครงการนั้นแต่ว่าก็ได้ไปเปิดๆดูบ้าง ก็เลยตอบอย่างอื่นไป อย่างน้อยก็ยังดีกว่าไม่รู้อะไรเลย

            เอาหล่ะค่ะ อ่านบทสัมภาษณ์ของน้องโอแล้ว พี่เอก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับน้องๆนะคะ และน้องโอเองก็คงจะดีใจไม่น้อย ถ้าข้อมูลของโอจะเป็นแรงบันดาลใจและเป็นประโยชน์กับน้องๆ ที่จะสอบต่อไป อนาคตนักเรียนทุนรัฐบาลญี่ปุ่น...อยู่ใกล้แค่เอื้อมค่ะ

             ข้อมูลเพิ่มเติม

ดูตัวอย่างข้อสอบเก่า

บทสัมภาษณ์รุ่นพี่มอนบูโชเก่า (มีน้องตั๊ก JSTP รุ่นที่ 5 มาให้สัมภาษณ์ด้วยจ้ะ) 

         

หมายเลขบันทึก: 268860เขียนเมื่อ 17 มิถุนายน 2009 21:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ได้ข่าวมาว่ามันมี แบบที่ไม่ต้องสอบด้วยแต่ต้องได้รับการยืนยันจากอ.ที่นี่นและที่นี่ด้วย อยากทรายรายละเอียดในส่วนนี้ครับ

ใครไม่รู้ มายุ่งกับบล็อกเค้าได้ไงหว่า

แบบนั้นเรียกว่า university recommendation ครับ คือว่าทางมหาวิทยาลัยที่เราจะไปเรียนต้องเป็นคนเสนอชื่อเราให้กับทางMEXTเพื่อขออนุมัติทุนให้ ซึ่งก็จะได้ทุนเหมือนกันมอนปกติที่สอบผ่านสถานทูตทุกอย่าง เพียงแต่ว่าเราต้องติดต่อกับยูได้ก่อนแล้วและโปรเค้าสามารถขอทุนให้ได้ประมาณนี้แหละ แต่ว่าทุนในส่วนนี้มักจะให้ปริญญาเอกมากกว่าน่ะ คือเอาไปใช้งานได้เลย ให้โทก็มีเหมือนกัน ลองหาดูละกัน ขึ้นกับconnection น่ะแหละครับ

พอดีที่บางมดมี connection กับ kanazawa อยู่อ่ะครับ อาจจะพอมีทาง แต่อาจจะเป็นป.เอกก็ได้ ไม่แน่ใจครับ

อยากได้รายละเอียดมากกว่านี้ค่ะ เพราะเป็นครูในระดับชั้นม.ปลาย อยากให้นักเรียนไปลองสอบดู ไม่ทราบว่าจะขอรายละเอียดได้ที่ใด กรุณาตอบด้วยนะคะ

ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องการเลือกสาขาครับ

ถ้าผมอยากจะเรียนทาง statistics จะเลือกสาขายังไงครับ

มันมีเว็บเฉลยข้อสอบเก่าทุนญี่ปุ่น เป็นเเบบเรียนออนไลน์ฟรีนะ ลองเข้าไปในนี้ www.land2learn.com

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท