ได้ติดตามการดำเนินการ การใส่พระทัยของพระวรวงค์เธอพระองค์เจ้าโสมเสาวรีย์พระวรราชาธินัตดามาตุ และโครงการรณรงค์เรื่องการหยุดใช้ความรุนแรงในเด็กและสตรีของ ดร.พระองค์เจ้า ภัทชรกิติยาภา แล้วปราบปลื้มใจเป็นที่สุดที่เจ้าฟ้า เจ้าแผ่นดินให้ความสนพระทัยในเรื่องที่ยิ่งใหญ่และเป็นปัญหาที่สุดของสังคมไทยมานานแล้ว ล่าสุดที่ตกเป็นข่าวการฆ่ายกครัว การแขวนคอเด็กหญิง การข่มขืนฆ่า การทำร้ายร่างกายและข่มขืนจิตใจภรรยาจากสามี การถูกทารุณทางเพศจากบิดาแท้ๆที่มีต่อลูกที่ยังเล็กจนตั้งท้อง การค้าประเวณีเด็ก แม่เร่ขายบริการทางเพศและพาลูกสาวออกขายบริการพร้อมตนเองฯลฯ เหล่านี้สะท้อนอะไรกับสังคมไทย หน่วยงานราชการที่มีหน้าที่ทั้งโดยตรงและโดยอ้อมทำอะไรกันอยู่กับเงินภาษีอากรของประชาชน แต่ผลของพฤติกรรมที่เกิดขึ้นตกต่ำอย่างสิ้นเชิง คนจนคนทุกข์คนยากเต็มบ้านเต็มเมือง ซ่องคลับ บาร์และสถานที่อโคจรที่มีการค้าประเวณีเด็กเต็มไปหมด เงิน 2,000 บาทแก้ไม่ได้ เงินยังชีพ 300 500 แก้ไม่ได้ ผมได้ฟังโอวาทของพระองค์โสมฯ ท่านเสนอว่า"งานนี้ต้องตั้งใจต้องทำอย่างเต็มที่ จะท้อไม่ได้ ถ้าท้อก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ "ท่านยังให้มูลนิธิเพื่อนพึ่งภายามยาก เป็นอีกองค์กรหนึ่งคอยขับเคลื่อนเรื่องนี้ เราในฐานะประชาชน มวลชนพื้นฐานคงต้องตระหนักเรื่องนี้กันอย่างจริงจังแล้ว ปล่อยให้คุณประวีณา และเจ้าฟ้าทั้ง2พระองค์ดำเนินงานลำพังไม่ได้แล้ว เรื่องนี้ต้องสร้างและปลุกจิตสำนึกกันมาจากครอบครัว การให้หน่วยราชการถักทอทำงานเชื่อมกันอย่างเป็นเครือข่าย โรงเรียน สถานศึกษาทุกระดับจัดหลักสูตรสร้างสำนึกไม่ใช่ความรุนแรงในเด็กและสตรี องค์กรเอกชน พัฒนาชนบท ในเมืองต้องผลึกกำลังกันอย่าต่างคนต่างทำ หน่วยงานรัฐมีงบประมาณแยะทำไม่เป็นเช้าชามเย็นชาม ก็ให้ทุนองค์กรอกชนเขาประสานงานไปทำก็น่าจะส่งผลให้กิจกรรมทุกอย่างในด้านนี้ก้าวหน้าขึ้น ขณะเดียวกันก็หันมาทบทวนกฎหมายในเรื่องนี้อย่างจริงจังอีกทางหนึ่งด้วยน่าจะเสริมให้เรื่องเหล่านี้เบาบางลงบ้าง ขอเป็นกำลังใจให้
ไม่มีความเห็น