ป่าพน 2


ภาพเบื้องหน้าคือแอ่งน้ำขนาดใหญ่ประมาณสระว่ายน้ำขนาดย่อม รายรอบด้วยหาดทรายขาว เคล้าเสียงแห่งป่า ซึ่งก็คือถ้อยวจีจากเหล่านก และแมลงต่าง ๆ ที่ประสานสร้อยร้อยเรียง กับสรรพสำเนียงแห่งธารน้ำไหล ถึงเดินมาไกลเป็นสิบ ๆ กิโล ก็แทบจะหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง สัจธรรมธรรมดาผุดขึ้นมาให้ห้วงคำนึงอีกครั้ง "ความลำบาก นำมาซึ่งความหอมหวานภายหลังเสมอ"

ไม่มีการเอื้อนเอ่ยใด ๆ อย่างรู้หน้าที่ พี่นะ เริ่มก่อเส้าเป็นเตาสำหรับปรุงอาหาร พี่ทิดกับพี่เอ็นช่วยกันวางกัด เพื่อดักปลาในลำธาร พี่กุ้ง พี่เจี๊ยบ และเนตร กำลังจัดแจงเครื่องปรุง อุปกรณ์ที่เตรียมมาสำหรับอาหารมื้อเย็น พี่โอ๋ พี่เจ เขม้นอยู่กับการทำเพิงพักอย่างง่าย ๆ สำหรับวางสัมภาระของทุกคนรวมกัน พี่เอก และพี่ยิ่งกำลังผูกเปลของตัวเอง ฉันยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก ด้วยว่าทุกคนมีประสบการณ์และรู้หน้าที่ในการเดินป่าอย่างดี ผิดกับฉันที่ไม่ว่าจะยืน จะเดินไปทางไหนก็ดูเกะกะ เป็นส่วนเกินไปหมด

"หนูช่วยมั้ยพี่" ฉันถามพี่ทิด ขณะกำลังวางกัดอยู่ในน้ำ

"ว่ายน้ำเป็นมั้ย" พี่ทิดตะโกน

"ได้ แต่..ไม่ค่อยเก่งพี่" ฉันตะโกนกลับไปอย่างอาย ๆ ทั้ง ๆที่อาสาจะช่วย แต่คุณสมบัติกลับไม่ครบเสียอีก

พี่ทิด คงเข้าใจในความอ่อนต่อโลกของฉัน จึงชวนไปหาผักที่จะนำมาปรุงเป็นอาหารแทน

"นี่คือต้นเต่าร้าง กินได้ เคยกินมั้ย" พี่ทิดถาม พร้อมยื่นให้ดู

"หนูยังไม่เคยได้ยินชื่อมันเลยพี่ นี่ครั้งแรก ชื่อแปลกดีเนอะ"

"แล้วนี่ก็หลาโอน กินได้เหมือนกัน ไม่เคยได้ยินอีกล่ะสิ" ฉันพยักหน้า อย่างไม่รู้จะเอาหน้าไปแทรกไว้ที่ไหน โอ้เจ้าเด็กเดียงสา เขาถึงว่าให้ออกมาจากห้องสี่เหลี่ยมที่เรียนพิเศษซะบ้าง เรียนจนหนังสือจะทับตาย ไม่เห็นรู้อะไรเลยสักอย่าง

กับข้าวมื้อแรกในป่าใหญ่ ที่ฉันไม่ค่อยคุ้นตา แต่รสชาติกลับอร่อยลิ้นดีแท้ หรือเพราะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินมาทั้งวันก็ไม่รู้ ทุกคนกินไม่ต่ำกว่าคนละสองจาน กวาดทุกอย่างหมดภายในพริบตา ข้าวจากหม้อสนาม ที่ปริมาณน้ำกับข้าวต้องหุงในสัดส่วนสามต่อหนึ่ง ไม่เหมือนกับหม้อหุงข้าวไฟฟ้าที่บ้านที่ใช้นิ้ววัดเอา แล้วก็ใส่หม้อกดปุ่มก็เสร็จ แต่นี่เราต้องคอยดูไฟจากฟืนที่หุงไม่ให้มากเกินไป น้อยเกินไป ไม่งั้นข้าวก็จะไหม้ หรือดิบ น้ำพริกมะขามที่แม่อุตส่าห์ทำมาให้ กลัวว่าลูกไร้เดียงสาจะไม่มีอะไรกินอยู่ในป่า ครานี้ กลายเป็นอาหารโปรดของทุกคน ครั้งแรกคิดว่าจะกินเก็บไว้กินจนถึงวันสุดท้าย แต่แค่มื้อแรกก็หมดเกลี้ยงกริบไปแล้ว มาม่าต้ม ที่ปกติเรากินเป็นอาหารหลักง่าย ๆ ยามงบประมาณขาดแคลน หรือยามเร่งรีบ ครานี้ กลายมาเป็นหนึ่งในกับข้าว ที่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันกินมาม่ากับข้าว!! และเมนูสุดท้ายก็คือปลาจากลำธาร ที่พี่เจี๊ยบเอามาทอดซะหอมกรุ่ม กรอบ ชวนกิน


เมื่ออยู่กับป่า ทุกอย่างก็ต้องพึ่งพาป่า รับจากป่า ใช้ทุกสิ่งทุกอย่างจากป่า ฉะนั้นเราจึงทำลายป่าให้น้อยที่สุด เพราะผู้มีพระคุณของเราจะมีทรัพยากรให้เราได้ใช้ ไม่เฉพาะเวลาเพียงสัปดาห์ที่เราผจญภัยกันอยู่ที่นี่ แต่เผื่อไว้ในภายหน้า ลูกหลานของเราจะได้มีโอกาสสัมผัสว่า ป่า มีความสำคัญแค่ไหน และสอนอะไรกับคนรุ่นหลัง และรุ่นต่อไปบ้าง

เราล้างจานด้วยทรายริมลำธาร ซึ่งความสะอาดไม่ได้ต่างจากการใช้สารเคมีเหมือนที่บ้าน เราใช้ท่อนไม้สำหรับซักล้างเสื้อผ้า ยืม เท้า ยืมมือมาช่วยอีกแรง เหนื่อย แต่ก็ได้ออกกำลังทางหนึ่ง คืนนี้จึงหลับสบายจากความเพลียกายมาทั้งวัน บทเพลงจากคอร์ดกีตาร์ของพี่ยิ่งแว่วมากล่อมเราคืนนี้ ฉันจะตื่นขึ้นมาสวัสดีเธออีกทีพรุ่งนี้เช้า..

เบื้องบนเป็นแผ่นฟ้ากว้าง เบื้องล่างเป็นธารน้ำใส
ตัวฉันมีกาน้ำหนึ่งใบ กับกองฟืน ที่วางอยู่เรียงราย
อยู่มาปีแล้วปีเล่า วันเก่าเก่าได้ผ่านเลยไป
คืบคลานเข้าสู่วันใหม่ ลมหายใจยังอบอุ่นในทรวง
ฉันไม่เคยคิดอื่นใด ที่ยาวไกลเกินสุดขอบฟ้า
เราพบกัน ใต้ดวงตะวันรอน ยามเธอนอน ฉันจะกล่อมนิทรา
เราพบกัน แล้วพากันก้าวไป ไปเก็บไม้ เก็บฟืนมาต้มกา
น้ำเดือดเรามาแบ่งกันกิน ฟืนหมดเราช่วยกันเก็บฟืน
เบื้องบนเป็นแผ่นฟ้ากว้าง เบื้องล่างเป็นธารน้ำใส
ตัวฉันมีกาน้ำหนึ่งใบ กับกองฟืน ที่วางอยู่เรียงราย
บางคนว่าฉันเป็นคนบ้า บางคนว่าสติไม่ค่อยดี
บางคนว่าฉันเป็นเช่นนี้ เพราะผิดหวัง บางสิ่งที่ตั้งใจ
ฉันไม่เคยคิดอื่นใด ที่ยาวไกลเกินสุดขอบฟ้า
เราพบกัน ใต้ดวงตะวันรอน ยามเธอนอน ฉันจะกล่อมนิทรา
เราพบกันแล้วพากันก้าวไป ไป เก็บไม้ เก็บฟืนมาต้มกา
น้ำเดือดเรามาแบ่งกันกิน ฟืนหมดเราช่วยกันเก็บฟืน
พอน้ำเดือดเรามาแบ่งกันกิน ฟืนหมดเราช่วยกันเก็บฟืน

เพราะเสียงปลุกของพี่เจ หรือเพราะสายโด่งแล้วก็ไม่แน่ ฉันจึงเป็นคนสุดท้ายที่ตื่นขึ้นมารับอรุณในไพรป่า น้ำร้อนจากหม้อต้ม และเครื่องดื่มยามเช้า พร้อมรอรับอยู่แล้ว

"เนตรไปอาบน้ำที่น้ำตกใกล้ ๆ นี่เอง จะไปไหมล่ะ เดินไปทางโน้น นิดเดียวก็ถึง" พี่เจถาม
"เกตไปก็ดี จะได้ไปเป็นเพื่อนกัน เนตรเดินไปคนเดียว พี่ไม่อยากให้ไปคนเดียวในที่ที่เราไม่รู้จัก แม้จะเป็นในป่า ที่ดูเหมือนว่าไม่มีอันตราย" พี่ยิ่งเสริม
"ค่ะ เดี๋ยวเกตตามเนตรไป แล้วพี่คนอื่นล่ะ" ฉันเริ่มสำรวจถึงคนอื่น ๆ ที่ตอนนี้ น่าจะหายไปราว 4-5 คน

"พี่นะ พี่เจี๊ยบ พี่เอก ไปเดินเล่นแถวนี้ ที่เหลือก็ดักปลา สำหรับอีกมื้อ" พี่เจบอก
"เดี๋ยวสาย ๆ บ่าย ๆ เราจะออกเดินกันต่อ วันนี้เห็นพี่ทิดว่าจะพาไปเที่ยวน้ำตก เก็บของให้หมด อย่าลืมอะไรทิ้งไว้ล่ะ เดี๋ยวพี่ให้เดินกลับมาเอาคนเดียวนะ" พี่ยิ่งเย้า ฉันเดินไล่ลำธารขึ้นไป ก็เจอ น้ำตกเล็ก ๆ ที่เนตรกำลังนอนแช่อย่างสบายใจ
"อ้าว เกต มาดิ สบายมากเลย ไม่เคยได้สระผมในน้ำตก ไม่ต้องมีคนมาล้างให้เลยนะ น้ำนี่แหละไหลผ่านไปผมเราไป รู้สึกเหมือนในมิวสิควิดีโอ ยังไงก็ไม่รู้" เนตรทัก

"มิวสิควิดีโอ กลางป่าใหญ่ นิยายน้ำเน่ารึเปล่าแก"
"อาบน้ำเสร็จแล้ว ไปชวนพี่เอกถ่ายรูปดีกว่า พี่เอกเอากล้องถ่ายรูปมาด้วย" เนตรชวน
"อืม ดีเหมือนกัน ไม่มีใครเอากล้องมากันเลยนี่"



"วันนี้เราเดินกันไม่ไกลหรอก ชั่วโมงนึงก็น่าจะได้ เพราะเมื่อวานเหนื่อยกันมามากแล้ว" พรานหนุ่มเริ่มนำขบวนทัพ

จากที่พักคืนแรก มาถึงที่พักคืนที่สองอยู่ไม่ไกลกันมากนะ แต่ที่น่ากลัวก็คือ..

"พี่ นี่มันทางสามแพ่งนะ ถึงจะเป็นทางน้ำก็เถอะ" พี่เจทัก
"ไม่เป็นไรหรอก ทุกครั้งเราก็บอกเจ้าที่เจ้าทางกันก่อนอยู่แล้ว" พี่ทิดอธิบาย

ใช่ หนึ่งพิธีกรรมทุกครั้งก่อนที่เราจะกินอาหาร จะต้องจัดอาหารเป็นสำรับเล็ก ๆ วางไว้ตรงโคนไม้ใหญ่เพื่อเซ่นไหว้เจ้าที่เจ้าทางก่อนเสมอ และหน้าที่นั้นก็จะผลัดไป ระหว่างพี่ยิ่ง พี่นะ หรือพี่เจี๊ยบ อย่างน้อยก็เป็นการเตือนสติว่าเราอยู่ที่นี่ ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ แต่อย่าให้มากจนเกินไป จนฟุ่มเฟือยและเป็นการทำลาย

"พี่เจี๊ยบ เมนส์ไม่เห็นมาเลย" ฉันบอกพี่เจี๊ยบอย่างงง ๆ ทั้ง ๆที่เพิ่งขอยืมผ้าอนามัยจากพี่เจี๊ยบเมื่อสองสามชั่วโมงที่แล้ว

พี่เจี๊ยบหันมายิ้มอย่างมีเลศนัย "โดนเข้าแล้วน้องเรา ก็ทากน่ะสิ รอยเลือดที่เกตคิดว่าเป็นประจำเดือน จริงๆแล้วก็คือรอยแผยจากทาก ที่มันอิ่มแล้วก็หลุดไปแล้ว ไม่รู้สึกอะไรเลยใช่มั้ยล่ะ โดนทากเข้าแล้วน้องเรา"

"หา จริงเหรอพี่ นี่ดีนะที่หนูไม่เห็นตัวมัน ไม่งั้นจะจับกินซะแน่ เล่นเข้ามากัดข้างในกันเลยนะ"

(อ่านต่อฉบับหน้า)

หมายเลขบันทึก: 260958เขียนเมื่อ 13 พฤษภาคม 2009 21:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 กันยายน 2020 11:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ความลำบาก นำมาซึ่งความหอมหวานภายหลังเสมอ สนับสนุนค่ะ

สวัสดีครับ...ลุยอย่างนี้วันข้างหน้าไม้ลำบากแน่นอนครับ สู้ๆๆ นะครับ

ขอบคุณค่ะ คุณเรวัช สำลีอ่อน

ขอบคุณความทรงจำดีๆครับน้องเกด หวังว่าคงสบายดีนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท