*ความเดิม* หัดเรียนภาษาอังกฤษเมื่อแก่
คนแห่งความรัก-สามีแนะนำว่า มีคนแนะนำมาอีกทีว่า น่าจะหัดจาก Poets
จริงหรือนี่
เอาล่ะลองกันสักตั้งหนึ่ง
สารภาพว่ายังไม่ค่อยได้ผล จึงลองหาวิธีใหม่
<3 <3 <3 <3 <3
แม่ได้วิธีใหม่แล้วค่ะ เอาหนังสือคุณลูกมาอ่าน เป็นหนังสือที่เขาเลือกเมื่อได้รับอนุญาตให้เลือกซื้อกลับบ้าน
Diary of a Wimpy Kid
ภาษากวน ๆ สนุก ๆ แบบวัยรุ่น..เช่นนี้เข้ากับเรามากกว่า (แสดงว่าวัยอย่างเรายัง..ยังก์อยู่)
เช่น หน้าแรกก็ได้ฮาแล้วค่ะ
Tuesday
First of all, let me get something straight: this is JOURNAL, not a diary.
I know what it says on the cover, but when Mom went out to buy this thing I SPECIFICALLY told her that didn’t say “diary” on it.
….
But if she thinks I’m going to write down my “feelings” in here and whatever, she’s crazy.
So just don’t expect me to be all “Dear Diary” this and ”Dear Diary" that.
….
เห็นลูกชายอ่านไปหัวเราะไป แถมมีการนำมาแซวเราว่า
“แม่ แม่ แม่ อ่านแล้วจะได้เข้าใจน้อง...”
ไปอ่านต่อก่อนค่ะ แล้วมาเล่าต่อ เว้นที่ไว้หน่อย;p
สมัยเด็ก ๆ หลายคนคงเคยเขียนนะคะ "ไดอารี่..จ๋า..."
อิ อิ
น่ารักค่ะ เพราะภาษาสื่อความได้ มันจึง lovely KHA Hii Hii
แม่ลูกคู่นี้ น่ารักจริงๆนะคะ
พรุ่งนี้ได้เวลาไปสนุกกันที่โรงเรียน เรียนภาษาญี่ปุ่นอีกแล้วค่ะ
เดี๋ยวต้องรีบไปคัดการบ้าน แฮ่ม ยังไม่เสร็จ ค่ะ
อาการคุณพ่อเป็นอย่างไรบ้างแล้วคะ
เปล่าเลยพี่ ไม่เคยเขียนขึ้นต้นงี้อ่ะ ไม่ช่างฝันขนาดนั้น ส่วนใหญ่ขึ้นว่า เขียน ณ ห้องเล็กเก่าทึมชั้นสองริมในสุด 555 คือบรรยายสภาพและที่ตั้งของห้องตัวเองประมาณนั้นค่ะ หรือไม่ก็จะขึ้นว่า รวบยอดเหตุการณ์หนึ่งอาทิตย์ ; P คือขี้เกียจขนาดหนักค่ะ
ส่วนใหญ่ พี่แอบเห็น(แอบ..จริง ๆ) ลูกจะขึ้นต้นว่า
"ณ ดินแดนอันไกลโพ้น..."
แล้วก็กลายเป็นนิยายวิทยาศาสตร์แบบเด็ก ๆ ไปค่ะ
ไม่เป็น ไดอารีซะแล้ว
123
รวบยอดเหตุการณ์หนึ่งอาทิตย์ ; P คือขี้เกียจขนาดหนักค่ะ
Dear nong Susanna, I already copy your style ;P