สร้างสังคมที่ดีด้วย “การช่วยเหลือ”
คุณเคยคิดแบบนี้ไหม? “สังคมทุกวันนี้เต็มไปด้วยการแก่งแย่ง แล้งน้ำใจ แย่งชิงไม่เอื้อเฟื้อต่อกันเลย.....”
หากว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีความคิดทำนองนี้...ขอให้รู้ไว้ว่า คุณสามารถช่วยเหลือสังคมที่คุณคิดว่ามันไม่ดีเอาเสียเลย ให้กลายเป็นสังคมที่ดีขึ้นได้...ค่ะ
จากการวิจัยของแดเนียล แบ็ตสัน (Daniel Batson,1991) ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาของสหรัฐอเมริกา เรื่อง Is empathic emotion a source of altruistic motivation มีการทดลองหนึ่งชี้ชัดว่า บุคคลจะเปลี่ยนความคิดจากการปฏิเสธการช่วยเหลือผู้อื่น มาเป็นให้ความช่วยเหลือผู้อื่น เมื่อได้รับการกระตุ้นความรู้สึกอย่างเหมาะสม เช่น เมื่อเห็นผู้อื่นประสบปัญหาแล้วรู้สึกอยากช่วย สอดคล้องกับงานวิจัยของ จอห์น ฟิลิปป์ รูชตัน (John Philippe Rushton) และแอนนี ซี แคมป์เบลล์ ประเทศอังกฤษ ได้ข้อสรุปว่า คนส่วนใหญ่ที่ตัดสินใจบริจาคเลือดไม่ได้เกิดจากความเต็มใจในครั้งแรก แต่เมื่อเห็นผู้อื่นบริจาคเลือดก็รู้สึกดี และอยากทำตามบ้าง... (ขอบคุณข้อมูลจากนิตยสารชีวจิต) จะเห็นได้ว่า การแสดงน้ำใจและช่วยเหลือกันและกันของตนใจสังคม เป็นพฤติกรรมเลียนแบบประเภทหนึ่ง ที่ยิ่งพบเห็นมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งกระตุ้นให้ทำตามมากเท่านั้น
สังคมเปี่ยมสุข...เราสามารถสร้างได้
ดังนั้น หากเราอยากให้สังคมรอบตัวเรามีแต่การให้ละการแบ่งปันช่วยเหลือกัน ควรเริ่มจากตัวเรา คือเรียนรู้การเป็นผู้ให้ และมีน้ำใจช่วยเหลือกันและกันเสียตั้งแต่วันนี้ เราคงได้ยิ่งประโยคนี้อยู่บ่อยๆ คือ
“อยากให้เขาทำอย่างไรกับเรา จงทำกับเขาอย่างนั้น
ถ้าอยากเป็นผู้รับ ก็ต้องรู้จักการเป็นผู้ให้
ถ้าอยากได้ความรักจากใคร ก็จงมอบความรักแก่คนนั้น
ถ้าอยากได้มิตรภาพจากใคร ก็จงหยิบยื่นมิตรภาพให้แก่คนนั้น”
การแสดงน้ำใจต่อกันเป็นสิ่งที่สำคัญมาในสังคมปัจจุบันนี้ และควรปลูกฝังเรื่องนี้ให้กับบุตรหลาน เด็กและเยาวชน ตลอดจนคนใกล้ชิด เริ่มจากคนใกล้ตัว เช่น การเอื้อเฟื้อที่นั่งแก่คนชรา เด็ก หญิงตั้งครรภ์ ช่วยจูงมือคนตาบอดข้ามถนน ช่วยเพื่อนถือของ หรือแม้แต่การกล่าว “ขอบคุณ” หรือ “ขอโทษ” ให้ติดปาก เท่านี้ก็เป็นการแสดงน้ำใจที่ดี โดยที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย และเมื่อทำจนเคยชิน ก็สามารถช่วยเหลือผู้อื่นในเรื่องที่ใหญ่ขึ้นได้โดยไม่รู้สึกขัดเขิน และไม่รู้สึกเสียดาย...แล้วเราจะรู้ว่า บางครั้ง การให้...มีความสุขยิ่งกว่าการรับเสียอีก และที่สำคัญ การที่เรารู้จักเป็นผู้ให้อย่างไม่เสียดาย และรู้จักเห็นใจผู้อื่นนี้ จะช่วยให้เรามีภูมิคุ้มกันที่ดี เมื่อวันที่เราต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ เราจะสามารถแก้ปัญหานั้นได้อย่างเหมาะสม และบังเกิดสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต
อย่าลืมนะคะ อยากได้สังคมที่ดี ก็จงมอบความรัก มอบมิตรภาพให้แก่ โดยการเป็นผู้ให้ค่ะ......
เห็นด้วยอย่างยิ่งคะ ปกติก็ปฏิบัติสม่ำเสมอคะ
เป็นการแสดงนำใจที่ดีให้แก่ผู้อื่นได้ดีมากรู้จัก ขอบคุณ รูจัก ขอโทษ และรู้จักแก่ปัณหาด้วยตนเอง
สวัสดีค่ะคุณครูใจดี
ชอบบันทึกดีค่ะ
น้ำใจ...มีค่ามากอยากได้...มากๆ
ถ้าเราแสดงความมีน้ำใจเราก็จะได้มิตรภาพที่ดีกลับมา
การมีนำใจจะทำให้คนไทยสามัคคีนะคับ ผมคิดอย่างนั้น
เห็นด้วยๆ ๆ จิงๆ ๆ คับ
มืตรภาพเป็นสิ่งที่ดี ถ้าเรามีน้ำใจกับคนอื่น เราก็จะได้มีมิตรภาพเพิ่มขึ่นมาอีกด้วย
เห็นด้วยนะคับ สู้ๆๆ คับ
ทำต่อไป 55 5+
สู้ๆ ๆ ทามต่อไปนะคับ
ขอบคุณ ทุกๆ คน ที่เข้ามาอ่าน...
ขอบคุณ ทุกๆ คน ที่ชอบเรื่องนี้...
หากเราร่วมกันทำความดี...คนละเล็กละน้อย
เชื่อว่าไม่นาน...สังคมของเราจะต้องเต็มเปี่ยมด้วยความสุข ความสงบ
ซึ่งเป็นที่ปรารถนาของพวกเรา ทุกคนใช่ไหมคะ...
สวัสดีค่ะคุณครูใจดี
เห็นด้วยกับบันทึกนี่ค่ะ
คนและสังคมต้องบูรณาการไปด้วยกันเสมอ...
อยากให้สังคมดี เราคงต้องทำตัวเป็น "คนดี" ให้ได้เสียก่อน
(^___^)
ขอบคุณค่ะ คุณคนที่ไม่มีราก
สัญญาว่าจะยึดมั่นใน"ความดี"
จะเป็นผู้ชี้นำแนวทางแก่ลูกศิษย์ เด็กและเยาวชน
ให้เป็น "คนดี" จนกว่าจะหมดเรี่ยวแรง...
สวัสดีครับ
แวะมาเยี่ยม และกล่าวคำ สวัสดี และขอบคุณ ครับ
การช่วยเหลือคือการให้เช่นกัน
ขอบคุณ ผศ.เพชรากร ที่เข้ามาทักทายกัน
สัวสดี และขอบคุณอีกครั้งค่ะ
^_^
จริงค่ะ ตอนนี้สังคมเราเปลี่ยนไปมาก เราต้องมีน้ำใจต่อกัน
การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันนั้นไม่ใช่เรี่องยาก ถ้า!คิดจะทำ