นับจากวันที่7มีนาคม2551เป็นต้นมาที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ออกนอกระบบเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ และสำหรับข้าราชการมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ออกเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยในเงื่อนไขที่รับเข้าเป็นพนักงานทันทีโดยไม่ต้องมีการประเมิน ในรอบที่1(4ก.ค.2551) จนถึงรอบที่3สุดท้าย(6มี.ค.2552) ซึ่งมีจำนวนพันกว่าคน ซึ่งส่วนมากจะรับเงินบำนาญ และไม่ต่อกองทุน กบข. สำหรับพนักงานมหาวิทยาลัยที่ไม่ขอรับเงินบำนาญและเป็นสมาชิกกองทุน กบข.ต่อ มีจำนวน96คน
นับจากเวลานั้นจนถึงวันนี้(13มิถุนายน2552)เป็นเวลาเกือบ15เดือนของการประกาศออกนอกระบบของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเป็นเวลาเกือบ12เดือนของพนักงานมหาวิทยาลัยในรุ่นที่ออกโดยไม่มีการประเมิน อารมณ์และความรู้สึกของพนักงานมหาวิทยาลัยที่อยากจะถ่ายทอดหรือสื่อสารกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีดังนี้
1.อยากให้ผู้บริหารสูงสุดของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ออกมาพูดคุยกับพนักงานมหาวิทยาลัยในทุกๆเรื่องที่เกี่ยวกับการออกนอกระบบ สิ่งใดที่มหาวิทยาลัยยังติดขัดหรือยังไม่สามารถดำเนินการได้ พนักงานมหาวิทยาลัยอยากจะทราบ จะได้มี่ส่วนในการช่วยคิดช่วย ช่วยหาทางออกร่วมกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยในทุกๆเรื่อง
2.อยากให้มหาวิทยาลัยช่วยแก้ไข บรรเทาความเดือดร้อนของพนักงานมหาวิทยาลัยเป็นการเร่งด่วนเพราะพนักงานมหาวิทยาลัยที่ไม่รับเงินบำนาญและต่อกองทุน กบข.ขณะนี้เป็นเวลาเกือบ12เดือนแล้วที่ไม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาล ค่าเล่าเรียนบุตรและอื่นๆที่เมื่อยังเป็นข้าราชการมีสิทธิเบิกได้ ตอนนี้พนักงานที่ต่อกองทุน กบข.ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาสำรองจ่ายไปเป็นเงินจำนวนมาก สร้างความเดือดร้อนให้กับพนักงานมหาวิทยาลัยเป็นอย่างมาก
3.ในเรื่องที่พนักงานมหาวิทยาลัยเห็นว่าไม่ถูกต้อง ลิดลอนสิทธิประโยชน์ของพนักงาน เช่นจำนวนครั้งในการลาพักผ่อน ซึ่งได้เสนอผ่านทางสภาพนักงานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พนักงานมหาวิทยาลัยอยากจะเห็นการออกมาขานรับหรือสื่อสารกับพนักงานมหาวิทยาลัยในเรื่องดังกล่าวเพราะมีความรู้สึกว่าล่าช้า และไม่มีข้อมูลกลับจากทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
4.สิ่งที่พนักงานมหาวิทยาลัยได้รับหลังจากที่ได้ออกนอกระบบในแต่ละรอบ ล้วนแล้วแต่เป็นเงินในอนาคตของแต่ละคนเท่านั้นที่เกิดจากการออกจากระบบราชการ แต่ไม่ต่อกองทุน กบข. แต่ในส่วนของการเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยหรือการออกนอกระบบไม่มีอะไรที่มองเห็นเป็นรูปธรรมเลย เช่นเงินเพิ่มพิเศษ(TOP-UP)
อารมณ์และความรู้สึกของพนักงานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ได้เสนอไปยังผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ยังมีอีกมากที่พนักงานมหาวิทยาลัยอยากจะสื่อสารกับผู้บริหารหรือผู้นำของเขา การปล่อยให้เกิดสภาวะเช่นนี้ไม่เป็นผลดีกับมหาวิทยาลัย ทำให้พนักงานขาดความเชื่อมั่น ขาดขวัญและกำลังใจ และที่สำคัญที่สุดจะมีผลต่อการตัดสินใจออกเป็นพนักงานของข้าราชการและลูกจ้างประจำในรุ่นต่อๆไป
นอกระบบ นี่ ต้องใช้ ภาวะ ผู้นำ สูง ครับ
สวัสดีครับท่านอาจารย์JJ
ทุกอย่างจะไปได้ดีต้องอาศัยความตั้งมั่นของผู้นำ..ครับ
อ่านมาก รู้มาก ศึกษามาก ปัญหามาก ชักไม่แน่ใจจะออกแล้ว
ท่านคน มธ. ครับ
อย่าไปกังวลให้มากเลยครับ ผมเชื่อว่าท่านทำได้ และคงทำได้ดีด้วย
การออกนอกระบบเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ