บ้านพักของคนไทยในยุคนี้ ต่างจากในยุคก่อนมากทีเดียว หรือบ้านพักของคนในเมืองต่างกับคนในชนบทอย่างมาก สิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็นได้ชัดเจน คือ โอ่งใส่น้ำนี่เอง
บ้านพักของคนในยุคปัจจุบัน ยุคที่ต้องแก่งแย่งแข่งขัน ทำงานหนัก ซื้อบ้านมีพื้นที่ที่จำกัด เพราะที่ดินในตัวเมือง มีราคาแพง บ้านเป็นที่พักผ่อนหลับนอนในช่วงที่ไม่ได้ทำงาน ทุกสิ่งทุกอย่างรีบเร่งไปหมด เช่นเดียวกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ การใช้น้ำในบ้าน สามารถวางระบบท่อประปา ต่อก๊อกน้ำเข้าไปในห้องน้ำ ห้องครัว มีอ่างใส่น้ำเล็กๆ กินพื้นที่ไม่มากนัก
ในวันที่อากาศร้อนจัด ปลายเดือนเมษายน 2552 เมื่อน้ำประปาไม่ไหล บ้านหลังหนึ่งเหลือน้ำในอ่างเพียงครึ่งค่อนถัง ช่วงเย็น เมื่อลูกชายกลับจากเล่นกีฬา .... ร้อน เหนียวตัวอย่างมาก หลังจากพักเหนื่อยพอสมควร ก็ตักน้ำอาบ จนน้ำเกือบจะหมดถัง คนในบ้านกลับเข้ามาบ้าน เห็นน้ำเหลือน้อย แล้วน้ำไม่ไหล เลยต้องไปซื้อน้ำขวดจาก เซเว่น อีเลฟเว่น กว่า 20 ขวด ขวดละ 12 บาท
ต้องซื้อน้ำดื่ม มา อาบน้ำซะแล้ว
บ้านไทยในชนบท ในต่างจังหวัด จะมีโอ่งใส่น้ำไว้ น้ำไม่ไหล ก็ตักน้ำที่เก็บไว้ในโอ่งมาใช้ได้ ในวันที่น้ำไหล เจ้าของบ้านก็มักจะรองน้ำใส่โอ่งไว้จนเต็ม เพื่อเก็บไว้ใช้ในวันที่ขาดแคลนน้ำ หรือน้ำไม่ไหล
คนทำงานใน พ.ศ.นี้ ไม่ได้คิดประเด็นเหล่านี้หรือ
1. ความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอน อะไรก็เกิดขึ้นได้
2. โลกร้อน น้ำขาดแคลน ป่าลด สัญญาณจากธรรมชาติ มีการเตรียมการไว้แล้วหรือยัง
3. อย่าใช้ชีวิตด้วยความประมาท แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆในชีวิตอย่าง น้ำในโอ่ง....
..... หากเรื่องเล็กๆในชีวิตยังมองข้าม เรื่องใหญ่ๆ อาจพลาดได้ง่ายๆ
"โลกร้อนน้ำลดป่าหมดด้วย
ใกล้ถึงวันโลกม้วยฤาไฉน
น้ำคำขาดแคลนในเมืองไทย
น้ำใจเหือดแห้งแข่งกันโกย"
ตอนเป็นเด็กน้อยเคยตักน้ำใช้ น้ำดื่มจากบ่อครับ ไม่ต้องพึ่งพาการประปา ตุ่มใส่น้ำดื่มมีคราบเขียวๆ อยู่รอบ ใช้กระบวยตักน้ำ หอมชื่นใจครับ ขอบคุณมากครับ
ที่บ้านก็มีตุ่มใส่น้ำไว้ค่ะ(บ้านอยู่ชนบท)
ขอบคุณบทกวีจากท่าน บวรครับ
ชีวิตปัจจุบัน เราพึ่งคนอื่นมากไป
พึ่งการประปา
สมัยก่อน ไม่มีประปา เรายังอยู่ได้
แต่ปัจจุบัน ถ้าไม่มีประปา เราอยู่ไม่ได้่ซะแล้ว
เดิม ดื่มน้ำจากบ่อได้
ยุคนี้ั้้ต้องซื้อน้ำกิน
บ้านนายบอนก็ยังมีตุ่มใส่น้ำครับคุณชวิศา
แต่บ้านเพื่อนใน กทม. ไม่มีตุ่มซะแล้ว