กว่าจะเป็นพนักงานขับรถไฟฟ้า


มีใครทราบมั้ยว่ากว่าจะได้เป็นพนักงานควบคุมรถไฟฟ้านั้นจะต้องผ่านความยากลำบากอะไรมาบ้าง

รถไฟฟ้า BTS ให้บริการมาใกล้จะครบ 10 ปีแล้ว วันที่ 5 ธันวาคม 2552 ก็จะครบรอบ 10 ปีเต็มของการให้บริการรถไฟฟ้า BTS  ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการให้บริการที่คนทั่วไปจะนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ ของรถไฟฟ้า BTS คือ พนักงานขับรถไฟฟ้า แต่จริงๆ แล้วเขาเหล่านั้นไม่ใช้เป็นเพียงแต่พนักงานขับรถไฟฟ้าเท่านั้น เขายังต้องทำหน้าที่คอยควบคุมดูแลความปลอดภัยและการให้บริการแก่ผู้โดยสารให้มีความมั่นใจและสะดวกสบายตามนโยบายของบริษัทด้วย เราจึงเรียกพนักงานเหล่านี้ว่า “Train Controller” หรือพนักงานควบคุมรถไฟฟ้า มีใครทราบมั้ยว่ากว่าจะได้เป็นพนักงานควบคุมรถไฟฟ้านั้นจะต้องผ่านความยากลำบากอะไรมาบ้าง ผมในฐานะครูผู้ฝึกอบรมให้แก่พนักงานเหล่านั้นมีความยินดีจะเล่าสู่กันฟังครับ

 

เริ่มต้นจากการคัดเลือกของแผนกสรรหา (Recruit) ที่คัดเลือกจากใบสมัครต่างๆที่เข้ามา จากนั้นด่านแรกที่ต้องฝ่าฟันคือ การสอบข้อเขียน ซึ่งก็คล้ายๆ กับข้อสอบของทางราชการ ก.พ. ทั่วๆไป เมื่อสอบผ่านข้อเขียนแล้ว จึงเข้ามาสอบสัมภาษณ์ ผมก็ได้มีส่วนร่วมกับกระบวนการนี้ด้วย  สอบสัมภาษณ์ผ่านแล้ว ก็ใช่ว่าจะรับเข้าทำงานได้เลย เรายังต้องมีการทดสอบทางจิตวิทยาด้วย ขนาดมาตรฐาน น้องๆ นักบินเลยทีเดียว ด่านสุดท้ายของการคัดเลือกก็คือ การตรวจร่างกาย ซึ่งแน่นอนว่าผู้ที่ได้รับการคัดเลือกต้องเป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ โดยเฉพาะเรื่องสายตา ต้องไม่บอดสี เพราะต้องทำงานเป็นกะ และเป็นการทำงานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย รับผิดชอบผู้โดยสายเป็นพันๆ คน หนึ่งขบวนจะมีพนักงานควบคุมรถไฟฟ้าเพียง 1 คนเท่านั้น

 

ด่านต่อไปก็คือการฝึกอบรม ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 4 เดือนขึ้นไป  ประกอบไปด้วยภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ ตามรายละเอียดดังนี้คือ ภาคทฤษฎี เราจะฝึกอบรมกันประมาณ 2 เดือน ตามรายวิชาต่างๆ ประมาณ 20 กว่าวิชา จากนั้นก็มาฝึกภาคปฏิบัติกันอีกอย่างน้อย 1 เดือน หลังจากฝึกภาคปฏิบัติเสร็จแล้วก็ไปฝึกงานกับรุ่นพี่ (OJT) อีก 1 เดือน จึงจะเข้าทำงานตามระบบได้ ช่วง OJT นี้ ผมเปรียบเสมือนช่วงทดลองใช้สินค้าที่เราผลิตขึ้นมา แต่ระหว่างทำงานเราก็มีการติดตามผลการฝึกอบรม (Follow Up) ด้วยอีกภายใน 3 เดือนหลังจากที่อบรมจบแล้ว ว่าความรู้ ทักษะที่อบรมมานั้น นำไปปฏิบัติงานได้จริงหรือไม่ ช่วงนี้เปรียบเสมือนช่วงรับประกันสินค้า 

 

การฝึกอบรมในแต่ละส่วนเราจะมีการวัดประเมินผลค่อนข้างที่จะเข้มงวดเนื่องจากเราเป็นผู้ดำเนินธุรกิจการให้บริการที่ต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรก  ภาคทฤษฎีในแต่ละวิชาเราวัดกันที่ 75 % ภาคปฏิบัติเราวัดกันที่ 80 % และนอกจากนี้เรายังมีการดูแลพฤติกรรม การพัฒนาการเรียนรู้ตลอดหลักสูตรด้วย ไม่ว่าจะเป็นการ ขาด ลา สาย ป่วย ความสนใจเรียน พฤติกรรมการเรียนรู้ และเจตคติต่างๆ ซึ่งจะต้องมีการรายงานความคืบหน้าให้ต้นสังกัดทราบเป็นระยะ หลังจากที่ OJT จบแล้ว ต้องมาสอบสัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายก่อนเข้าทำงานด้วย (Final Interview) เพื่อวัดเจตคติและการบูรณการ ความรู้ว่าสามารถนำความรู้ทักษะไปปฏิบัติงานได้จริงหรือไม่ ซึ่งเราก็วัดกันที่ 75 % เป็นอย่างน้อย (Final Interview Link : http://gotoknow.org/blog/attawutc/241201)  

ดังที่ได้กล่าวมาแต่ต้นว่า รถไฟฟ้า BTS เป็นองค์กรธุรกิจขายการบริการที่ต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ดังนั้นการฝึกอบรมต้องให้ครบทั้ง KUSA โดยเฉพาะเรื่อง Attitude เราต้องปลูกฝังทัศติให้ครบทั้งสองด้านคือ ด้านความปลอดภัย (Safety Mind) และด้านการให้บริการ ให้ควบคู่กันไป (Service Mind) ทำให้ระยะเวลาการฝึกอบรมจึงต้องยาวนานถึงกว่า 4 เดือน ที่ผ่านมาก็มีผู้ที่ต้องถูกคัดออกกลางคัน เนื่องจากไม่สามารถฝ่าด่านต่างๆตามที่ผมได้เล่ามานี้ได้

หมายเลขบันทึก: 255982เขียนเมื่อ 17 เมษายน 2009 21:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (39)

โห สิบปีแล้วเหรอคะเนี่ย รู้สึกว่าพึ่งใช้มาไม่นานเอง ดีใจที่เมืองไทยมีรถไฟฟ้า ทำให้คนกทม.มีทางเลือกมากขึ้นยามรถติด เป็นการเดินทางที่สะดวก รวดเร็ว และสบาย แต่มีข้อเสียอยู่อย่างเดียวคือ หลายคนที่ใช้บ่อยจะเคยโดนที่กั้นทางเข้าหนีบ แรงพอสมควร เจ็บนะนั่น T_T

    ดอกไม้ให้ทุกท่านที่ผ่าน ไม่ผ่าน และครูฝึกคะ สงสารผู้ถูกคัดออกเนอะ แต่ก็นะ รับผิดชอบชีวิตผู้โดยสารทั้งหมด ก็ต้องคัดเลือกกัน แต่ไม่ทราบเมื่อผ่านแล้วยังต้องมีการทดสอบพนักงานเป็นระยะๆ อีกมั้ยคะ หรือว่าผ่านแล้วผ่านเลยคะ                     

มารับความรู้ครับ Safety Mind & Service Mind "ถึงพร้อมความปลอดภัย ใส่ใจให้บริการ"

ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมเยือนให้กำลังใจครับ ไม่ว่าจะเป็น Little Jazz คุณmorisawa และท่านผอ.บวรครับ ผมขออนุญาตให้ข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้ครับ

- เรื่องประตูหนีบ : ปกติขบวนนรถไฟฟ้าจะออกตรงเวลาตามตารางเวลาที่กำหนดไว้จาก software ในระบบ Timetable ซึ่งก่อนปิดประตูจะมีสัญญาณส่งมาให้พนักงานควบคุมรถไฟฟ้าทราบก่อนประมาณ 5 วินาทีเพื่อให้ปิดประตู เมื่อประตูกำลังถูกปิดจะมีเสียงเตือนให้ผู้โดยสารทราบ ดังนั้นถ้าได้ยินเสียงสัญญาณเตือน ขอความกรุณาอย่าเดินสวนเข้าไปหรือรีบวิ่งเข้าไปในขบวนรถ เพราะอาจจะถูกประตูหนีบได้ ขอให้รอขึ้นขบวนถัดไปจะดีกว่าเพราะระยะเวลาการคอยจะไม่นาน ประมาณ 3-5 นาทีเท่านั้นเอง โดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วนอาจจะรอไมถึง 3 นาทีครับ แต่อย่างไรก็ตามพนักงานควบคุมรถไฟฟ้าต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคนเข้าขบวนรถเรียบร้อยและอาจส่งสัญญาณให้ผู้โดยสารทราบว่ารถจะต้องถูกปิดประตูแล้ว โดยการยกมือยื่นไปข้างหน้าเป็นสัญญาณให้ทราบครับ ตรงนี้ต้องขอความเห็นใจจากท่านผู้โดยสารด้วยครับ เพราะเราต้องพยายามจัดการเรื่องการให้บริการ (รถออกตรงเวลา) และความปลอดภัย (ไม่ให้ประตูหนีบ)ให้สมดุลกันครับ

- เรื่องการฝึกทบทวน : ปกติเราจะมีการฝึกทบทวนและทดสอบสมรรถภาพประจำปีอยู่แล้วอย่างน้อยปีละ 2-3 ครั้ง ตามเรื่องที่เกียวข้อง เช่น การฝึกขับแบบ Manual การแก้ปัญหาต่างๆ เป็นต้น

อิ อิ ขออภัยไม่ใช่ประตูรถค่ะ ประตูกั้นที่ทางเดินเข้าออกตรงที่ต้องเอาบัตรทาบนั่นแหล่ะค่ะ โดนหนีบกันประจำ

เรื่องประตูกั้นทางออกหนีบ มีคำอธิบายดังนี้ครับ คือ หลักการทำงานของประตูกั้น (Automatic Gate) จะทำงานด้วยแสงเซ็นเซอร์ที่ยิงผ่านประตูนั้น โดยถ้ามีวัตถุใดๆ ตัดผ่านเซ็นเซอร์นี้ ประตูจะถูกเปิดออกและปิดในเวลาที่กำหนด ผมเข้าใจว่า หลังจากที่นำบัตรไปแตะแล้วอาจจะมีส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย หรือของที่ถือมา ไปตัดผ่านเซ็นเซอร์นั้นก่อน ทำให้ประตูเปิดและปิดก่อนที่ตัวเราจะผ่านเข้าไป ประตูก็หนีบหรือชนเราได้ ข้อแนะคือ ให้เดินเข้าไปตรงๆ ครับ ไม่ต้องยื่นมือไปหรืออวัยวะส่วนใดเข้าไปก่อน ถ้ามีของ ให้ยกของให้สูงเหนือประตู แล้วเดินเข้าไปตรงๆ ครับ

ถ้ามีคำถามอื่นๆเกี่ยวกับรถไฟฟ้า BTS ที่ต้องการคำตอบอย่างเป็นทางการ ผมแนะนำให้เข้าไป Link นี้ http://www.bts.co.th/th/webboard.asp ผู้ที่ให้คำตอบได้อย่างเป็นทางการคือ หนูด่วนครับ

หรือที่ BTS Hotline : (66) 2617 6000

หรือถ้าต้องการศึกษาเกี่ยวกับระบบ BTS ให้เข้าไปที่ Link นี้ครับ http://www.bts.co.th/th/index.asp

ขอบคุณครับ

ผมก็อยากเป็นพนักงานขับรถไฟมั่งครับ ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง วุฒิการศึกษาแบบไหนครับ

เป็นพนักงานขับรถไฟฟ้าไม่ได้ง่ายเลยนะครับ...

ขอบคุณครับผม...

รับวุฒิ ปวส. ขึ้นไป ทุกสาขา ไม่จำกัด ประสบการณ์ทำงานอย่างน้อย 2 ปี เพราะถึงอย่างไรก็ต้องมาอบรมใหม่อยู่ดี แต่ที่สำคัญคือต้องมี Safety Mind และ Service Mind ใจเย็น ควบคุมสติและสมาธิการทำงานได้เป็นอย่างดี คิดเป็นระบบ ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ตาไม่บอดสี รายละเอียดลองเข้าไปดูที่ http://www.bts.co.th/ ดูครับ

รับวุฒิ ปวส. ขึ้นไป ทุกสาขา ไม่จำกัด ประสบการณ์ทำงานอย่างน้อย 2 ปี เพราะถึงอย่างไรก็ต้องมาอบรมใหม่อยู่ดี แต่ที่สำคัญคือต้องมี Safety Mind และ Service Mind ใจเย็น ควบคุมสติและสมาธิการทำงานได้เป็นอย่างดี คิดเป็นระบบ ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ตาไม่บอดสี รายละเอียดลองเข้าไปดูที่ http://www.bts.co.th/ ดูครับ

ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือนครับ ทั้ง

P คุณ MR. Direct

P คุณเบดูอิน

และ คุณเอ็ม ครับ

ดีจังเลยครับได้มอบความรู้อะไรดีๆ เพิ่มขึ้นนะครับ

วันศุกร์นี้ผมก็จะไปสัมภาษณ์ตำแหน่ง Signalling Engineer

มีข้อเสนอแนะอะไรในการสัมภาษณ์เบื้องต้นก็ช่วยบอกหน่อยนะครับ

เป็นไปได้อยากมีโอกาสได้ร่วมงานกับพี่นะครับ

อายุจำกััดไหมครับ

ดูแล้วงานยากจังกว่าจะได้ทำงาน แล้วต้องสอบด้วย ผ่านก้อต้องรับผิดชอบผู้โดยสารทั้งขบวนรถอีก อย่างนี้คงได้เงินเดือนกันเยอะมากๆๆๆ แน่ เลยคงคุ้มกับความลำบากใช่ป่ะคับ

เรื่องอายุ เราจำกัดไว้ที่ไม่เกิน 35 ปีครับ ส่วนเรื่องเงินเดือนตามวุฒิครับ ประมาณ 8,000-8,500 บาท ไม่รวมค่ากะ และค่าช่วยเหลืออื่นๆครับ เบ็ดเสร็จน่าจะอยู่ประมาณ หมื่นต้นๆ ครับ

ตอนนี้จะไปสมัครขับรถไฟฟ้าต้องมีความรู้อะไรพิเศษถึงจะเรียกตัวไปพิจารณาบ้างครับ ในฐานะที่เป็นครูฝึกเห็นแล้วใช่เลยต้องเป็นคนแบบนี้ หรือถ้าต้องรู้เพิ่มจะได้ตอบคำถามได้บ้างครับ ขอบคุณครับ

อยากทราบคุณ ไทเลย-บ้านแฮ่ครับ

ว่าระบบนี้ เป็นระบบเดียวกับ airport link เปล่าครับ

ผมคิดว่าเราต้องผ่านด่านทดสอบไปให้ได้ไม่ว่ายังไง

เพราะถ้าเราอยากทำงานนี้จริงๆ

โดยเฉพาะการทดสอบครับเหมือนกันไหมครับ

รถไฟฟ้า BTS ใช้ยี่ห้อ Siemens เหมือนกับ ของ BMCL แต่เป็นคนละระบบกับ Airport Link ครับ ส่วนเรื่องการทดสอบหรือการคัดเลือกผมคิดว่าไม่น่าจะเหมือนกันครับ ต้องขออภัยด้วยครับที่ไม่มีข้อมูล

แล้วคุณไทเลย-บ้านแฮ่ คิดยังไงครับก่อนที่จะมาขับรถไฟฟ้าครับ หรือว่าทำถึงอยากขับรถไฟฟ้าครับ ผมอยากทราบนะครับ แต่ของผมคิดว่าชอบนะครับ แต่ไม่รู้ว่าคิดเหมือนกันรึเปล่าครับ 555

ผมก็เคยอยากขับรถไฟฟ้าเหมือนกัน แต่ตอนนี้มาทำงานอย่างอื่นแล้ว

อย่างน้อยๆ พวกผมกลับบ้านได้ปลอดภัย เพราะมีพวกคุณครับ ^^

ผมเข้ามาอ่านบทความทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการคัดเลือก อือ เป็นระบบอย่างมาก ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เข้าไปสอบมาแต่ยังไม่ทราบผลรอประมาณ 1 อาทิตย์ ขอบคุณที่ให้ความรู้ความเข้าใจมากๆครับ เป็นกำลังใจในการทำงานนะครับ

จะไปสอบสัมภาษณ์ที่ BTS ค่ะเขาบอกให้สอยข้อเขียนยากมั้ยคะ

จะเป็นพนักงานเครื่องใช่วุฒิไรครับผม

ผมชอบมากกับรถไฟนะครับ

ช่วยบอกด้วยนะครับผม

ขับรถไฟได้เงินเดือนเท่าไรครับ

เพราะผมอยากทำมาก

กำลังทำงานวิจัยเกี่ยวกับรถไฟฟ้า อยากรบกวนขอสัมภาษณ์จะได้ไหมค่ะ

เรียน คุณ visarat [IP: 161.200.211.198]

ติดต่ออย่างเป็นทางการที่คุณณัฐชัย ผะเดิมชิต หัวหน้าผมได้ที่ 02-6177300 ต่อ1301-2 ได้ครับ

เคยเข้าไปสมัครมาแล้ว สอบรอบแรกผ่านแต่มาตกสัมภาษณ์ ยังงัยปีนี้ขอสมัครใหม่หวังว่าคงมีโอกาศได้เข้าไปสอบสัมภาษณ์อีกรอบครับ

สายตาสั้น สมัครได้ไหมครับ และถ้าสัมภาษณ์ผ่าน ตรวจร่างกายผ่าน จะไช้ระยะเวลากี่เดือน จนกว่าจะได้เข้ารับการอบรม

มีการคัดออกด้วยเหรอ

พี่ครับผมอยากรู้ว่ามันเปิดรับสมัครตลอดเวลามั้ยครับ

จำกัดอายุรึเปล่าคับ เปิดรับอยู่ตลอดมั้ยคับ

ขอทราบคุณสมบัติคร่าวๆครับ ทางmailก็ได้ครับขอบคุณครับ

คือถ้าจบปริญญาตรีแล้วยากเข้าสมัครงานจะรับไหมครับ

            ผมก็อยากจะขับรถไฟฟ้าเหมือนกันครับ แต่คุณสมบัติบางข้อผมไม่ได้ เช่น อายุผมเกินแล้วปัจจุบัน 36 แล้วครับ ส่วนการศึกษา ผมกำลังศึกษา ต่อระดับ ม. ปลาย และจะต่อ ปวส. อยู่ครับ (ไต่ระดับมาจาก พนักงานขับรถบรรทุกมาก่อน)

            แต่เดิมผมเริ่มชีวิตขับรถบรรทุกโดยมาสมัครขับรถบรรทุกน้ำมัน Esso ก่อนโดยมาสอบในรถเทรลเลอร์ 22 ล้อ และสอบคัดเลือกตั้งแต่อายุเพียง 26 ปี บรรจุเข้าเป็นพนักงานประจำใน 4 เดือน และทำงานขับรถน้ำมัน Esso มากว่า 4 ปี โดยไม่มีอุบัติเหตุตลอดมา (จนทุกวันนี้ ผมยังขับรถบรรทุกเทรลเลอร์ อยู่บ้าง กว่า 10 ปี แล้วครับ ไม่เคยมีอุบัติเหตุ ความปลอดภัยต้องมาก่อน)

            ผ่านการอบรมหลักสูตรการขับขี่เชิงป้องกันชั้นสูง "Smit System" โดยเป็นหลักสูตรจากต่างประเทศ  ประกาศนียบัตรจาก บริษัท Esso ประเทศไทย "Driver of the year 2005" เป็นแชมป์เอเซีียแปซิฟิค "Truck Rodeo Esso" ในปี 2005 ผ่านการอบรมจาก บริษัท VOLVO TRUCK & BUS ประเทศไทย ในการขับขี่รถบรรทุกอย่างถูกต้อง ผ่านการอบรมดับเพลิงมาแล้ว 2 ครั้ง

            แต่เนื่องจากทำงานกับ บริษัทต่างชาติ ที่รับเหมาช่วงงานขนส่งให้กับ Esso ทำงานมากว่า 4 ปี บริษัทหมดสัญญากับ Esso  จึงจ้างออกด้วยเหตุผล หมดสัญญาจ้างครับ

             จากนั้นผมได้ทำงานอยู่กับ บริษัทขนส่งวัตถุอันตรายในกลุ่ม ก๊าซอันตราย มาโดยตลอด โดยเป็นพนักงานขับรถของ บริษัทซับคอนแทรคต่างๆ ให้กับบริษัทผู้ผลิตก๊าซสเป็คพิเศษต่างๆเช่น TIG , BIG-A  

              ปัจจุบัน เป็น พนักงานประจำที่ บริษัทในเครือ SC GROUP โดยทำงานดูแลแผนกขนส่งส่วนงาน CNG for Ship หรือ ก๊าซ CNG สำหรับเรือเดินสมุทร  หน้าที่จัดงานขนส่ง CNG ให้กับเรือสินค้าในทะเล และปัจุบันนี้ ยังขับรถเทรลเลอร์บรรทุกก๊าซของ บริษัทเองอยู่ด้วยครับ (กรณีพนักงานไม่เพียงพอ)

              ถ้ามีโอกาส ผมเอง อยากจะหาประสบการณ์จากงานขับรถไฟฟ้า BTS ครับ ถ้าสนใจอดีตพนักงานขับรถบรรทุกอย่างผม ผมยินดีที่จะร่วมงานด้วยเต็มที่ครับ (ผมอยากจะไปสมัครทำงานกับ บริษัท BTS ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งแล้วครับ แต่ตอนนั้นเพิ่งได้งาน จึงต้องหาประสบการณ์ก่อน) แต่ถ้ามีโอกาส ผมจะรีบคว้าไว้และจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ

ขอบคุณครับ

              

ด.ช ทัศสันต์ อ่ำแจ้ง

ผมต้องเรียนวิศวะสายไหนครับถึงจะไดเป็นคนขับรถไฟฟ้าครับและผมจะต้องจบชั้นอะไรครับ

พนักงานขับรถไฟ DB..ของประเทศเยอรมันนีเงินเดือนเยอะใหมทำ12ปีแล้ว

ขอบคุณมากเลยค่ะ ช่วยให้การค้นคว้าข้อมูลได้ดีทีเดียว


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท