(ต่อจากคราวแล้ว)
9. เวลาลงโปรแกรม และ เปิด autoprotect ต่างๆ จงทำใจ ยิ่งโปรแกรมเก่งเ่ท่าไหร่ก็จะถามนั่นถามนี่ตลอดเวลา หลายคนทนไม่ได้ เข้าไปแก้ไขคุณสมบัติ เพื่อให้ไม่รำคาญ แต่ด้วยความที่คนเขียนโปรแกรมเก่งกว่า พวกเราหลายร้อย(พัน) เท่า สิ่งที่เขาถามเราว่า เอานี่ไหม เอานั่นไหม เราไปเอานั่นเอานี่ออก บางที เหมือนไม่ได้ติดตั้งโปรแกรมเลยครับ ถ้าถามอย่างนี้เอาไงดี ตอบว่าโปรแกรมส่วนใหญ่ตั้งค่ามาให้ดีพอประมาณแล้วล่ะครับ ทนให้มันถามดีกว่า ถ้าทนไม่ได้ก็ขอให้มันทำเลยอย่างที่มันตั้งใจ แต่ไม่ต้องถาม แต่นั่้นต้องทำใจนะครับ อ่านให้ดี บางทีมันเลือกลบทิ้งเลยนะครับ เอาน่ะเพื่อความปลอดภัย เราทำเองก็คงไม่ดีกว่าสักเท่าไหร่
10. เลือกโปรแกรมที่มีการ update สม่ำเสมอ แต่ ต้อง ต้อง ต้อง update นะครับ คนพวกนี้เขาขยันกว่าเราเยอะ แต่เป็นหน้าที่ที่เขาต้องตามความเจริญก้าวหน้าของไวรัสอยู่แล้ว พูดไปอายครับ พวกเราก็ขยัน ขโมยความคิดของเขามาลงเครื่อง เรื่องนี้พูดไม่ออกครับ คงออกความเห็นไม่ได้เต็มปากเต็มคำ
11.เวปไซต์ ประเภท crack , freeware, serial , hacking มักแถมโปรแกรมโทรจันมาด้วยเสมอ ยังไม่รวมพวก 3X ทั้งหลาย ระวังไว้นะครับ ถ้ารักจะขโมยใช้โปรแกรมชาวบ้าน ก็หาซื้อโปรแกรมแผ่นละร้อย ร้อยห้าสิบเอาเองจะปลอดภัยกว่า เพราะเขาดูมาพอสมควร แต่ไม่ safe 100 % นะครับ เลือกเอาค่ายที่ทำขายสม่ำเสมอก็แล้วกัน อันนี้ไม่ได้สนับสนุนนะครับ แต่มันจำเป็นสำหรับพวกเรา
12. บอกไว้ตอนต้นแล้วว่า พวก จดหมายไม่รู้จัก อย่าเปิด อย่าลืมเปิดantivirus พวกที่สามารถเช็คเมล์ด้วยนะครับ และเมื่อเจอ อย่าเก็บไว้ดูนะครับ ลบได้ลบเลย ไม่ควรแสวงหาความรู้เรื่องไวรัส ถ้าไม่เก่งจริงนะครับ
13. เอาโดนเข้าจริงๆ จะรู้ได้อย่างไร อันนี้บางทีตอบยาก ถ้าเครื่องช้าผิดปกติอันนี้เป็นสัญญาณดั้งเดิม แฟ้มที่เคยอ่านได้ดีๆ เกิดมีอะไรเพี้ยนๆ อันที่สำคัญแต่เราไม่ค่อยสังเกต คือ พวก trojan spyware adware จะพยายามติดต่อกับ internet เพื่อส่งบางอย่างออกไปโดยเราเป็นจำเลย จะสังเกตอย่างไร พอดูได้ครับ ถ้าฐานกรุณาส่งสัญญาณไม่มา จะเห็น ว่า รูปคอมพิวเตอร์สองอันใน แถบเครื่องมือ มีสัญญาณติดต่อตลอดเวลาหรือเป็นช่วงๆ ทั้งๆที่เราไม่ได้ติดต่อ net หรือถ้าจะให้ชัด ตอนปิด net ไม่ได้ online จะมีข้อความเตือนเป็นระยะๆ ว่า ติดต่อ site นั่น site นี่ไม่ได้ โดยเฉพาะ พวก site ที่บริการ mail ทั้งหลาย เช่น hotmail msn นั่นแปลว่า ไวรัส กำลังทำงานเองโดยอาศัยเครื่องเราติดต่อ ถ้าติดต่อได้มันก็จะไปสู่่ชื่อต่างๆที่มันค้นเจอจากเครื่องเรา ไปทำร้ายพรรคพวกเราครับ
14. จดหมายเราแม้แต่ฉบับเดียว ที่ส่งออกไป ถ้าถูกตีกลับจากผู้ให้บริการ(ที่รอบคอบ) ว่ามีไวรัส ให้เราใส่ใจทันที รีบหา ทาง scan file ทันทีก่อนที่จะเกิดเรื่องครับ
ตอนนี้ก็คงเยอะแล้วนะครับ คงมีอีกเยอะ หลายท่านอ่านแล้วคงหัวเราะว่า อาจารย์รู้ขนาดนี้ยังไม่รอดอีกหรือ ใช่ครับได้ข้อสรุปครับ
ความประมาท ความละเลย การผลัดวันประักันพรุ่ง สามารถฆ่าผู้รู้ที่เชี่ยวชาญได้
ขอเล่าให้ัฟังอีกนิดเดียวถึงอาการของเครื่องที่ผมโดนนะครับ เมื่อเปิดจดหมายน้องๆที่ส่งมาในช่วงนั้น โปรแกรม antivirus ถูกปิดลง (ด้วยความสามารถของเจ้าไวรัสอย่างไม่น่าเชื่อ) ผมจำไม่ได้ว่า ถูกหลอกได้อย่างไร อันหนึ่งที่แน่ๆคือ ความเกียจคร้าน ที่ไม่ชอบ ปิดเครื่อง เปิดใหม่ แต่ใช้วิธี hibernate นั่นคือ เครื่องแม้ปิดฝา ก็จำสถานะสุดท้ายไว้ตลอด บางที สิบกว่าวัน ก็ถือว่าเป็นการเข้า windows ครั้งเดียว เมื่อเผลอปิดantivirus อาจลืมยาว ถ้าปิด windows แล้ว เปิดเครื่องใหม่ โปรแกรม antivirus จะมัก start ใหม่ให้ทุกครั้งนะครับ ยกเว้นเราปิดโดยที่มันเตือนว่า เมื่อเข้า windows ใหม่จะไม่ start ให้เอาไหม
เครื่องไม่แสดงอาการอะไร สักระยะ เพราะมันคงฝังตัวอยู่ในจุดที่รอการเรียกใช้ ส่วนหนึ่งก็้ email นี่แหละ ผมมาัสังเกตอีกที ตอนที่เป็นแบบ ข้อ 13 นี่แหละครับ มารู้อีกที ไวรัสยิงสัญญาณออกนาทีละนับร้อยครั้ง ดีว่า ผมเป็นคนไม่ค่อย online แล้วข้อมูลเครื่องเสียหายได้อย่างไร
ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้แล้วครับ ลงโปรแกรม หรือ สแกนอะไรก็แทบไม่ได้ เพราะ processor time โดยไวรัสใช้หมด เรียกได้ว่า เรียก drive C: กว่าจะเห็นแ้ฟ้มเล่นเอาเป็นชั่วโมง ลองคิดดูสิครับ ตอนนี้คิดจะ copy จะ ดึงข้อมูลอะไรจาก my document และ program file ก็แฟ้มละหลายชั่วโมงครับ
นั่นแปลว่า จะลง windows ใหม่ ไม่สามารถลงจาก setup ของ c:windows ได้แล้ว ถึงลงได้ ไวรัสก็ยังอยู่ที่ใดที่หนึ่ง นี่คือ เอวังล่ะครับ
นั่นคือ
ต้องปิดเครื่อง ลงโปรแกรม windows ใหม่ ซึ่งจะเป็น การลงใหม่จริงๆ
ไม่ใช่ี update นั่นคือ ถ้าคุณใช้ชื่อเดิม มันจะไปลบทุกอย่างใน
my document หมด ถ้าเปลี่ยนชื่อใหม่
มันยิ่งเจ็บใจครับ คือ แฟ้มเดิมยังมีอยู่ครบ ตรงนั้นตรงนี้
แต่มองไม่เห็นเปิดไม่ได้ครับ ผมยังไม่เคยเห็นว่า มี
โปรแกรมอะไรเปิดได้เลยครับ สิ้นกัน
มีอีกวิธีหนึ่ง แต่ต้องยอดฝีมือนะครับ อาจหายนะมากกว่าเดิม คือถอด harddisk ออกไปต่อพ่วงเครื่องที่มี anitivirus ที่ดีพอ แล้ว scan วิธีนี้ ตัวใครตัวมันนะครับ ท่านอาจแถมไปทำให้อีกเครื่องพังไปด้วยครับ
เอาเถอะครับ อยากเข้าเนื้อหาแล้ว ก็ถือว่าเป็นการคืนหนี้ เบื้องต้นให้กับน้องๆพี่ๆนะครับ ผมยังติดค้างภาคต่อของบทความคราวที่แล้วนะครับ เชิญอ่านต่อได้เลย
วราวุธ
ไม่มีความเห็น