โครงการ "เตรียมสู้สู่การเป็นแม่" เฉลิมพระเกียรติ มหามงคล
เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550
ปีพ.ศ.2550
1. หลักการและเหตุผล
การคลอดแม้เป็นกระบวนการทางด้านสรีรวิทยาตามธรรมชาติ แต่การที่หญิงตั้งครรภ์มีความเจ็บปวดในระยะคลอดบุตรก่อให้เกิดความไม่สุขสบายทั้งด้านร่างกายและจิตใจ อยู่ในภาวะเครียด มีความวิตกกังวลและกลัว ประกอบกับการมาอยู่ในโรงพยาบาลอันเป็นสถานที่และสิ่งแวดล้อมใหม่ รวมทั้งยังถูกจำกัดการติดต่อกับสมาชิกในครอบครัว และที่สำคัญคือหญิงตั้งครรภ์ได้รับความเจ็บปวดจากการเจ็บครรภ์ การได้ยินเสียงร้องจากหญิงตั้งครรภ์คนอื่น ๆ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ก่อให้เกิดความไม่สุขสบาย ความเครียด และความกลัวแก่หญิงตั้งครรภ์ซึ่งมีผลกระทบทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
การส่งเสริมมาตรฐานการดูแลสุขภาพมารดาและทารกให้ดีขึ้น สามารถทำได้โดยการเตรียมหญิงตั้งครรภ์เพื่อการคลอด (Childbirth preparation) โดยเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการส่งเสริมการคลอดซึ่งนิโคล (Nichols, 2000) กล่าวว่าเป็นการเตรียมผู้ที่จะเป็นบิดามารดาให้เกิดการเรียนรู้เกี่ยวกับสรีรร่างกายและอารมณ์ในระยะตั้งครรภ์ คลอด และหลังคลอด ฝึกทักษะการเผชิญความเจ็บปวดและวิธีการสนับสนุนช่วยเหลือในระยะคลอด มีส่วนร่วมและสามารถตัดสินใจในการดูแลสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์และทารก เป้าหมายของการเตรียมหญิงตั้งครรภ์เพื่อการคลอด คือ การให้ผู้รับบริการมีทัศนคติที่ดีต่อการคลอด ลดความกลัว ความวิตกกังวล และความเจ็บปวดในระยะคลอด มีความสามารถในการคลอดตามธรรมชาติ ให้สามีหรือผู้ใกล้ชิดมีส่วนร่วม โดยทราบวิธีสนับสนุนช่วยเหลือในระยะคลอด เพื่อนำไปสู่การคลอดที่มีคุณภาพ เกิดประสบการณ์การคลอดที่ดี ตลอดจนส่งเสริมความสามารถของสามีและภรรยาในการดูแลหลังคลอด
โดยทั่วไปผู้มีบทบาทสำคัญที่สุดในการเตรียมหญิงตั้งครรภ์เพื่อการคลอด คือ พยาบาลโดยทำหน้าที่เป็นผู้ให้ความรู้เกี่ยวกับการคลอด สนับสนุน สอนแนะนำความรู้แก่ผู้จะเป็นบิดามารดาเพื่อให้มีความพร้อมทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม และสามารถเผชิญความเครียดต่าง ๆจากการคลอดดังนั้นบทบาทของพยาบาล ควรช่วยลดความวิตกกังวล ความกลัว และความเจ็บปวดในระหว่างการคลอดบุตร โดยการเตรียมหญิงมีครรภ์ตั้งแต่ในระยะตั้งครรภ์ ซึ่งวิธีที่ปฏิบัติกันโดยทั่วไป ในปัจจุบันที่โรงพยาบาลบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี คือการสอนหรือให้คำแนะนำ แต่อย่างไรก็ตามเนื้อหาที่สอนส่วนใหญ่จะเน้นในเรื่องการปฏิบัติตัวขณะตั้งครรภ์ เกี่ยวกับการรับประทานอาหาร การพักผ่อน และอื่น ๆแต่ไม่ได้จัดเตรียมหญิงมีครรภ์เพื่อการคลอดกันอย่างจริงจัง แต่อย่างใดซึ่งการที่หญิงมีครรภ์มีความรู้เกี่ยวกับกระบวนการตั้งครรภ์และการคลอดอาจจะช่วยลดความกลัวและความวิตกกังวลต่อการคลอดได้ในระดับหนึ่ง แต่การให้ความรู้เพียงอย่างเดียวโดยไม่มีการฝึกทักษะที่จำเป็นในการเผชิญกับความเจ็บครรภ์ได้แก่การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การลูบหน้าท้อง การเพ่งจุดสนใจและเทคนิคการหายใจในระยะต่างๆของการคลอด จึงน่าจะเป็นวิธีทำให้ความเครียดลดลงมีผลให้การทนต่อความเจ็บปวดเพิ่มมากขึ้น ผลของโครงการนี้คาดว่าจะเป็นประโยชน์ได้หลักสูตรเตรียมหญิงตั้งครรภ์เพื่อเผชิญกับภาวะเจ็บครรภ์และการคลอด ซึ่งเป็นแนวคิดหนึ่งในการส่งเสริมการดูแลตนเองตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขและนำไปใช้ในการดูแลหญิงตั้งครรภ์ในระยะคลอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. วัตถุประสงค์ของโครงการ
เพื่อเตรียมหญิงตั้งครรภ์เพื่อการคลอดให้มีความพร้อมสามารถเผชิญต่อความเจ็บปวดในระยะคลอดได้ดี
3. หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการ
แผนกฝากครรภ์ งานผู้ป่วยนอก กลุ่มการพยาบาลโรงพยาบาลบ้านหมี่
4. กลุ่มเป้าหมาย
หญิงตั้งครรภ์ทุกรายที่มีคุณสมบัติ ดังนี้ อายุครรภ์ 32 -33 สัปดาห์เมื่อเริ่มเข้าร่วมโครงการที่มา ฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ระหว่างเดือน มิถุนายน 2550 - สิงหาคม 2550 จำนวน 60 คน ตามคุณสมบัติที่กำหนดดังนี้
1. หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 32 -33 สัปดาห์เมื่อเริ่มเข้าร่วมโครงการ
2. ตั้งครรภ์ปกติไม่มีภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์
3. ทารกอยู่ในท่าศีรษะเป็นส่วนนำ
4. สถานภาพสมรสคู่
5. การศึกษาไม่ต่ำกว่าชั้นประถมปีที่ 4
6. ยินดีเข้าร่วมโครงการและให้ความร่วมมือเข้ากลุ่มเพื่อการเตรียมสู้สู่การเป็นแม่ 5 ครั้ง
5. สถานที่ดำเนินการ
แผนกฝากครรภ์ งานผู้ป่วยนอก กลุ่มการพยาบาล
6. ระยะเวลาดำเนินการ
ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2550 - สิงหาคม 2550
7. วิธีดำเนินโครงการ
ขั้นเตรียมการ
1. ขออนุมัติโครงการตามขั้นตอน
2. ประชาสัมพันธ์ โครงการ โดยจัดบอร์ด ออกเสียงตามสายในหน่วยงาน และวิทยุกระจายเสียง
คลื่นชุมชนให้หญิงตั้งครรภ์เข้าร่วมโครงการ
3. เตรียมเครื่องมือ ประกอบด้วย
3.1 แผนการสอนที่ใช้กับหญิงตั้งครรภ์เพื่อการคลอดจัดทำขึ้นโดยศึกษา รวบรวมเนื้อหาจาก
ตำราและเอกสารต่าง ๆที่เกี่ยวข้อง และคัดเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมสำหรับการสอนกลุ่มตัวอย่างที่เลือกมาทำการศึกษา ซึ่งเนื้อหาประกอบด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับการคลอด กระบวนการคลอด สาเหตุของความเจ็บปวดในระยะคลอด อาการนำเข้าสู่ระยะคลอด และเทคนิคการควบคุมความเจ็บปวด ได้แก่ การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การเพ่งจุดสนใจ การลูบหน้าท้องและเทคนิคการหายใจในระยะต่าง ๆของการคลอด
3.2 คู่มือการเตรียมตัวเพื่อการคลอด จัดทำโดยศึกษา รวบรวมเนื้อหาจากตำราและเอกสารต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้อง และคัดเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมสำหรับการสอน
ขั้นดำเนินการ
1. รับสมัครผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการที่มีคุณสมบัติที่กำหนด อายุครรภ์ 32 -33 สัปดาห์เมื่อเริ่มเข้า
ร่วมโครงการฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ในวัน จันทร์ อังคาร และพฤหัส ระหว่างเวลา 08.30 - 12.00 น.ระหว่างเดือน มิถุนายน 2550 - สิงหาคม 2550 จำนวน 60 คน ได้รับการเตรียมตัวเพื่อการคลอด ครั้งละ 4-7 คน
ตามคุณสมบัติที่กำหนดดังนี้ 1) ตั้งครรภ์ปกติไม่มีภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ 2) ทารกอยู่ในท่า
ศีรษะเป็นส่วนนำ 3) สถานภาพสมรสคู่ 4) การศึกษาไม่ต่ำกว่าชั้นประถมปีที่ 4 และ 5) ยินดีเข้าร่วมโครงการให้ความร่วมมือเข้ากลุ่มเพื่อการเตรียมสู้สู่การเป็นแม่ ครบ 5 ครั้ง ดังนี้
ครั้งที่ 1 เมื่ออายุครรภ์ 32-33 สัปดาห์ เนื้อหาที่สอนประกอบด้วย ความสำคัญและประโยชน์ของ
การเตรียมเพื่อการคลอด การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายและจิตใจ ในไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ ความไม่สุขสบายต่าง ๆ และวิธีแก้ไขอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นการอยู่ในท่าทางที่ถูกต้อง การบริหารร่างกาย และการผ่อนคลายกล้ามเนื้อต่างๆของร่างกายตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงศีรษะ
ครั้งที่ 2 เมื่ออายุครรภ์ 34 - 35 สัปดาห์ เนื้อหาที่สอนประกอบด้วย กระบวนการคลอดสาเหตุของ
การเจ็บคลอด เทคนิคการหายใจแบบช้า การลูบหน้าท้อง การเพ่งจุดสนใจ การผ่อนคลายกล้ามเนื้อเป็นกลุ่ม โดยแบ่งเป็นกล้ามเนื้อแขนขวา ขาขวา แขนซ้าย และขาซ้าย และทบทวนเทคนิคการบริหารร่างกาย และการผ่อนคลายกล้ามเนื้อต่าง ๆของร่างกาย
ครั้งที่ 3 เมื่ออายุครรภ์ 36 สัปดาห์ เนื้อหาที่สอนประกอบด้วยการใช้ยา และสูติศาสตร์หัตถการ
ต่าง ๆในระยะคลอด เทคนิคการหายใจแบบตื้น เร็วและเบา และทบทวนเทคนิคการบริหารร่างกาย การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การลูบหน้าท้อง การเพ่งจุดสนใจและการหายใจแบบช้า
ครั้งที่ 4 เมื่ออายุครรภ์ 37 สัปดาห์ เนื้อหาที่สอนประกอบด้วย การเตรียมตัวมาโรงพยาบาลเพื่อ
การคลอด เทคนิคการหายใจแบบตื้น เร็ว เบา และเป่าออก และการหายใจเพื่อเบ่งคลอด และทบทวนเทคนิคการบริหารร่างกาย การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การลูบหน้าท้อง การเพ่งจุดสนใจ และเทคนิคการหายใจแบบช้า แบบตื้น เร็ว และเบา
ครั้งที่ 5 เมื่ออายุครรภ์ 38 สัปดาห์ ทบทวนเนื้อหาในการสอนในครั้งที่ 1 ถึง ครั้งที่ 4 และทบทวน
เทคนิคการบริหารร่างกาย การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การหายใจ การลูบหน้าท้อง การเพ่งจุดสนใจ และการพาไปเยี่ยมชมห้องคลอด
สอนหญิงมีครรภ์ตามขั้นตอนที่ 1 ถึง 5 จน ครบ 60 คน และมีการประเมินผลการสอนทุกครั้งเพื่อนำมาปรับปรุงพัฒนาแผนการสอน
1. ประเมินผลการสอนเกี่ยวกับความพร้อมของการเตรียมตัวเพื่อการคลอด
2. หญิงตั้งครรภ์ที่ผ่านการอบรมมีประสบการณ์การคลอดที่ดีมีความพร้อมเพื่อการคลอดสามารถ
เผชิญเผชิญต่อความเจ็บปวดในระยะคลอดได้ดีสามารถลดอุบัติการณ์ การผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องที่ไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ ซึ่งส่งผลให้ระยะเวลาในการพักฟื้นในระยะหลังคลอดลดลง
8. งบประมาณ
เงินบำรุงโรงพยาบาล จำนวน 5,200 บาท (ห้าพันสองร้อยบาทถ้วน)
1.1 หมวดค่าใช้จ่าย
1.1.1 ค่าอาหารว่าง ผู้เข้ารับการอบรม
10 บาท/คน/มื้อ (10 บาท X 60 คน X 5 มื้อ) จำนวนเงิน 3,000 บาท
1.2 หมวดค่าวัสดุ
1.2.1 ค่าเอกสารประกอบการอบรม (คู่มือการเตรียมตัวเพื่อการคลอด)
60 คน X 20 บาท จำนวนเงิน 1,200 บาท
1.2.2 วัสดุ-อุปกรณ์ จำนวนเงิน 1,000 บาท
รวมค่าใช้จ่ายถัวจ่ายได้ทุกรายการ เป็นเงินทั้งสิ้น 5,200 บาท (ห้าพันสองร้อยบาทถ้วน)
9. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
9.1 ผู้คลอดที่ได้รับการเตรียมความพร้อมระยะตั้งครรภ์จะส่งผลให้ผู้คลอดมีความเข้าใจต่อกระบวนการคลอดตามธรรมชาติ มีการรับรู้ที่ดีต่อการเปลี่ยนแปลงเมื่อเข้าสู่ระยะคลอด อันจะนำไปสู่การเผชิญความเจ็บปวดในระยะคลอดได้เป็นอย่างดี
9.2 การเตรียมหญิงตั้งครรภ์เพื่อการคลอดผู้คลอดสามารถเผชิญเผชิญต่อความเจ็บปวดในระยะคลอดได้ดีสามารถลดอุบัติการณ์ การผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องที่ไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ ซึ่งส่งผลให้ระยะเวลาในการพักฟื้นในระยะหลังคลอดลดลง
9.3 การเตรียมหญิงตั้งครรภ์เพื่อการคลอดผู้คลอดมีความพึงพอใจต่อการคลอดเพิ่มขึ้นตลอดจนเกิดสัมพันธภาพที่ดีระหว่างผู้คลอด สามี ญาติ และเจ้าหน้าที่
9.4 ได้หลักสูตรเตรียมหญิงตั้งครรภ์เพื่อการคลอดและเกิดการพัฒนาความรู้ ศักยภาพของเจ้าหน้าที่ในการพัฒนาองค์ความรู้และคุณภาพบริการให้สูงขึ้น
ผู้จัดทำโครงการ ผู้เสนอโครงการ
(นางสาวอัจฉรา บุญหนุน) (นางจันทิมา สืบสาย)
พยาบาลวิชาชีพ 7 หัวหน้างานผู้ป่วยนอก
ผู้เสนอโครงการ ผู้เห็นชอบโครงการ
(นางกุลวยา อุไรพันธุ์) (นายชาญ ตันติวราภรณ์)
หัวหน้าพยาบาล นายแพทย์ 9 ด้านเวชกรรมป้องกัน
รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านหมี่
ผู้อนุมัติโครงการ
(นางประนอม คำเที่ยง)
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลพบุรี
ไม่มีความเห็น