ศูนย์ข่าวพลเมือง ฅนคอน
นาย ทรงวุฒิ พัฒแก้ว ศูนย์ข่าวพลเมือง ฅนคอน พัฒแก้ว

"เซาเทิร์นซีบอร์ด"ยังวุ่นคนคอนเสียงแตกผุดนิคมฯปิโตรเคมี


ว่า กนอ.เตรียมเสนอผลการศึกษาทัศนคติในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม เพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ หรือเซาท์เทิร์น ซีบอร์ด ให้กับกระทรวงอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งผลการรับฟังความคิดเห็นของชุมชนใน 3 อำเภอ คือ ท่าศาลา สิชล และนาบอน จ.นครศรีธรรมราช เสร็จแล้ว โดยพบว่าประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวยังมีความเห็นไม่ตรงกันว่า ควรตั้งนิคมอุตสาหกรรม เพื่อรองรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและพลังงานในพื้นที่เซาท์เทิร์น ซีบอร์ดหรือไม่
 
 
"เซาเทิร์นซีบอร์ด"ยังวุ่นคนคอนเสียงแตกผุดนิคมฯปิโตรเคมี
Source -
เว็บไซต์แนวหน้า (Th)

Friday, April 03, 2009  22:06
37519 XTHAI XCOMMER V%NETNEWS P%WNN

 

          นางมณฑา ประณุทนรพาล ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.เตรียมเสนอผลการศึกษาทัศนคติในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม เพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ หรือเซาท์เทิร์น ซีบอร์ด ให้กับกระทรวงอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งผลการรับฟังความคิดเห็นของชุมชนใน 3 อำเภอ คือ ท่าศาลา สิชล และนาบอน จ.นครศรีธรรมราช เสร็จแล้ว โดยพบว่าประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวยังมีความเห็นไม่ตรงกันว่า ควรตั้งนิคมอุตสาหกรรม เพื่อรองรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและพลังงานในพื้นที่เซาท์เทิร์น ซีบอร์ดหรือไม่

          "ถ้าชุมชนไม่ตอบรับการลงทุนปิโตรเคมีและพลังงานก็ต้องมีกระบวนการสร้างความเข้าใจ ซึ่งรัฐบาลต้องเข้ามาช่วยดำเนินการเพราะการลงทุนดังกล่าวต้องพัฒนาพื้นที่ และต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก จึงต้องสอบถามผู้ประกอบการด้วยว่า ต้องการเข้าไปลงทุนหรือไม่ ถ้า กนอ.เตรียมพื้นที่ไว้แล้ว ไม่มีใครไปลงทุนก็ไม่เกิดประโยชน์" นางมณฑา กล่าว

          ทั้งนี้ปัจจุบันนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ไม่มีพื้นที่สำหรับขยายการลงทุนปิโตรเคมีแล้ว ขณะที่นิคมอุตสาหกรรมของเอกชนที่อยู่ใกล้เคียงก็ไม่เหมาะกับการลงทุน ทำให้ภาครัฐต้องหาพื้นที่ใหม่รองรับ โดยกนอ.เข้ามาศึกษาพื้นที่ในภาคใต้ เพราะเมื่อพื้นที่มาบตาพุดเข้าสู่แผนจัดการมลพิษในสมัยนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฐ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรมว.อุตสาหกรรม กำหนดนโยบายว่าควรมีการศึกษาพื้นที่ใหม่รองรับอุตสาหกรรมดังกล่าว

          "นอกจากนี้การประกาศเขตควบคุมมลพิษที่มาบตาพุด จะส่งผลให้กระแสการเข้ามามีส่วนร่วม มีมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้การพัฒนาพื้นที่เพื่อเป็นนิคมอุตสาหกรรมใหม่ทั่วประเทศ และนิคมอุตสาหกรรมในเซาเทิร์นซีบอร์ดยากขึ้น โดยกนอ.ได้ประสานท้องถิ่นมาบตาพุด เพื่อชี้แจงแผนควบคุมมลพิษของกนอ.ให้รับทราบแล้ว ทำให้ไม่ต้องเริ่มทำแผนใหม่ทั้งหมด และคาดว่าแผนดังกล่าวจะดำเนินการให้เสร็จตามที่กำหนดไว้" ผู้ว่าการ กนอ.กล่าว--จบ--

 

          ที่มา: http://www.naewna.com

หมายเลขบันทึก: 262196เขียนเมื่อ 19 พฤษภาคม 2009 23:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 19:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ในฐานะของคนนครศรี

และก็คิดว่ามีการศึกษาสูงพอสมควร

ผมคิดว่า นิคมอุตสาหกรรมน่าจะให้ประโยชน์แก่จังหวัด และประเทศในภาพรวมนะครับ

ถ้ามีการจัดการที่ดี และกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

ในความคิดผมตอนนี้ผมคิดว่า ทำไม คน สิชล ถึง ได้ ใจแคบอย่างงี้

เคยคิดบ้างไม๊ครับว่า ลูกหลานที่ตัวเองส่งไปเรียนให้ได้เรียนสูงๆ

เรียนวิศวะ จบมาแล้วต้องไปทำงานไกลบ้าน ไปทำงานระยอง เพราะที่นครของเรา ไม่มีแหล่งงานให้ทำ

หรือว่า คิดได้แค่ว่า ส่งให้ไปเรียนสูงๆ แล้วกลับมาจับปลา ปลูกยาง

ว่าทำไม นครศรี จึงไม่เจริญเหมือนที่อื่นๆ ซักที

ครับ

สถานการณ์ ในปัจจุบัน หรือ มิติทางสังคม ผมว่ามองยากครับ ว่าคนสิชลใจแคบหรือไม่ เพราะทุกคนมีสิทธิ และ เสรีภาพในการอยู่อาศัย และมีชีวิตอย่างมีความสุขบนโลกใบนี้ ผมอยากแลกเปลี่ยนอย่างนี้ครับว่า ที่ดิน วะกัฟ หลุมศพ กุโบร์ ของบรรพบุรุษ ถ้าถูกขุด หรือ ทำลาย เราจะทำอย่างไร แผ่นดินเกิดที่รุ่นปู่ รุ่นย่าสั่งนักสั่งหนา ว่า ต้อง รักษาไว้ยิ่งชีวิต มีคนมาเอาไป จะรู้สึกอย่างไร

อีกประเด็น เราอยากให้คนอื่นเสียสละ แต่ถ้าถามเราละ จะเสียสละเหมือนพวกเขาหรือเปล่า เราหวังแค่ได้งานทำเท่านั้น หรือ แล้วพี่น้องในพื้นที่ละ ชาวประมงที่ตกทอดมาหลายชั่วอายุ ให้เขาไปทำอะไร ไปทำก่อสร้างหรือ

ทุกคนมีสิทธิในโลกและผืนแผ่นดินครับ

เอาละครับ คุณทรงวุฒิ

ผมคงไม่เอาเวลาไปต่อล้อต่อเถีงกับคุณอีกต่อไป เพราะผมคิดว่าคงไม่มีประโยชน์

คุณทิ้งท้ายว่า "เราอยากให้คนอื่นเสียสละ แต่ถ้าถามเราละ จะเสียสละเหมือนพวกเขาหรือเปล่า "

ผมมั่นใจครับว่า การศึกษาที่ผมมีอยู่ตอนนี้ ไม่ได้บ่มเพาะผมเฉพาะด้านวิชาการ ยังรวมถึงคุณธรรมอีก

ด้วยครับสำหรับเลือดลูกพระบิดา ได้เอาคำสอนมาไว้ในใจเสมอครับ

"ให้ถือประโยชน์ของตนเป็นที่สอง ประโยชน์ของคนอื่นเป็นหนึ่ง"

งานแบบผม ถ้าไม่เสียสละ ไม่อดทน ให้มาก ก็มีแต่ไม่เจริญครับ

ผมอยากถามกลับไปว่า ถ้าผมบอกให้คุณเอาคำนี้ไปลองใช้บ้างละครับ คุณจะกล้าเสียสละใหมครับ

สมมติว่าประโยชน์ไม่ได้เกิดแค่บริษัทน้ำมันข้ามชาติ แต่นั่นหมายถึง เศรฐษกิจ (ที่แสนย่ำแย่ของจังหวัด)

ประโยชน์ที่จะเกิดกับประเทศ

--- คุณจะกล้าเสียสละไม๊ ?----

สิ่งที่คุณควรเคารพก็คือการรับฟัง (ไม่ใช่ยอมรับ) ข้อคิดเห็นของผู้อื่นตามหลักประชาธิปไตย (นั่นคือการหาทางออกของปัญหาร่วมกัน)

ไม่ใช่คุณตั้งไว้แล้วว่า มันเป็นเส้นขนานกันระหว่าง ปัญหา และการแก้ปัญหา

วิถีทางแบบนี้เรียกว่าวิถีทางของคนไม่ฉลาด นั่นคือการหนีปัญหา

แม้ว่าผมจะเรียนมาในสายการแพทย์ก็ตาม ความเป็นเลือดเหลืองแดง ในรั้วแม่โดม แหล่งซึ่งเป็นนักคิดด้านประชาธิปไตยของประเทศไทย ทำให้ผมได้ซึมซับ

สังคมประชาธิปไตยไปเยอะพอควร ผมขอชื่นชมและรับฟังในข้อคิดเห็นของคุณครับ

แต่

การเป็นประชาธิปไตยเห็นต่างได้ครับ แต่ไม่แตกแยก นั่นคือ หาทางออกร่วมกัน นั่นคือ พบกันคนละครึ่งทาง

ผมว่า ถ้าคุณจะเรียกร้องให้สร้างสรรค์กว่านี้ นั่นก็คือ ทำยังไง ให้มันออกกฏหมาย หรือ กลไกรัฐที่ชัดเจนในการรับผิดชอบ adverse effects ที่จะเกิดขึ้น

พูดง่ายๆ คือเรียกร้องให้ออกกฏหมายควบคุม ทีได้ผล คุณกลัวว่าจะเกิดผลกระทบอย่างไร คุณก็เรียกร้องอย่างงั้นซิ สร้างสรรค์กว่าคัดค้านแบบไม่มีเหตุผลเยอะเลย

ท้ายนี้ผมอยากจะบอกคุณว่า ผมคงไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย (จากการตอบ blog คุณครั้งนี้) แถวเมื่อยมือด้วยซ้ำ

ผมคงไม่ได้เรียกร้องให้เกิดนิคมอุตสาหกรรมนครศรีธรรมราช เพื่อให้ผมได้มีที่ทำงานใกล้บ้าน

เพราะ จริงๆแล้ว อาชีพอย่างผมทำงานที่ไหนก็ได้ ตั้งแต่ชุมชนที่มีวิถีชีวตเรียบง่าย ถึง ศูนย์กลางความเจริญของประเทศ อันมีความคิดซับซ้อนมากมาย

ไม่ต้องรอบุณบารมีจาก project ยักษ์ อย่าง นิคมอุตสาหกรรมนครศรีธรรมราช หรอกครับ

ผมจบมาใหม่ก็เลือกที่จะไม่ทำงานที่นครครับ ผมไปทำงานหาดใหญ่ ก็เลยรู้ดีว่า คนอื่นเค้ามองเรายังไง

ให้ผมจบการศึกษาสูงๆ แล้วมีแหล่งงานที่บ้านเกิดผม ผมก็อยากไปทำน่ะ อยากพัฒนาบ้านเกิดเหมือนกัน

แต่ผมคิดว่า ปัจจุบันนครยังไม่พร้อมครับ ไม่พร้อมด้วยคนเป็นหลัก คนมีการศึกษาแต่แนวคิดไม่เปลี่ยนแปลง

พร้อมรับการพัฒนา การปรับตัว คนนครยังเป็นแบบคุณทรงวุฒิ เยอะครับ ทำให้วัฒธรรมขององค์กรแทบทุกแห่งในนครศรีธรรมราช

ไม่เอื้อแก่การพัฒนา

ผมฝากไว้เท่านี้แหละครับ

ไปเจอทัศนะคติของ ประธานหอการค้า เมืองคอน

ลองเอาไปให้ชาวบ้านดูนะ (ถ้ากล้าเสนอ ความคิดรอบด้าน)

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=417442

ครับผม

อยากบอกว่า บทความนั้น

ตีพิมพ์ในจดหมายข่าว เรื่องเล่าจากเขาถึงเล

ซึ่งเป็นวารสาร ทั้งด้านบวกและลบที่ทางกลุ่มจัดทำขึ้นครับ

ซึ่งผมเป็นผู้จัดการ ในการจัดพิมพ์

และ ที่ขึ้นเว็บไว้นั้น ขึ้น ในบล็อกผมด้วยครับ

ขอบคุณที่ช่วยให้ข้อมูล

มีอะไรใหม่ช่วยแจ้งด้วยนะครับ

ขอบคุณมากๆๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท