บรรยากาศของวันสงกรานต์...วันปีใหม่ไทย ที่เคยห้อมล้อมไปด้วยความรู้สึกแห่งความสุข ความสดชื่น ความอบอุ่น ความผูกพัน จากการที่บุคคลอันเป็นที่รักทั้งในครอบครัว หมู่ญาติสนิท และมวลมิตรสหาย ได้มาพบกัน ได้รดน้ำดำหัว ได้อวยพรปีใหม่แก่กันและกัน ทว่า ในวันสงกรานต์ปี ๒๕๕๒ นี้ ความรู้สึกดังกล่าวได้ถูกแทนที่ด้วยความวิตกกังวล ความเศร้าหมอง ความผิดหวัง และความหดหู่ จากเรื่องราวสภาพปัญหาของบ้านเมืองที่ได้รับรู้ ....
เด็ดดอกไม้ดอกหนึ่ง ย่อมกระเทือนถึงดวงดาว
สรรพสิ่งทั้งหลายล้วนเชื่อมโยงส่งผลต่อกันและกัน
เราจะรู้สึก “สงบ”และ “มั่นคง” ได้อย่างไร....ท่ามกลางความขัดแย้ง ความแตกแยก ความไร้รักสามัคคีของผู้คนในสังคมไทย...ความสูญเสียในเชิงเศรษฐกิจของชาติและประชาชนที่ประเมินเป็นตัวเลขเงินตรา คงไม่สามารถเทียบได้กับความสูญเสียทางจิตวิญญาณของแผ่นดินไทยที่มิอาจประเมินค่าได้
วิกฤติแห่งสันติภาพที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก อีกทั้งไม่รู้ว่าจะยุติลงอย่างไร และเมื่อใด
“ธรรมคีตา” ของท่านมิลาเรปะ มหาโยคีแห่งธิเบต (แปลโดย ร.บุญโญรส) ที่ได้น้อมนำมานี้คงช่วยเป็นเครื่องเตือน “สติ” และเป็นข้อคิดเตือน "ใจ" ให้แก่ทุกท่านในวันสงกรานต์... วันปีใหม่ไทย ประจำปี ๒๕๕๒ นี้ได้บ้างนะคะ
...ปราสาทแลนครที่มีคนอยู่หนาแน่นแออัด ที่ท่านรักและพอใจพักอยู่ ณ บัดนี้ ท่านพึงจำไว้เถิดว่า สิ่งเหล่านี้จะปรักหักพัง เหลือเป็นกองอิฐกองปูน หลังจากที่ท่านได้ลาโลกนี้ไป
...ความหยิ่งผยองและเกียรติศักดิ์ ซึ่งที่แท้แล้วก็ไร้ประโยชน์ มันเป็นเพียงเหยื่อล่อ ซึ่งท่านก็พอใจคบหาและติดตามอยู่ ณ บัดนี้ แต่พึงจำไว้ว่า เมื่อท่านจวนจะตาย มันจะไม่เป็นที่พึ่งพิงหรือที่หลบลี้แก่ท่านได้เลย
...ณ บัดนี้ ท่านรักที่จะอยู่รวมกับครอบครัวและญาติพี่น้อง แต่พึงจำไว้ว่า ท่านจะต้องทิ้งเขาเหล่านั้นไว้เบื้องหลัง ในคราวที่ท่านละโลกนี้ไป
...คนรับใช้ ทรัพย์สิน และเด็ก ๆ เป็นสิ่งที่ท่านรักที่จะยึดครองไว้ แต่พึงจำไว้ว่า ณ กาลแห่งมรณะของท่าน มืออันว่างเปล่าของท่านไม่สามารถเอาสิ่งใดไปกับท่านได้เลย
...กำลังวังชาและสุขภาพ เป็นสิ่งที่ท่านรักยิ่ง ณ กาลบัดนี้ แต่พึงจำไว้ว่า ณ ชั่วขณะแห่งมรณะของท่าน ร่างอันหมดลมหายใจของท่านจะถูกมัดและแบกไปทิ้ง
...ณ บัดนี้ อวัยวะต่าง ๆ ของท่านยังแจ่มใสดี เนื้อหนังและโลหิตยังแรงแข็งขัน แต่พึงจำไว้ว่า ณ ชั่วขณะแห่งมรณะของท่าน มันจะไม่อยู่รับใช้ท่านอีกต่อไป
...อาหารอร่อย หอมหวาน เป็นสิ่งที่ท่านรักปรารถนาจะกิน ณ บัดนี้ แต่พึงจำไว้ว่า ณ ชั่วขณะแห่งมรณะของท่าน ปากของท่านจะปล่อยให้น้ำลายไหลออกมาให้น่าเกลียด
เมื่อคิดถึงสิ่งทั้งหมดนี้ ข้าไม่มีทางอื่น นอกจากแสวงหาพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
.................
ดังนั้น ไม่ว่าเหตุการณ์บ้านเมืองจะเป็นไปอย่างไร และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น.... ณ ช่วงเวลาที่มรณะกาลยังมาไม่ถึง... อย่าลืมให้เวลาตัวเองเพื่อแสวงหาและเข้าถึงสิ่งที่เป็น “เป้าหมายชีวิต” ที่แท้จริง นั่นคือ “ความสะอาด ความสว่าง และความสงบ” อันเป็น “ความสุขที่แท้” กันนะคะ
ขอส่งกระแสบุญใส ๆ จากการร่วมบุญในพิธีบรรพชาอุปสมบทพระภิกษุสามเณรกว่า ๑,๐๐๐ รูป อีกทั้งบุญจากการถวายปัจจัยไทยธรรม ถวายภัตตาหารและคิลานเภสัช ตลอดจนบุญจากการปล่อยสัตว์และให้ชีวิตสัตว์เป็นทาน ซึ่งเป็นบุญที่ได้กระทำเนื่องในวาระวันมหาสงกรานต์ปีนี้มายังทุกท่านด้วยค่ะ...ขอให้ได้มีส่วนแห่งบุญกุศลนี้โดยทั่วถึงกันทุก ๆ ท่านนะคะ
ขอความสุขสวัสดี จงมีแด่ทุกท่าน ในกาลทุกเมื่อเทอญ...
เข้ามาอ่านบันทึกนี้ ด้วยความประทับใจ และได้ความสงบกลับไปค่ะ สุขสันต์วันปีใหม่ไทยนะคะ ดอกสร้อยระย้าค่ะ มีมาฝากเป็นของขวัญ
มนุษย์ทุกคนแสวงหาความสุขที่แท้จริง...แต่...ไม่มีใครรู้ว่า ความสุขที่แท้จริงนั้นคืออะไร...เพราะกิเลสยังติดกะจิตใจอยู่...สงกรานต์นี้ขอให้มีความสุขนะคะ
รับ message จากอาจารย์ตุ้ม แต่ตอบไม่คล่อง ก็เลยหันมาหา blog แทนค่ะ
ขอให้ผลบุญดลบันดาลให้อาจารย์เจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ..
ได้มีโอกาสทำบุญสงกรานต์กับเพื่อนร่วมงาน ครอบครัว และมิตรผู้มีจิตใจดี...อธิษฐานจิตให้เพื่อนร่วมชาติ เพื่อนร่วมทุกข์
ทำบุญทีไรก็อดนึกถึงอาจารย์ตุ้มไม่ได้ค่ะ ...
ขอบคุณคุณพี่ศศินันท์มากค่ะ...ดอกสร้อยระย้างามจับใจค่ะ
คุณบิ๊กบุ๊คคะ...มาช่วยกันบอกต่อและบอกต่อเส้นทางสู่สุขที่แท้จริงกันนะคะ นั่นก็คือการกลั่นใจให้ใส...จนสามารถสลัดกิเลสออกไปได้... แล้วความสุขที่แท้จริงจะบังเกิดขึ้นในใจเองค่ะ
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอวยพรวันสงกรานต์ค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์ปัท
ขอบคุณค่ะ ...
ดีใจที่อาจารย์ปัทแบ่งเวลาไปทำบุญช่วงสงกรานต์ค่ะ
ขอให้อาจารย์ปัทได้มีส่วนแห่งบุญกุศลที่พี่ได้กระทำด้วยดีแล้วเช่นกันค่ะ
บุญรักษาค่ะ