การเขียนงานวิจัย บทที่ 1 บทนำ


การเขียนบทที่ 1 บทนำ ไม่ยากเกินความตั้งใจ

        วันนี้จะขอกล่าวถึงรายละเอียด บทที่ 1 บทนำ ว่าเขียนอย่างไร  มีหัวข้ออะไรบ้าง  ซึ่งบทที่ 1 เป็นส่วนหนึ่งของรายงานการวิจัย มีความสำคัญไม่น้อยกว่าบทอื่น ๆ บทที่ 1 บทนำ มีหัวข้อประกอบด้วย 1. ภูมิหลัง (หรือจะใช้ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหาก้อได้ ไม่ผิด) 2. ความมุ่งหมายของการวิจัย(หรือวัตถุประสงค์ของการวิจัย) 3. สมมติฐาน  4. ความสำคัญของการวิจัย  5. ขอบเขตของการวิจัย (มีหัวข้อย่อย คือ ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ตัวแปร เนื้อหาที่ใช้ ระยะเวลา) 6. นิยามศัพท์เฉพาะ  มีรายละเอียดการเขียน ดังนี้ (กรณีที่ครูเคยทำงานวิจัยหน้าเดียวมาแล้ว ก็สามารถคัดเลือกหัวข้อมาใส่ได้ ตามหัวข้อตรงกัน)

1. ภูมิหลัง  ก่อนเริ่มเขียนนั้นให้ครู นักวิจัย มองภาพภูมิหลังเป็น พีระมิดคว่ำ  กล่าว คือเป็นการกล่าวจากมุมกว้างและมองแคบลงถึงปัญหาที่จะทำวิจัยนั้นเอง ซึ่ง ภูมิหลังมีประมาณ 3-5 หน้า เช่น ถ้าผู้วิจัย วิจัยเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ด้วยนวัตกรรมบางอย่าง  การกล่าวถึงภูมิหลัง เริ่ม จาก

การจัดการเรียนสอนในปัจจุบัน เป็นอย่าง

ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน (มองถึงผลสัมฤทธิ์ระดับประเทศ เขต ภาค)

มองหาแนวทางจะแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยวิธีการ วิธีการหนึ่ง อาจใช้นวัตกรรม วิธีการสอน

มองถึงปัญหาในเขตพื้นที่/โรงเรียนอย่างไร

แนวที่จะช่วยนำมาพัฒนา (นวัตกรรมของเรา กล่าวถึงข้อดี และข้อสนับสนุนนักวิชาการ)

นั่นคือภาพรวมการเขียนภูมิหลัง แต่อย่าลืมการอ้างอิง เป็นสิ่งสำคัญ ถ้ายกบทความ งานวิจัย จากส่วนใด ควรมีการอ้างอิง ขอแต่ละย่อหน้า รวมทั้งควรเขียนเป็นความเรียง ไม่ย่อหน้ามากเกินไปจนขาดความต่อเนื่องของภูมิหลัง

2. ความมุ่งหมายของการวิจัยหรือวัตถุประสงค์ของการวิจัย

เป็นการเขียนบ่งชี้ว่าผู้วิจัยจะทำอะไร วัดอะไรนั่นเอง หาอะไร โดยเขียนให้สอดคล้องกับชื่อเรื่องที่จะทำ ความมุ่งของการวิจัยมาจาก ชื่อเรื่อง มาจากสิ่งที่ต้องการศึกษา  ส่วนมากจะเขียนเป็นข้อ เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ ตัวอย่างเช่น

เช่น ถ้าครูทำเรื่อง รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง การบวก ลบ  เศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  เราสามารถตั้งความมุ่งหมายของการวิจัย ดังนี้

    1. เพื่อพัฒนาพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง การบวก ลบ  เศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพ 80/80

    2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง การบวก ลบ  เศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

     3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบฝึกทักษะ เรื่อง การบวก ลบ  เศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 

3.  สมมมติฐาน  เป็นการตั้งคำตอบล่วงหน้า คาดการณ์ล่วงหน้า  ก่อนการเก็บรวบรวมข้อมูล ซึ่งการตั้งสมมติฐานต้องมากทฤษฏ๊ หลักการ เหตุผล และสามารถตรวจสอบได้  จากตัวอย่างข้างบนสามารถเขียนได้ดังนี้

       ผลสัมฤทธ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง การบวก ลบ  เศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทีระดับ.01

4. ขอบเขตของการวิจัย เป็นการว่าด้วยขอบเขตของการวิจัยที่จะทำเพื่อจำกัด และเพื่อให้เข้าใจ ความชัดเจนในการทำวิจัย ซึ่งจะระบถึง ประชากร  กลุ่มตัวอย่าง ตัวแปร เนื้อหา ระยะเวลา เช่น

ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที 4 โรงเรียนบ้านหนอกจอก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามหาสารคาม เขต 1 ปีการศึกษา 2552  จำนวน 1 ห้องเรียน  รวมทั้งสิ้น 30 คน

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที 4 โรงเรียนบ้านหนอกจอก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามหาสารคาม เขต 1 ปีการศึกษา 2552  จำนวน 1 ห้องเรียน  รวมทั้งสิ้น 30 คน

ข้อสังเกต ข้อบกพร่องที่พบในงานวิจัยของครูที่เสนอแนะโดยคณะกรรมการตรวจผลงาน คือ ขอบเขตของการวิจัย ส่วนมากจะบกพร่อง ในเรื่อง จำนวนนักเรียนไม่ตรง เขียนไม่ขัดเจน ไม่สอดคล้องกัน ดังนั้นควรมีการตรวจสอบให้มีความถูกต้อง 

5. นิยามศัพท์เฉพาะ  ครูมักจะคิดไม่ออกว่า นิยามศัพท์เฉพาะไม่รู้จะเลือกคำใดเป็นนิยามศัพท์ ดังนั้น หลักการ ให้นึกถึงชื่อเรื่องของการวิจัย และเลือกคำศัพท์ที่คาดว่าจะให้ผู้อ่านทราบ เนื่องจากจะมีบางคนที่ไม่ทราบ เช่น รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง การบวก ลบ  เศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

นิยามศัพท์  ได้แก่  1. แบบฝึกทักษะ  หมายถึง    2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง   3.  ความพึงพอใจ หมายถึง  เป็นต้น

   จากภาพรวมทั้งหมดครู นักวิจัยก็สามารถเขียนรายงานการวิจัย บทที่ 1 ได้อย่างสบาย ซึ่งการเขียนบทที่ 1 สามารถ เขียนหัวข้อใดก่อนก็ได้ ถ้ามองภาพรวมของงานวิจัยทั้งหมดออก ถ้านึกไม่ออก ให้ครู ผู้สอน มองการวิจัยเป็นลักษณะการทำ Mind maping

 ให้คำปรึกษาการเขียนงานวิจัย วิทยานิพนธ์และผลงานวิชาการทุกระดับ

หมายเลขบันทึก: 268136เขียนเมื่อ 14 มิถุนายน 2009 16:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 มิถุนายน 2012 01:41 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

ขอบคุณนะคะ

ฉันตั้งวัตถุประสงค์ 2 ข้อ เหมือนที่คุณยกตัวอย่าง2ข้อแรก

และในตอนท้ายของ บ.1 ฉันระบุประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ3-4 ข้อ มีข้อสุดท้ายว่า

"นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์มากยิ่งขึ้น"(ประมาณนี)

กรรมการมันบอกว่า ฉันใช้อะไรวัด

ฉันคิดว่ามันไม่เกี่ยวกันเลย

ฉันวัด ฉันวิจัย ตามวัตถุประสงค์

คุณคิดอย่างไร แนะนำหน่อยคะ

เรียน คุณฐิติยา ที่เคารพ เมื่ออ่านข้อความของท่านแล้วรู้สึกว่า ท่านยังเข้าใจสบสนอยู่เล็กน้อยนะครับ การวิจัยตามจุดประสงค์เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วครับ แต่การที่กรรมการท้วงติง ประเด็นที่ว่า ฉันใช้อะไรวัด  คงจะหมายถึง 

"นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์มากยิ่งขึ้น" 

ถ้าใช่แล้วท่านตอบว่ามันไม่เกี่ยวกันนั้น  ท่านเข้าใจผิดไปเล็กน้อยนะครับ  เพราะการจะรู้ว่านักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์มากยิ่งขึ้น  มันต้องมีเครื่องมือ  มีวิธีการในการวัด  เช่นการสัมภาษณ์  แบบสอบถาม  ซึ่งจะเป็นหลักฐานในการยืนยันว่าประโยชน์ในข้อนี้ได้เกิดขึ้นจริง  แต่ถามว่าไม่มีผิดหรือไม่  มันก็ไม่ถือว่าผิด  แต่ในฐานะที่เคยทำมามีความคิดเห็นว่า  น่าจะมีครับ

ขอบคุณมากค่ะเป็นประโยชน์กับหนูมาก

ผมเรียนอยู่ในระดับ ป.โท ทำงานวิจัยเรื่องของหนี้ค้าง NPL ของธนาคารแห่งหนึ่ง

อ.พอจะมีตัวอย่างหรือแนะนำอะไรให้ผมไหมคับ

1. ต้องการคำแนะนำการต้องขื่อหัวข้อเรื้องเกี่ยวกับ "อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนกับชุมชน"

2. ช่วยชี้แนะแนวทางการทำงานวิจัยบทที่ 1 ให้ด้วย

ดิฉันกำลังจะเริ่มต้นทำงานวิจัยในชั้นเรียนแต่ไม่รู็จะทำเรื่องอะไรดี เพราะไม่ได้เป็นครูและไม่ค่อยมีความรู้ทางด้านนี้เลย ดิแันอยากขอคำแนะนำหน่อยค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ สามารถนำมาปรับใช้ คิดเป็นหัวข้อหลักๆ ใช้เป็นแนวทางในการเขียนงานวิจัยได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

ต้องการใช้ข้อมูลพอดีเลยค่ะ  ขอบคุณมานนะคะ

ต้องการใช้ข้อมูลพอดีเลยค่ะ จะทำเกี่ยวกับคำคล้องจอง ระดับชั้น ป.2 มีอะไรแนะนำเพิ่มเติมกรุณาแจ้งให้ทราบด้วยจะเป็นพระคุณยิ่ง

พอดีกำลังหางานวิจัยเกี่ยวที่เกี่ยว พฤติกรรมการเลือกซื้อเสื้อผ้ามือสอง พอจะมีตัวอย่างมั๊ยคะ

อาจารย์ค่ะ หนูไม่มีประสบการในการทำงานวิจัยมาก่อนเลยค่ะ พอได้อ่านข้อความด้านบนที่อาจารย์ได้โพสก้รู้สึกว่าเข้าใจ ขึ้นแต่นิดเดียวเองนะค่ะ อาจารย์ค่ะหัวข้องานวิจัยหนูคือ ศึกษาความคาดหวัง ประสบการณ์ และความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาเยี่ยมชม ตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ค่ะ รบกวนอาจารย์ช่วยออกความคิดเห็นด้วยค่ะว่าหัวข้อหนู ผ่านไหมค่ะ แล้ว จะดำเนินแบบไหน ต่อดี ค่ะ ขอบคุณอาจารณ์ที่ตอบกลับค่ะ 

เครื่องจะหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แบบหยอดเหรียญ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท