ทัศนศึกษาเกาะตะรุเตา


ตะรุเตา

ก่อนสงกรานต์ คณะของท่านรองรัตนะจะไปทัวร์ตะรุเตา  โทรมาชวน เราตกลงใจอย่างกระทันหัน (เรื่องเที่ยวไม่ต้องใช้เวลาตัดสินใจนานอยู่แล้ว)  เมื่อตัดสินใจไปทัวร์นี้แน่นอน ครูตุ่มรีบไปหาหมอก่อน เพราะเพิ่งตกเก้าอี้(ยังปวดหลังอยู่เลย  แต่หมอบอกไปได้ต้องนั่งพิงและอย่านั่งนาน และต้องทานยา  OK เป็นอันว่าไปเที่ยวได้  เราออกเดินทาง ตี 5 ของวันที่ 6 เมษายน เที่ยวขาไปยังสดชื่น ดีใจได้ไปเที่ยว(อีกแล้ว)  หนึ่งวันเต็ม ๆ เราไปถึงบ้านพักสถานีพัฒนาและอนุรักษ์สัตว์ป่า จังหงวัดตรัง  พักนอนในป่าหนึ่งคืน บรรยากาศดีมาก

          

เช้าคณะของเราออกเดินทาง มุ่งหน้าสู่ท่าเรือ ท่กองบังคับการตำรวจน้ำสตูล  เพื่อลงเรือไปยังเกาะตะรุเตา  ผู้การหนุ่มรูปหล่อน่ารักมาก  ดูแลคณะของเรา ซึ่งมีตั้งแต่เด็ก  หนุ่มสาว ผู้ใหญ่ และผูสูงอสยุ รวมทั้งเจ้าMoney อีก 1 ตัว เรานั่งเรือชมวิวทะเลอันสวยงามน่าภาคภูมิใจ  ไปถึงท่าเทียบเรือตะโลวาว เกาะตะรุเตา  โดยใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง นำกำลังลงเห็นปูเกาะเสาท่าเรือมากมาย  เกาะท่อยู่ชิดกับท่าเรือสวยมากจนต้องเก็บรูปมาฝาก

    จากนั้นเราขึ้นรถที่ทางอุทยานเตรียมมารับ  ก่อนไปเขาแจ้งว่าเป็นรถเปิดประทุน  โอ๊ะ !  ฟังดูน่าจะหรูมาก  ปรากฏว่าเป็นสองแถวหกล้อไม่มีหลังคา  ตอนนี้หน้าของเราเริ่มเปลี่ยนจากดำธรรมดาเป็นดำเข้มแล้ว  รถเปิดประทุนพาเราไปถึงที่พักจนได้ ท่ามกลางแดดร้อนจ้า กับสายตาสอดส่วยชมนกชมไม้ไปตลอดทางของชาวคณะเราสัตว์ที่เราพบเป็นตัวแรก บนเกาะตะรุเตา เป็นสัตว์นำโชคที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดี  (เสียดายตั้งกล้องไม่ทัน)เลยไม่ได้รูปมาให้ดู

       

บ้านพัก                                         นกเงือกที่หาดูได้ยาก                       และเจ้าจ๋อซึ่งมีมากๆ

 

ต้นอะไรไม่มีชื่อบอกแต่มีลูกแบบที่เห็นนี่ เต็มไปทั้งต้นเลย เราเห็นหน้าตามันเหมือนลูกเดือยเลยถ่ายรูปมาดู   เราพักบนเกาะหนึ่งคืน  ที่เกาะนี่ ถ้ายังไม่หกโมงเย็นเขาจะไม่เปิดไฟ  อากาศร้อนมาก  พัดลมก็เปิดไม่ได้  แถมฝนตกด้วย  กิจกรรมเดียวที่เราทำได้คือ.........ซึ่งแก้เบื่อได้ชะงัด   เราทำอาหารทานกันเอง  ผู้การบอกจะเตรียมอาหารทะเลไว้ให้เราปิ้งย่าสงทานกันเอง  ปรากฏว่าเรือหาปลาออกทะเลได้แต่เข้าไม่ได้  พวกเราเลยได้ปลาทูสดอย่างเดียว 1 ลังโฟมเต็ม ๆ มื้อนั้น เราเลยต้องทางปลาทูทอด  ปลาทูนิ่ง  ปลาทูต้มน้ำปลา   และปลาทูแกล้มเหล้า  ครูวินัยบอกกลับไปกรุงเทพจะไม่ทานปลาทูอีก 1 เดิอน  เราเปลี่ยนชื่อทัวร์ของเราเป็รทัวร์ปลาทู

  บรรยากาศยามเช้าชายหาดตะรุเตา 

เช้าเราเตรียมตัว วันนี้มัคคุเทศก์บอกว่าจะพาเราไปดูคุกตะรุเรา  ในความคิดของเราคือเดี๋ยวคงได้เห็นกำแพงสี่เหลี่ยมเหมือนคุกที่เราเคยเห็น  (ลืมคิดไปว่านี่มันคุกบนเกาะ กำแพงไม่น่าจะจำเป็น) ปรากฏว่าเดินซะเหนื่อยไม่มีกำแพงหรอก  แล้วก็มีแต่ภาพ และป้ายบอกวิถีความเป็นอยู่ของนักโทษ

       

เดินท่องเที่ยวรอบ ๆ บริเวณที่ไกด์บอกว่านี่แหละคุก  ก็พอเหนื่อย  แต่ที่เหนื่อยใจ คือ ทากค่ะ  เยอะมาก ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง  คณะของเราประสบความสำเร็จ  ได้ประสบการณ์โดนทากดูดเลือด  3 ท่าน  ท่านแรก คือ น้องปั้ม  แกบอกดี ไม่ต้องไปลดน้ำหนักให้ทากช่วยดูดไป  เธอไม่สะทกสะท้านเลย  ท่านที่สองท่านผศ.ค่ะ แต่ท่านกรี๊ดก้องไปทั้งป่าเลยค่ะ  เป็นที่ตกใจไปทั่ว   ท่านที่ 3 คุณแม่ค่ะ อันนี้มารู้ตัวตอนอยู่บนเรือตำรวจน้ำแล้ว  ทากมันอิ่มปล่อยเอง  ก็ OKน่ะ ไม่ต้องทะเลาะกับมันปล่อยให้อิ่มไปเลย 

คณะของเรากลับจากเกาะ  ท่านผู้การบอกว่าต้องรีบหน่อยเพราะท่าช้าเรือจะเข้าเทียบท่าไม่ได้เพราะน้ำลง

ขึ้นจากเรือเราก็บึ่งเลย  เดินทางย้อนกลับทางพังงามาตรังอีกรอบเพื่อจะไปพักที่หาดเจ้าไหม  ถึงที่พักซึ่งกว่าจะหาเจอ ก็มืดไปแล้วพักใหญ่ ๆ เราเข้าที่พัก  กว่าจะได้ทานข้าวกันก็ดึก  ก็เลยต้องรีบนอน  เช้าเราลงเรือเล็ก  เพื่อไปดำน้ำดูปลาปะการัง 

         

ทุกคนสดชื่น  เตรียมพร้อม  มีครูตุ้มคนเดียว เธอกลัวทะเล นั่งเงียบด้วยความกลัว  ไม่มีใครกล้าแซวเลย  เพราะเธอกลัวจริง ๆ  ครูตุ่มไม่รู้จะทำอะไร  เลยถ่ายรูปเกาะมาให้ดูเล่น

          

เกาะเดียวกันนะคะแต่ถ่ายคนละมุม  ขณะเรือแล่นไปเรื่อย ๆ  คลื่นเล็กน้อย พอ..ตื่นเต้น..

   เกาะนี้ดูเหมือนก้อนหินลอยน้ำ  ดูใกล้ ๆ สวยมาก

            

   ได้เวลาลงน้ำแล้วค่ะ   ปรากฏว่าเพราะฝนตก  น้ำทะเลขุ่น  เลยไม่ค่อยมีปลามาให้ชม

     คนเรือพาเราย้ายที่ไปหาดเจ้าไหมอีกด้าน  วังว่าจะได้เล่นน้ำทะเล และดูปะการังน้ำตื้น  ปรากฏว่าฝนตกหนักมาก(มีพายุเข้าด้วย  พวกเราต้องไปหลบฝน  รอพักใหญ่ ๆ ประมาณ ชั่วโมงกว่า  คิดว่าจะติดเกาะซะแล้ว  ปรากฏว่าพอพายุสงบ   คนเรือบอกเรากลับตอนนี้ได้  เพราะคลื่นไม่แรงมาก  แต่พวกเราก็กลัวนะ  เพราะเรามีทั้งเด็กและคนแก่  แต่คนเรือบอกว่าไปกำลังฝนดีกว่า เพราะจะไม่มีลม  พวกเดราเลยต้องเชื่อเขา(ไม่มีทางเลือกน่ะ) สงสารครูตุ้มมากเลย คราวนี้เธอกลัวยิ่งกว่าชาไปอีก   มาได้สักพัก ต้องชมคนเรือนะ  เขาขับเก่งมากเลย  คลื่น ก็ใหญ่แต่เขาคุมเรือตัดคลื่นมาใด้  พอมาถึงตรงที่จะเข้าดูถ้ำมรกต  ปรากฏว่าเรือยังเข้าไม่ได้เพราะน้ำยังไม่ลง   คนเรือเขาบอกว่าต้องจอดเรือคอย  ก็มีคนเขาคอยอยู่หลายลำเหมือนกัน  แต่พวกเราบอกว่าเข้าฝั่งเลยดีกว่า  เพราะจะได้ไปภูเก็ตไม่ค่ำมาก  เราเลยกลับ  อดดูถ้ำมรกตเลย  แต่เราคิดไว้ในใจว่าฝากไว้ก่อนเถอะ(จะมาอีก) 

กลับถึงฝั่งเรารีบเดินทางไปภูเก็ต  ปรากฏว่ารีบแล้วก็ยังถึงภูเก็ตมืด ๆ  อยู่ดี  ไปพักบ้านพักนายด่าน ชื่อโก๊ะ  เขาน่ารักมาก   เช้าเราไปเที่ยวแหลมพรหมเทพ  อันนี้ครูตุ่มเคยไปมาแล้ว  ที่นี่สวยมากเช่นเดียวกัน

 

   ภาพนี้ที่แหลมพรหมเทพ 

หลังจากช็อปปิ้งผ้าบาติกมาได้โหลผืน  อย่างเร่งรีบ เพราะบรรดาคุณผู้ชายเร่งแล้วเร่งอีก เราก็ไปทานอาหารกลางวันกันที่ ร้านอาหารกันเอง  อันนี้ต้องเอ่ยถึง ลืมไม่ได้เลย   อาหารอร่อยทุกอย่าง  แต่ราคาอร่อยกว่า  เรากินกันพอดี ๆ 15 คน  เท่าไรเอ่ย ทายถูกไหมคะ  (ไม่เฉลย) ให้ไปชิมเอง เราถ่ายรูปป้ายชื่อร้านมาให้ด้วย  บริการดีมาก  วิวดี  ติดทะเล  หรู  เลิศ   (ไม่ได้ค่าโฆษณานะคะ)  แต่มันประทับจาย..ม้าก..                 ร้านอาหารที่เราไปรับประทานค่ะ                                                       

อันนี้เป็นเรือที่ถูกสึนามิ พัดจากทะเลขึ้นมา  เรือเหล็กทั้งลำนะคะ  ถูกพัดจากทะเล ข้ามหมู่บ้าน ข้ามถนนมาอยู่อีกฟาก  รวมแล้งขากทะเลมาถึงที่เรือมาตกอยู่นี่ประมาณ  กิโลเมตรกว่า  ท่านรองพาแวะไปดูก่อนเดินทางกลับกรุงเทพ  ขากลับเราผ่านทางสุราษฏ์ ตรงช่วงเขื่อนรัชประภา  ที่เขาเรียนกุ้ยหลินเมืองไทยน่ะ  ขนาดเห็นตอนใกล้ ๆ มืดนะ  ภูเขายังสวยมากเลย  เพราะฉะนั้น  ทริปต่อไป เราก็ได้โปรแกรมมาโดยไม่ต้องคิดเลยว่า เราจะไปกุ้ยหลิน  แฮ่ะ ๆๆ  จริง ๆ นะ

หมายเลขบันทึก: 255824เขียนเมื่อ 16 เมษายน 2009 21:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ตามมาเที่ยวตะรุเตาค่ะ อยากไปมากๆ แต่ ยังจัดเวลาของตัวเองไม่ได้

สวยจัง น่า สนุก นะคะ

อิจฉา ตาร้อนไปหมดแล้ว คุณพี่

ฝากไว้ก่อนค่ะ ไปบล็อก ไปเที่ยวที่บล็อกครูอ้อยบ้างค่ะ http://gotoknow.org/blog/goaround1

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท