"ไปไหนมาไหน นอนที่อื่น มันนอนไม่หลับ แต่ถ้าที่โรงเรียนใต้ต้นไม้ตรงไหน ผมก็นอนหลับสบายครับ"
ผมรักโรงเรียนกับน้าเฟื่อง
อมตะวาจาที่ว่า "ผมรักโรงเรียนครับ"
"ไปไหนมาไหน นอนที่อื่น มันนอนไม่หลับ แต่ถ้าที่โรงเรียนใต้ต้นไม้ตรงไหน ผมก็นอนหลับสบายครับ"
แกล้งแซวกลับไปว่า "น้าเฟื่อง อย่างนี้ต่อไปผมก็ลำบากละสิ มานอนเวรที่โรงเรียน เกิดน้าเฟื่องตายไป น้าเฟื่องไม่ยอมไปไหน มาอยู่ที่โรงเรียน ผมไม่แย่หรือ"
"ก็อย่างนั้นเอง ไอ้ทิดเอ๋ย ฉันก็กะจะมาอยู่ที่โรงเรียนนี่แหละ"
แค่นี้วงสนทนาก็แตกแล้วครับท่าน
นี่คือทัศนะคติของนักการภารโรงหัวใจทองคำที่ชื่อ "นายเฟื่อง ปานดี"
ย้อนคิด ย้อนคุยไปถึงว่าถ้าทุกคนในองค์กร รักและภักดี ใส่ใจ และห่วงใยในความเป็นองค์กรของเรา อะไรจะเกิดขึ้นก็องค์กรนั้น
แต่ไม่ใช่ในมิติที่กลับมาอยู่โรงเรียน เมื่อยามสิ้นลมอย่างที่น้าเฟื่องพูดเย้าผม (ผมภาวนาให้แกพูดเย้าเล่นจริง ๆ เพราะไม่อยาดเจอคนรักโรงเรียนเมื่อมาอยู่เวรหรือทำงานตอนกลางคืนที่โรงเรียน)
รักองค์กร
ทุกวันนี้ เราสร้างวัฒนธรรมองค์กรของเราอย่างไร
ให้คนในองค์กรรัก และรวมใจเป็นหนึ่งเดียวเพื่อองค์กรของเราน่าคิด
การเพิ่มคุณค่าของคน
การเพิ่มคุณค่าขององค์กร
เรา...
เขา...สร้างกันอย่างไร
สงสัยต้องให้น้าเฟื่อง มาเป็นกระบวนกรในการฝึกอบรม และถอดรหัสแห่งความรักและภักดีแก่คนในองค์กรแล้วละครับ
งานเข้าแล้ว ไหมละน้าเฟื่อง!!!....