ทำ KM เพื่อ LO หรือ ทำ LO เพื่อ KM ?


สงสัยว่าจะเป็นเหมือนกรณี "ไก่" กับ "ไข่" ซะแล้ว

         ผมกำลังอ่านหนังสือหลายเล่มเพื่อหาความรู้เตรียมการก่อตั้ง "สภากาแฟวิจัย" และ "สภากาแฟการเรียนการสอน"

         แม้เรื่องที่อ่านจะเน้นไปที่การก่อตั้งและการพัฒนา CoP ที่ยั่งยืน แต่ก็ไม่พ้นที่จะต้องอ่านในเรื่องเกี่ยวกับ KM และ LO ยิ่งอ่านยิ่งสับสน

         เนื่องจากเดิมผมเข้าใจว่าทำ KM เพื่อให้เกิด LO แล้วองค์กรจะได้มีผลการปฏิบัติที่ดีเลิศ

         แต่พออ่านไปมาก ๆ เข้าชักเริ่มสับสนว่าจริง ๆ แล้วอาจจะเป็นไปได้ว่าเราต้องทำ LO เพื่อเป็นรากฐานให้กับ KM

         หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งว่าสร้างองค์กรให้ป็น LO เพื่อเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้องค์กรเรียนรู้ และสร้างความรู้ให้เร็ว ทันต่อการเปลี่ยนแปลง

         สงสัยว่าจะเป็นเหมือนกรณี "ไก่" กับ "ไข่" ซะแล้ว

        วิบูลย์ วัฒนาธร

.

หมายเลขบันทึก: 26135เขียนเมื่อ 30 เมษายน 2006 15:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:49 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

     อาจารย์ครับผมเชื่อลึก ๆ ว่า KM (บุคคล)-->LO-->KM(องค์กร)-->KM (บุคคล) ครับ จากนั้นเมื่อหมุนวนไปเรื่อย ๆ ก็จะเกิดการพัฒนาทั้งคน งาน และองค์กร ไม่หยุดยั้งอย่างเป็นธรรมชาติ...ครับ

ขอบคุณครับคุณชายขอบที่ช่วยเป็นเพื่อนแสดงความคิดเห็นได้อย่างรวดเร็วมากอย่างที่ผมคาดไม่ถึงเลยครับ

ผมมีความเห็นว่าทำไปพร้อมๆกันครับ LO เหมือนที่นา KM เหมือนต้นข้าว ต้องเตรียมที่นาให้พร้อมไปกับการคัดเลือกข้าวพันธุ์ดี จึงจะทำให้เมล็ดข้าวที่ดี เมล็ดข้าวก็คือ RICE

R = Responsiveness

I  = Innovation

C = Competency

E = Efficeincy

ซึ่งก็คือเป้าหมายของการบริหารยุคใหม่นั่นเอง จะส่งผลให้ได้งานดีขึ้น คนดีขึ้น และวิธีการทำงานที่ดีขององค์การมากขึ้น

ดังที่ Snowdenกล่าวไว้ว่า  Knowledge management is a connective tissue  of a learning organization.

     ผมได้ข้อสรุปสำหรับตัวเองบางอย่างแน่ ๆ แล้วครับ การนำ KM แบบหมอพิเชษฐมาใช้ กับที่ผมดำเนินการและเป็นอยู่ เป็นคนละเรื่องแน่ หาก LO คือที่นา และต้องเตรียมก่อนปลูกข้าว เพราะแท้ที่จริงชาวนาเขาเตรียมที่นาสำหรับปลูกข้าว "เนียนเข้าไปในวิถีชีวิต" เขาเตรียมทั้งชีวิต แม้ขณะนั้นข้าวกำลังชูรวง เขาก็ได้เตรียมสำหรับการปลูกในครั้งต่อไปแล้ว เขาไม่ได้เตรียมอย่างที่เราเข้าใจว่าต้อง ขั้นที่ 1 แล้ว 2 
     สำหรับผม KM (บุคคล) เป็นเรื่องธรรมชาติที่มีอยู่ในตัวตนแล้ว (แม่ผมเลี้ยง/สอนสั่งผมมาก็ใช้ KM เป็นเครื่องมือส่วนหนึ่ง) เพียงแต่ทุกวันนี้ไม่ได้เคารพกันในส่วนนี้มากนัก ให้ความสำคัญน้อยลง ฉะนั้นต้องเริ่มต้นที่การให้เกียรติกันและกัน เชื่อว่าเขามีศักยภาพ มีความรู้ ก่อนสิครับ ไม่งั้นก็จะเป็น KM สร้างภาพ ได้เท่านั้น
     หากข้างต้นผมคิดผิด ก็แสดงว่าผมไม่รู้จัก KM ก็ไม่เป็นไร เพราะไม่รู้ก็ไม่ผิด เพียงแต่อาจจะขวางความรู้สึกไปบ้าง ซึ่งต้องกราบอภัยด้วยครับ (ยิ้ม...ยิ้ม)

KM...มนุษย์

ที่องค์กรดิฉัน..หากมองตามฐานทฤษฎียังไม่เกิดการพัฒนาเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้...แต่สำหรับตัวดิฉันเองมองว่าตนมีการจัดการความรู้ในตนเอง...ทั้งในส่วนที่เป็น Tacit Knowledge

Explicit Knowledge ....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท