ตอนที่ 25
วัยทำงาน ต่อ
ผมได้รับการบรรจุเข้าเป็นพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๒๓ ด้วยอัตราเงินเดือน ๑,๘๕๐ บาท ในตำแหน่งพนักงานวิชาชีพระดับ ๒ สังกัดแผนกงบประมาณ กองบัญชีเหมือง ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเป็นลูกจ้างชั่วคราวระยะยาวได้รับค่าจ้างเป็นรายวัน วันละ ๖๑ บาท เมื่อเทียบเงินเดือนกับราชการสูงกว่าราชการนิดหน่อยประมาณ ๒๐๐ กว่าบาท
ทำงานได้หนึ่งปี เกิดแรงบันดาลใจว่าเราน่าจะเรียนต่อเพราะคิดดูแล้วไม่มีอะไรดีไปกว่าการเรียนรู้ และการศึกษาเพิ่มเติมในสายงานวิชาชีพที่เราชอบ ปลายปี ๒๕๒๓ ผมสมัครเรียนต่อที่โรงเรียนพาณิชย์การลำปาง ในระดับ ปวส. และจบในปี พ.ศ. ๒๕๒๖ แต่กว่าจะจบมาได้ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างยิ่ง กล่าวคือในระยะแรก ๆ ที่เรียนนั้นต้องขี่รถมอเตอร์ไป -กลับ ทุกวัน ระยะทางจากเหมืองแม่เมาะ ไปตัวเมืองลำปาง ประมาณ ๑๔ กิโลเมตร จากตัวเมืองไปโรงเรียนอีก ๕ กิโลเมตร เรียนตั้งแต่ ห้าโมงเย็นถึง ทุ่มครึ่ง เมื่อเรียนเสร็จก็ขี่รถกลับ กว่าจะถึงที่พักเกือบ ๆ สี่ทุ่ม เป็นเช่นนี้เกือบทุกวัน
ความลำบากลดน้อยลงเมื่อได้คุยกับเพื่อนที่เข้างานพร้อมกันถึงเรื่องการเรียนว่าลำบากเหมือนกันขี่รถไป ๆ กลับ ตอนไปเรียน เพื่อนพูดว่าเค้ามีบ้านที่ไม่มีใครอยู่ปล่อยทิ้งไว้เป็นสิบปีแล้วแถว ๆ ห้าแยก การที่ไม่มีใครอยู่ไม่มีใครดูแล ทำให้ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ต้นหญ้า เค้าถามผมว่าจะไปอยู่ไหม ผมขอบคุณและอาสาจะไปดูแลให้และจัดการเรื่องต้นไม้ให้เรียบร้อย บ้านของเพื่อนที่ผมไปอยู่เป็นบ้านไม้หลังเดี่ยวเล็ก ๆ เป็นบ้านทรงแบบโบราณทางเหนือที่ไม่มีใครอยู่เป็นเวลานานเกือบสิบปี แต่ก็มีเพื่อนบ้านอยู่ใกล้กันในระแวกนั้นดูแลให้ บ้านเป็นบ้านชั้นเดียวใต้ถุนยกสูงประมาณเมตรครึ่ง ในตอนนั้นผมคิดว่าอย่างไรก็แล้วแต่ต้องอยู่ที่บ้านเพื่อนจนจบ ผมอยู่บ้านเพื่อนได้เกือบปีต้องย้ายออกไปอยู่กับพี่ที่ทำงานด้วยกัน ที่เพิ่งย้ายมาจากกรุงเทพฯ และเบิกค่าเช่าที่พักได้สถานที่เช่าพักอยู่ไม่ไกลจากที่เรียน ที่สำคัญเป็นโรงพยาบาลด้วยเจ็บไข้ได้ป่ายไม่ต้องเป็นห่วงมีหมอ หรือพยาบาลอยู่ทั้งคืน (โรงพยาบาลเกษมสวัสดิ์ แบ่งห้องให้เช่ารายเดือนอยู่หน้าโรงแรมเอเซียลำปาง) สาเหตุที่ต้องย้ายเพราะของหายเป็นประจำ เช่นหม้อหุงข้าวไฟฟ้า กระทะไฟฟ้า ไม้เว้นแม้แต่เสื้อผ้าที่ซักตากไว้
มีอยู่ครั้งหนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจออกจากบ้านเพื่อน พอดีวันนั้นกลับบ้านเร็วเนื่องจากอาจารย์ไม่มาสอน พอกลับไปถึงบ้านจะเอ๋ กับขโมยพอดีแต่ขโมยไหวตัวทันก่อนเพราะเสียงรถมอเตอร์ไซค์เข้ามาถึงบ้าน เจ้าหัวขโมยกระโดดออกทางช่องหน้าต่างแล้ววิ่งหนีไป ผมเข้าตรวจสภาพภายในบ้าน ทั้ง ๆ ที่หน้าบ้านใส่โซ่คล้องประตูหน้าบ้านแถมใส่กุญแจที่ประตูเพิ่มอีก หน้าต่างปิดล็อคหมด ครั้งก่อนงัดกุญแจประตูหน้าบ้าน แต่ครั้งนี้เจ้าหัวขโมยเล่นงัดพื้นบ้านซึ่งเป็นไม้ออกไปสองแผ่นแล้วเอาตัวรอดขึ้นมา สิ่งของต่าง ๆ ที่กำลังจะลำเลียงจัดเตรียมมากองไว้กลางบ้านแล้ว เสื้อผ้าทั้งหมดที่มีอยู่ หม้อหุงข้าวที่ซื้อใหม่พร้อมกระทะ ข้าวของทุกอย่างอยู่กลางบ้านพร้อมจะเอาออกไป พอดีผมกลับบ้านมาก่อน เพราะด้วยเหตุนี้ผมคิดว่าผมอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว อาทิตย์นั้นเองผมจึงย้ายไปอยู่กับพี่ที่ทำงานที่เช่าโรงพยาบาลอยู่ซึ่งเมตตาผมมาก เห็นว่าผมมีเงินเดือนน้อยและมีความพยายาม ผมยังระลึกถึงพี่ท่านนี้อยู่เสมอ ที่ทำงานใคร ๆ เค้าเรียกพี่ว่าน้าโย และสุดท้ายน้าโยคนนี้ก็มาเป็นหัวหน้าผม เพราะหัวหน้าผมคนแรกเลื่อนขึ้นไปเป็นระดับกอง
เมื่อผมเรียนจบผมจึงย้ายกลับไปอยู่ที่เหมืองแม่เมาะเหมือนเดินแต่ครั้งนี้มีบ้านพักให้ เพราะมีเพื่อนร่วมงานที่ย้ายมาจากกรุงเทพฯ ได้สิทธิบ้านพัก ๑ หลัง หัวหน้าผมจัดให้ผมไปอยู่ด้วยเนื่องจากมีห้องสองห้อง และกลัวเพื่อนใหม่จะเหงา ตั้งแต่นั้นมาผมอยู่บ้านพักของการไฟฟ้ามาตลอด
ไม่มีความเห็น