เรียนรู้จากร้านซ่อมรถ <๒> เรียนรู้เมื่อสตาร์ทรถไม่ติด
ช่วงสงกรานต์ผมเอารถ MISTUBHISHI ขับไปสุพรรณบุรี รถคันนี้วิ่งไปได้ สองแสนสี่หมื่นสี่พันกว่ากิโลเมตร อายุย่างเข้า ๒๐ ปีแล้ว..วิ่งจากพิษณุโลกไปสุพรรณบุรี (บึงฉวาก) ๒๔๐ กิโลเมตร ไม่มีปัญหาอะไร
ทีนี้พอจะไปทำบุญ เอาคนขึ้นรถเรียบร้อย รถเกิดสตาร์ทไม่ติด ต้องใช้บริการคนเข็นทั้งขาไปและกลับ..ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี ตั้งใจว่าจะขับกลับมาซ่อมที่พิษณุโลก
ทีนี้เกิดคำถามว่า แล้วถ้ารถมาดับกลางทางจะหาคนที่ไหนช่วยเข็น ตกลงก็จะหาช่างซ่อมที่สุพรรณบุรีนั่นแหละ ลองสอบถามกันดู มีช่างให้เลือก ๒ แห่ง แห่งหนึ่งอยู่ที่หันคา (ต้องวิ่งไป ๑๐ กว่ากิโลเมตร) และอีกแห่งหนึ่งอยู่ใกล้ๆ นี่เอง วิ่งไปสัก ๔ กิโลเมตร
แต่ก่อนจะไปถึงช่าง ก็มาหาช่างเหอะกันก่อน พวกคนรู้จักในหมู่บ้านก็มาดูรถ ลงมติกันว่า รถสตาร์ทไม่ติด เกิดจากสาเหตุใด
- เกิดจากแบตเตอรี่ไฟไม่ พอ
- เกิดจากไดร์สตราร์ท เสื่อมชำรุด
ช่างเหอะ หลายคนช่วยกันไปเอาสายไฟมาพ่วงหม้อแบตฯ ลองสตาร์ทดูไม่ติด แสดงว่าเป็นที่ไดร์สตาร์ท แต่เมื่อลองเคาะดูมันก็ไม่ติด..
ตกลงต้องเข็นให้เครื่องติดเพื่อจะพาไปให้ช่างดู แต่เนื่องจากไม่รู้จักอู่จึงต้องให้คนพาไปด้วย ไปถึงช่างกำลังง่วนกับการซ่อมรถ ๖ คันที่มาคอยคิวอยู่ แต่ก็ปลีกเวลามาดูรถให้เรา แกลองเอาสายไปจิ้มๆ ดู รถก็สตาร์ทติดได้ แสดงว่าไม่ใช้เป็นที่แบตเตอรี่ และถ้าสตาร์ทติดได้ก็ไม่ได้เป็นที่ไดร์สตาร์ท
ทีนี้แกก็ไล่สายไฟดู สายไฟมีเชื่อมต่อหลายเส้น ไล่ไปไล่มาใช้เวลาไป ๓๐ นาที จึงรู้ว่าสายไฟเส้นไหนมันเก่า มันทำให้จ่ายไฟไม่ครบวงจร แกก็เลยไปเอาสายไฟเก่าๆ (จากรถคันอื่น) มาเปลี่ยนให้ ทีนี้พอสตาร์ทรถ ครั้งเดียวก็ติดเลย...
ช่างนี้ยังหนุ่มอยู่ อายุอยู่ในราว ๓๐ ปีต้นๆ แกเคยทำงานอยู่อู่ใหญ่ พอมาได้ภรรยาที่นี่ ก็เลยมาเปิดอู่เล็กๆ ของตัวเอง... แกทำรถให้ผม 45 นาที คิดค่าเสียเวลา 100 บาท ซึ่งไม่แพง
ผมได้ความรู้มา ๒ เรื่องใหญ่ๆ
- รถสตาร์ทไม่ติด จากที่เคยทราบว่ามี ๒ สาเหตุ ก็ได้ความรู้เพิ่มมาอีกว่า อาจเป็นที่ระบบจ่ายไฟและสายไฟ (เก่า)
- ช่างไม่ได้ลงทุนอะไร (ไม่ต้องจ่ายเงินอะไร) แต่ใช้ทักษะความรู้ที่มีอยู่ติดตัวมา หาเงินได้วันละ ๑,๐๐๐ บาท (คิดจากค่าเสียเวลา 45 นาที)...
จากข้อสอง ผมจึงเกิดความเข้าใจว่า นี่แหละคือวิชาชีพ...
- ถ้าผมไปสอนพิเศษตอนเย็น นิสิตปริญญาตรี ผมได้ค่าวิชาความรู้ 300 บาท/ชั่วโมง
- ถ้าหมอทำงานนอกเวลา คิดค่าวิชา 50-200 บาท/case ไปแบ่งกันระหว่างโรงพยาบาลกับหมอ ถ้าหมอ case เยอะ ก็ได้สตางค์เยอะ
- ช่าง (ต่างๆ) ก็หาทรัพย์ได้จากวิชาความรู้ที่ตัวเองมี ถ้ากรณีข้างบน ช่างไปเปลี่ยนอย่างอื่นค่าซ่อมอาจเป็นหลักพันได้
ดังนั้น ไม่ว่าจะทำอาชีพใดๆ ต้องมีคุณธรรมความซื่อสัตย์ต่ออาชีพด้วย
 |
|
มนุษย์ผึ้งมหัศจรรย์ |
ความเห็น (12)
เรียน ท่าน BeeMan รถ start ไม่คิด เพราะมีอะไร "เก่าๆ" น่าคิดครับ
เรียน ท่านอาจาย์ JJ
- ช่วยขยาย คำว่า "เก่าๆ" หน่อยครับ..อิอิ
สวัสดีครับ
ผมว่าอาจารย์ต้องขอบคุณรถอาจารย์ที่ซื่อสัตย์มาตั้งสองแสนสี่หมื่นสี่พันกิโลเมตร 100 บาทที่อาจารย์เสียได้ปรัชญามาแลกเปลี่ยนอีกคุ้มจริงๆ ครับ
- เป็นข้อแลกเปลี่ยนเชิงให้กำลังใจที่ดีเลยทีเดียวครับ คุณไพทูล
สวัสดีค่ะอาจารย์
- หลายครั้งจะคอยถามตัวเองว่า..ทำงานคุ้มกับที่รัฐจ่ายมาไหมหรือว่าเกินคุ้ม
- ความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ...น่าจะมีหลักสูตรเต็ม ๆ นะคะ
- เมื่อวานลงเครื่องรับกระเป๋าแล้วว่าจะลาอาจารย์กับอาจารย์ทัศนีย์
- แต่หาไม่เจอค่ะ ขออภัยค่ะ
ขอบคุณครับ ท่านอาจารย์ ที่นำประสบการณ์ดีๆ มาแบ่งปัน
รถผมก็เก่าเหมือนกัน คงต้องระวังสายไฟเก่าเช่นกัน
ผมว่าช่างเค้าเก่งนะครับ มีทักษะการวิเคราะห์ หาสาเหตุของปัญหาที่น่าสนใจ
แสดงว่าต้องผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน
แถมยังมีคุณธรรมในวิชาชีพอีกด้วย
เรียนครูคิม
- ดีใจที่พบตัวจริงครับ
- ผมต่อเครื่องจากสุวรรณภูมิมาพิษณุโลกเลยครับ
- ตอนลงเครื่องต้องมาต่อรถ shuttle bus คงคลาดกันตอนนั้น
- ครูคิมมานครไทยอย่างไรครับ
ท่าน ซวง ณ ชุมแสง
- ช่างอายุไม่มาก แต่คงผ่านงานมามาก จึงมีประสบการณ์สูงครับ
- ขอบคุณที่แวะมาแลกเปลี่ยน
- สวัสดีครับอาจารย์beeman
- หาช่างนานไหมครับ
- กี่นาทีครับ
- แล้วผมจะมาอ่านใหม่ครับ
เรียน คุณน้องพิมุกต์
- เนื่องจากเราไม่ใช่คนแถวนั้น เลยต้องสอบถามหลายคนก่อนว่าจะไปหาช่างที่ไหนดี
- พอเราได้ข้อมูลแล้วก็ตกลงใจว่าจะไปหาช่างคนไหน แล้วหาคนนำทางไป (เพราะเราไม่รู้จักทาง)
- พอเราไปพบช่าง เขาก็ละงานอื่นมาทำให้เรา ก็ประมาณ ๔๐ นาทีครับ
- แล้วแวะมาอ่านบ่อยๆ นะครับ
ด.ช.พิมุกต์
ครับอาจารย์BEEMANสวัสดีครับ