เจ้าชายสิทธัตถะประสูติแล้วประทับยืนได้จริงหรือ


พระพุทธเจ้าประสูติแล้วประทับยืนได้ แถมยังย่างพระบาทได้ ๗ ก้าวจริงไหม  เหลือเชื่อเกินไปไหม เป็นไปได้หรือ เรื่องนี้เด็ก ๆ ถามกันจริง  ผู้ใหญ่ก็สงสัยจัง เป็นเรื่องที่ไม่น่าสงสัย หรือนำมาคิดอะไรมากมาย

     จะเชื่อหรือไม่เชื่อ จะจริงหรือไม่ก็ไม่มีผลต่อการปฏิบัติหรือการทำความดี และพุทธเจ้าเองก็ไม่ได้ประกาศพระองค์เองเป็นพระพุทธเจ้าเพราะการที่พระองค์ทรงประทับยืนหรือย่างพระบาทได้ ๗ ก้าว ในขณะที่ประสูติ  แต่พระองค์ทรงตรัสรู้ได้ด้วยพระกำลังแห่งพระบารมี ๑๐ ประการ  ที่พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญมา  เคยอ่านเจอในอรรถกถาว่าการที่พระโพธิสัตว์ประทับยืนได้ในขณะที่ประสูติเป็นเรื่องธรรมดาของบุคคลที่จะเป็นพระพุทธเจ้า หมายความว่าผู้ที่จะมาเป็นประพุทธเจ้าก็ต้องเป็นแบบนี้ ก็ต้องยืนได้แบบนี้ (แต่ไม่ได้หมายความว่า ถ้าใครเกิดมาแล้วยืนได้ ต้องเป็นพระพุทธเจ้าทุกคนนะ)  เป็นเรื่องธรรมดาของพระโพธิสัตว์  อย่างเช่น นกบินได้มันก็เป็นธรรมดาของสัตว์มีปีก (แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสัตว์ที่มีปีกทุกตัวต้องบินได้)  ผู้ที่เกิดมาเป็นพระพุทธเจ้าก็เช่นกัน  มีบางคนเล่าให้ฟังว่า เขาเป็นหมอมาตลอดชีวิต ไม่เคยเห็นใครเกิดมาแล้วยืนได้ ทั้งยังไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อนว่าใครที่ไหนคลอดมาแล้วยืนได้    ก็ถูกของหมอ  แต่ขอถามคุณหมอต่อว่า คนที่เกิดมานั่นแล้วใครเล่าได้เป็นพระพุทธเจ้าบ้าง ไม่มี เพราะเขาเหล่านั้นไม่ใช่พระโพธิสัตว์ หรือผู้ที่เกิดมาเป็นพระพุทธเจ้า  อีกอย่าง  ในอจินไตย ๔ คือสิ่งที่ใคร ๆ ไม่ควรคิด ไม่ควรหมกมุ่นมากนัก  แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้คิด ซึ่งเท่ากับเป็นการปิดกั้นไม่ให้ใช้ปัญญา ความจริงแล้วพระพุทธเจ้าท่านไม่ให้คิดด้วยหลักของตรรกศาสตร์ เนื่องจากการคิดแบบนี้เป็นการคิดแบบอนุมาน คือ คาดคะเน ซึ่งอาจจะนำไปสู่ความผิดพลาดได้ง่าย เพราะอาศัยพื้นฐานความรู้ที่เกิดจากอายตนะภายนอกที่เป็นประสาทสัมผัส คือ ตาเห็น หูได้ยิน เป็นต้น

อจินไตย ๔ คือ
๑. วิสัยของพระพุทธเจ้า  (พุทธวิสัย)
๒. ความคิดเรื่องการสร้างโลก (โลกจินตา)

๒. วิสัยของผู้มีฤทธิ์ (ฌานวิสัย)
๓. กฏแห่งกรรม (กัมมวิบาก)


    การที่เจ้าชายสิทธัตถะประสูติแล้วประทับยืนได้ อาจจะยังจัดเข้าในพุทธวิสัยไม่ได้ทีเดียว เพราะยังไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้า แต่ก็เป็นเพราะผลแห่งกรรมดี (กัมมวิบาก) ที่พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญมา ซึ่งจะเกิดมีได้เฉพาะพระโพธิสัตว์ ในปัจฉิมชาติเท่านั้น สิ่งที่ควรเชื่อและพระพุทธเจ้าก็ทรงแสดงพร้อมที่จะให้พิสูจน์ผ่านหลักธรรมที่พระองค์ทรงตรัสไว้ ก็คือ ตถาคตโพธิสัทธา เชื่อในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า คือเชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้จริง เป็นผู้ประกอบด้วยพระปัญญาธิคุณ พระวิสุทธิคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ  เป็นสิ่งที่ท้าทาย และพร้อมที่จะให้เราพิสูจน์ทุกเมื่อ  จงพิสูจน์โดยลงมือปฏิบัติทุก ๆคน.

ต้นสาละ (รัง) :: ต้นไม้ประจำวันประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ(พระพุทธเจ้า)

ที่มา :: www.kroophra.net

หมายเลขบันทึก: 259418เขียนเมื่อ 5 พฤษภาคม 2009 15:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม 2012 17:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

1. พระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลกเมื่อเจ้าชายสิทธัตถะมีอายุ 35 พรรษา ท่านจะเดินกี่ก้าวก้ได้ แต่ทีเดินเจ้ดก้าวหมายถึง เมื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว เผแผ่พระธรรมไป 7 แคว้นนี่เป็นธรรมาธิษฐาน ส่วนที่เดินได้ 7 ก้าวจริงๆเมื่อประสูติ เป็นบุคลาธิษฐาน ก้เชื่อได้ว่าเป็นไปได้ เพราะอภินิหารน่าจะมีจริง ในพระไตรปิฏก ในพระวินัยก็มีข้อห้ามไม่ให้พระสงฆ์แสดงอภินิหาร หรือในพระไตรปิฏกก็มีหลายตอนที่ว่าด้วยอภินิหาร ฉะนั้นก้เชื่อได้ทั้งที่เหตุผลตามที่คุณว่ามาค่ะ

2. ขอบคุณค่ะที่เขียนมาให้อ่านกัน นับว่ามีประโยชน์มากทีเดียว

ยอดเยี่ยมครับคุณครู นับถือๆ +^_^+

อยากรู้ว่า7ก้าวความหมายมันคืออะไรหรอครับ

ความหมายของ 7 ก้าว ที่เจ้าชายสิทธัตถะ พระราชดำเนินตอนประสูติ มีความหมายอธิบายไว้ 2 นัยครับ ( ดังรายละเอียดได้เขียนไว้แล้วใน หัวข้อ " เหตุการ์ตอนประสูติ" ) ย้อนกลับไปอ่านได้ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท