รุ่งเช้าวันหนึ่งที่วัดเเห่งหนึ่ง พระท่านก็ออกไปบิณฑบาตเป็นกิจวัตรทุกวัน แต่วันนี้มีกบตัวหนึ่งออกมาจากบ่อน้ำ เห็นพระกำลังออกบิณฑบาตพอดี ก็เลยคิดว่า" เป็นพระนี่ก็ดีนะ ไม่ต้องทำไร ถือบาตรเดินออกไปก็ได้ข้าวกลับมาฉันเเล้ว" ก็เลยอยากจะเป็นพระ พระกลับมาเเล้วฉันเสร็จเเล้ว เเล้วก็เอาเศษอาหารที่เหลือไปให้ไก่กิน กบเห็นดังนั้นก็คิดว่า " เป็นนี่ก็ดีเหมือนกันนะ ไม่ต้องหากินมีคนเอาข้าวมาให้กิน " ก็เลยอยากจะเป็นไก่ ขณะนั้นสุนัขตัวหนึ่งก็วิ่งมาไล่ไก่ที่กำลังจิกกินอาหารอยู่นั้น สุนัขเห็นอย่างนั้นเเล้ว ก็คิดว่า " เป็นสุนัขนี่ก็ดีเช่นกันนะ ขนานไก่ยังกลัวเลย " ก็เลยอยากจะเป็นสุนัข ทันใดนั้นเองเด็กหนุ่มคนหนึ่งก็วิ่งมาไล่สุนัขนั้นไป เพราะเหตุที่มาเเย่งไก่กิน สุนัขเห็นดังนั้นเเล้วก็คิดขึ้นว่า "เป็นเด็กดีกว่า เเม้แต่สุนัขยังกลัวเลย " กบจึงอยากจะเป็นเด็กหนุ่มคนนั้น พอเด็กหนุ่มคนนั้นไล่สุนัขเเล้ว ก็ไปนั่งเล่นที่เปรเเห่งหนึ่ง นั่ง ๆ นอน ๆ ไป ก็มีเเมลงวันมาตอมขาเขา เขาไล่ตีไล่ตบยังงัยก็ไม่ได้ จึงลุกหนีไป กบเห็นอย่างนั้นเเล้วก็คิดว่า "เป็นเเมลงวันดีกว่า แม้แต่เด็กที่สุนัขยังกลัว ยังสู้เเมลงวันไม่ได้เลย" ทีนี้ก็อยากเป็นเเมลงวันอีก ในขณะที่กำคิดอยู่นั่นเอง เเมลงวันก็บินผ่านมาพอดี ลิ้นอันยาวก็ตะหวัดเเมลงวันเข้าปากไปตามสัญชาตญาณของมัน ก็คิดขึ้นได้ว่า "เเมลงวันยังสู้เราไม่ได้เลย ยังต้องเป็นอาหารของเรา" เเล้วก็กลับมาดูตัวเองเเล้วคิดว่า "เป็นตัวเรานี่เเหละดีที่สุดเเล้ว"
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.........
เคยชอบเรื่องนี้มากตอนเด็ก ๆ เล่ากับเพื่อแข่งกันเป็นช่วง ๆ สนุกแบบเด็ก ๆ พอโตขึ้นมาเห็นคติที่แฝงอยู่ ใช้เตือนใจตัวเอง ให้พอเพียง และเพียงพอ