ราชวงศ์หมิง จากเรื่องราวในพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งของปักกิ่ง ตอนที่ 1


ราชวงศ์หมิงผู้สร้างปักกิ่ง

พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งราชวงศ์หมิง

(Beijing Waxworks Palace of Ming Dynasty)  

 

ตอนที่ 1 ฉากที่ 1-10

ตอนที่ 2 ฉากที่ 11-20

ตอนที่ 3 ฉากที่ 21-26

 

จากกรุงปักกิ่งไปทางเหนือโดยทางรถยนต์ ประมาณ  30 นาที มีการจำลองเหตุการณ์สำคัญของราชวงศ์หมิงแสดงไว้ในพิพธภัณฑ์  มีทั้งสิ้น  26 ฉากตั้งแต่การสถาปนาราชวงศ์จนถึงการล่มสลาย  มีคำบรรยายภาษาจีนกลางและภาษางกฤษแต่ละฉากแสดงไว้ให้ศึกษา นับว่าเป็นแหล่งศึกษาทางประวัติศาสตร์ที่เป็นรูปธรรมและมีคุณค่ามาก  การแปลครั้งนี้จำเป็นต้องกำกับภาษาอังกฤษเอาไว้  เพื่อความเข้าใจตรงกัน  บางฉากไม่ได้ถ่ายภาพชื่อตอนไว้ก็ไม่มีภาษาอังกฤษให้เทียบเคียง  และฉากที่ได้มาไม่ได้เรียบอันดับที่ไว้  แต่เรียงตามเส้นทางเที่ยวชมแล้วตามลำดับ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาแล้วกลับไปชมใหม่ ดังนี้

 

1. สมัครเป็นทหาร

จูหยวนจาง (Zhu Yuanzhang) กำพร้าบิดามารดา  อาศัยวัดอยู่เติบโตแล้วบวชเป็นพระ เจ้าอาวาสบอกว่าไม่ควรอยู่วัดควรอยู่สนามรบ ปี ค.ศ.1352ไปสมัครเป็นทหารร่วมกับกองทัพของกบฎชาวนาที่เหาโจวโจว มีกัวชือชิงเป็นหัวหน้า  แต่งงานกับหม่าซื่อบุตรสาวบุญธรรมของกัวซือซิง  ปี ค.ศ.1356 ได้เป็นหัวหน้ากบฏชาวนา ลำบากสู้รบนาน  12  ปีจึงปราบกลุ่มต่าง  ล้มราชวงศ์หยวน  สถาปนาราชวงศ์หมิง เป็นจักรพรรดิหมิงไท่จู่

 

2. ปราบกลุ่มขบถ (Exterminating Powerful Rivals )

ที่สมรภูมิทะเลสาบป๋อหยาง ในปี ค.ศ. 1363 ระหว่างจูหยวนจางกับหัวหน้ากบฏเฉิน ยิ่วเลี่ยง (Chen Youliang) มีชัยในการรบเมื่อเฉิน ยิ่วเลี่ยงถูกฆ่าด้วยธนู 

3 สถาปนาราชวงศ์ที่เมืองจินหลิง(นานจิง)

                23 มกราคม ค.ศ.1368 สถาปราชวงศ์หมิงที่เมืองจินหลิงและปราบดาภิเษกเป็นหมิงไท่จู (Taizu) ใช้ชื่อรัชศกประจำพระองค์(Reign Title)ว่า หงอู่ ปกครองระบอบสมูรณาญาสิทธิราช และส่งเสริมระบบศักดินา  พัฒนาเศรษฐกิจจนรุ่งเรือง

4. ปกครองด้วยกฎเหล็ก (Rule with a Rod of Iron)

                หมิงไท่จู ปกครองด้วยกฎ ต้าหมิง และ ต้าเค้า เพื่อไม่ให้ข้าราชการใช้อำนาจกอบโกย ได้มีการสร้างคุกไว้เป็นจำนวนมาก  ในปี ค.ศ.1380 มหาบดีถูกกล่าวหาเป็นกบฏ ทั้งครอบครัวและมิตรสหายถูกสังหารร่วมสามหมื่น ในปี ค.ศ. 1393 แม่ทัพใหญ่หลานอี้ ถูกกล่าวหาไม่ภักดีถูกสังหารพร้อมครอบครัวและญาติมิตรกว่าสองหมื่นคน

 

5. ตัดทอนอำนาจเจ้าเมืองชายแดน

จากปี ค.ศ. 1378 จักรพรรดิหมิงไท่จูให้ราชบุตรไปปกครองทั่วประเทศ  แต่งตั้งให้จูเจียนเหวิน (Zhu Yunwen) หลานซึ่งเป็นองค์ชายผู้ล่วงลับจูเพียว (Zhu Biao) และได้ครองราชย์หลังจากหมิงไท่จูสวรรคตในปี ค.ศ.1398 นามว่าฮุ่ยตี้ (Huidi) ใช้ชื่อรัชศกประจำพระองค์(Reign Title) ว่า เจี้ยนเหวิน (Jianwen) ได้ร่วมมือกับขุนนางคู่ใจลดทอนอำนาจขององค์ชายต่าง ๆ ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1398 หลายคนถูกฆ่าและจำคุกเป็นการเริ่มต้นการเคลื่อนไหวกำจัดขุนนางกังฉิน

 

6. องค์ชายเอี๋ยนยึดอำนาจ (The Prince of Yan Seizes Power)

เดือนมิถุนายน 1399 องค์ชายเอี้ยน(จูตี้) ออกมาต่อต้านแผนลดอำนาจองค์ชาย ได้ยกกองกำลังเข้าเมืองนานจิงในเดือนสิงหาคม ปี 1402 และเข้าเมืองสำเร็จ จักรพรรดิฮุ่ยตี้เผาตัวเองตายในตำหนักจูตี้ (Zhu Di) องค์ชายเอี้ยนขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิเฉิงสู่ (Chengzu) ครองราชย์ ค.ศ. 1360-1424 ที่พระศพถูกฝังไว้ที่เขาจิงซาน กรุงปักกิ่ง

 

 

7. ยุคความรุ่งเรืองของหยงเล่อ (The Glorious age of Yongle)

จักรพรรดิเฉิงสู่ (Chengzu) ไช้นามรัชศกว่า หยงเล่อ (Yongle) เป็นผู้ที่เข้มแข็งและเก่งกล้า ปรีชาสามารถ  มีการตั้งที่ปรึกษาฮ่องเต้  มีการย้ายเมืองหลวงไปยังเป่ยผิง (Beiping)  เพื่อการรณรงค์ต่อต้านพวกมองโกลทางเหนือ ด้วยการตั้งหน่วยงานดูแลทางเหนือและแนวชายแดน  มีการส่งกองเรือที่ใหญ่ที่สุดของโลกไปยังมหาสมุทรอินเดีย ถึง 7 ครั้ง  โดยการควบคุมบังคับการโดยเจิ้ง เหอ (Zheng He) เพื่อแสดงพลังอำนาจของจักรวรรดิ

8. ย้ายเมืองหลวงไปปักกิ่ง (The Capital Moves to Beijing)

ศัตรูสำคัญของราชวงศ์หมิงคือเผ่ามองโกล ที่ตั้งมั่นอยู่ในทะเลทรายทางตอนเหนือ  เมืองหลวงนานจิงตั้งอยู่ห่างไกลขาดเอกภาพในการป้องกัน  จักรพรรดิเฉิงสู่ตั้งชื่อรัชศกว่า หยงเล่อ และเปลี่ยนนามเมือง เป่ยผิง เป็นเป่ยจิง (Beijing) และตัดสินใจย้ายเมืองหลวงไปที่เป่ยจิง (ปักกิ่ง) ในปี 1406 การก่อสร้างพระราชวังเริ่มขึ้นในปี 1407 และเสร็จสิ้นในปี 1420 ใช้เวลารวม  13  ปี  การก่อสร้างได้ขยายและเพิ่มเติมแบบอย่างที่มาจากราชวงศ์หยวนโบราณ  มีการขุดคลองเสร็จสิ้นการขนส่งมีความปลอดภัยและราบเรียบดีแล้วจึงมีการย้ายเมืองหลวงหลังจากที่จักรพรรดิเฉิงสู่ได้กระทำพิธีบวงสรวงเทพยดาฟ้าดินที่หอบวงสรวงฟ้าดินแล้ว  นับจากนั้นเป็นต้นมาเป่ยจิงก็ได้กลายเป็นศูนย์กลางทางการเมือง การทหาร เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของจีน

9. จักรพรรดิผู้มีเมตตา   (A Benevolent and Filial Emperor)

จู เกาชื่อ (Zhu Gaochi) โอรสองค์แรกของจักรพรรดิเฉิงสู่ ครองราชย์เป็นจักรพรรดิเหยินจง (Renzong 1377-1425) ในระหว่างที่มีเหตุการณ์เคลื่อนไหวกำจัดขุนนางกังฉินนั้นเขาก็มีกำลังจำนวนเพียง 1 หมื่นคนในการรับมือกับกองทัพจำนวน 5 แสนของหลี่ จิงหลงเพื่อปกป้องเมืองหลวง  ได้รับแต่งตั้งเป็นรัชทายาทในปี 1405 ครองราชย์ใช้นามรัชศกว่า หงชี (Hongxi) ผู้มีเมตตาช่วยเหลือประชาชนผู้อดอยาก  สิ้นพระชนม์ในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน  พระศพถูกฝังไว้ที่สุสานราชวงศ์หมิงที่เมืองเฉียนหลิง

10. กบฏจู เกาสู (Zhu Gaoxu) - The Rebellion of Zhu Gaoxu

จู จานจี (Zhu Zhanzi - 1399-1435) เป็นโอรสองค์แรกของจักรพรรดิเหยินจง ขึ้นครองราชย์นามจักรพรรดิชวนชง (Xuanzong) ใช้นามรัชศกว่า ชวนเต๋อ (Xuande) ในตอนต้นรัชกาลมีกบฏแต่ก็ไม่ได้ลงโทษ  บ้านเมืองมีความมั่นคง แต่ยังมีกบฏจูเกาสู เป็นองค์ชายชาวฮั่น จูเกาสู มีพลังกายที่เข้มแข็งสามารถยกอ่างสำริดนาดใหญ่คลุมตัวได้  ด้วยความกลัวพลังของเขา จักรพรรดิชวนชงจึงสั่งให้เผาจูเกาสู ให้ตายในอ่างใบนั้น  มีเสียงร้องครวญครางในฉากที่แสดงด้วย   

 

ตอนที่ 1 ฉากที่ 1-10

ตอนที่ 2 ฉากที่ 11-20

ตอนที่ 3 ฉากที่ 21-26

หมายเลขบันทึก: 261963เขียนเมื่อ 18 พฤษภาคม 2009 21:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท