23. เด็กชายปลาดาว


อันว่าความกรุณาปรานี จะมีใครบังคับก็หาไม่, หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน

        วันนี้ผมได้เล่าเรื่อง "เด็กชายปลาดาว" ให้ผู้เข้าประชุมสัมมนาการขับเคลื่อนระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างยั่งยืน ในการประชุมที่สุราษฎร์ธานี เป็นการเล่าเพื่อสรุปคำบรรยาย แต่ตอนนั้นเที่ยงเศษแล้ว จึงเล่าอย่างย่นย่อ สังเกตว่าผู้ฟังให้ความสนใจมาก จึงขอเล่าใน G2K อย่างละเอียด สำหรับผู้ที่ไม่เคยฟังด้วย (หากินง่ายๆ เพราะช่วงนี้งานยุ่งสมองปั่นป่วน เคยนั่งหน้าบล็อก "อดีต..ไม่อาจแก้ไข" อยู่เป็นนานแต่เขียนไม่ออก เอาไว้อีกซักวันสองวันจะกลั่นออกให้ได้ ฮิฮิ) 

        ริมทะเลที่เงียบสงบแห่งหนึ่งที่ในแต่ละปีมีผู้คนเดินทางมาเพื่อพักผ่อนเป็นจำนวนมาก

        เช่นเดียวกับชายหนุ่มผู้นี้ ที่เดินทางมาจากในเมืองใหญ่ศูนย์กลางธุรกิจ และเศรษฐกิจ เพื่อมาพักผ่อน

        วันนี้เป็นวันที่สี่ของเขา และทุกๆ วันก่อนหน้านี้ ที่บริเวณชายหาดก่อนที่ดวงอาทิตย์จะทอแสงแดดจัดมากขึ้น เขาจะพบเห็นสองเหตุการณ์เป็นประจำ คือ ปลาดาวจำนวนมากที่ถูกคลื่นทะเลซัดเข้าเกยตื้นตามแนวยาวของชายฝั่ง

        และอีกเหตุการณ์หนึ่งนั้นก็คือ เขาจะพบเห็นเด็กหนุ่มพื้นเมืองคนหนึ่งที่เดินบ้างวิ่งบ้าง เลาะชายหาด หยิบปลาดาวจำนวนมากที่ขึ้นมาเกยตื้น ขึ้นมาทีละตัว และขว้างจนสุดแรงออกไปในทะเลให้ไกลที่สุด เด็กหนุ่มคนนี้จะทำอย่างนี้จนสุดแนวชายหาดทุกๆ เช้า

         ชายหนุ่มสงสัยตลอดเวลา ในเหตุการณ์ซ้ำๆ ตลอดสามวันที่ผ่านมา ในการกระทำของเด็กหนุ่มคนนี้ และเช้ามืดวันนี้เขาจะคลายข้อสงสัยในเรื่องนี้

         "สวัสดี เช้านี้อากาศดีนะ" ชายหนุ่มทักขณะเดินตามเด็กหนุ่มที่ดูมีอาการรีบร้อน เนื่องจากวันนี้ท้องฟ้าดูปลอดโปร่งกว่าทุกวัน 

         "ผมว่ามันก็คล้ายๆ กับทุกวันที่ผ่านมา" รอยยิ้มที่มุมปากเด็กหนุ่มทำให้รู้สึกได้ถึงไมตรีในการที่จะสนทนาด้วย แต่ท่าทีขะมักเขม้นต่อสิ่งที่กำลังทำไม่ได้ลดละลงไป

          "ฉันมาพักอยู่ที่นี่ วันนี้ก็เป็นวันที่ ๔ ฉันเห็นเธอทุกวัน ในเวลาเช่นนี้" ชายหนุ่มจากเมืองเริ่มต้น 

          "เธออาศัยอยู่ที่นี่ หรือ?" ชายหนุ่มถามต่อ

           "ครับ ครอบครัวของเราเป็นชาวประมงซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของเกาะนี้ ที่ที่นักท่องเที่ยวมักจะไม่ค่อยเห็น"

           เด็กหนุ่มตอบก่อนที่จะก้มลงหยิบปลาดาวที่เกยตื้นอีกตัวหนึ่ง และก็ขว้างมันออกไปจนสุดแรงไปในทะเล ที่ที่เขาเพิ่งจากมาจากการจับปลาตลอดทั้งคืน

          "คุณเคยเห็นปลาดาวเป็นๆ หรือเปล่า" เด็กชายกลับมาเป็นผู้ถามบ้าง

          "เคย แต่ฉันเห็นมากเป็นพิเศษก็ที่นี่"  ชายหนุ่มตอบเพื่อให้เข้าสู่คำถามต่อไปของเขา

           เด็กหนุ่มก้มลงหยิบปลาดาวสองตัวที่ขึ้นมาเกยตื้น

           "แล้วคุณเคยขว้างปลาดาว หรือยัง"

            พลันเขายื่นปลาดาวตัวหนึ่งให้กับชายหนุ่มจากเมือง แล้วเขาก็แสดงท่าทางการขว้างปลาดาวออกไปทะเลราวกับครูสอนนักเรียนมือใหม่

           ชายหนุ่มทำตามอย่างที่เด็กหนุ่มทำ พร้อมกับหันหน้าไปทางเด็กหนุ่ม

           "เธอขว้างมันลงทะเลทำไม?" ข้อสงสัยต่อมาของเขา

           "มันจะตาย หากมันเกยตื้นอยู่ที่ชายหาดนี้ หลังจากดวงอาทิตย์ส่องแสงจัดกว่านี้" เด็กหนุ่มตอบตามความตั้งใจของเขา

          "แล้วในวันหนึ่งๆ เธอขว้างมันมากแค่ไหน?" หนึ่งในชุดคำถามของเขา

          "ก็ก่อนที่แสงจากดวงอาทิตย์จะส่องแสงจัดไปกว่านี้" เด็กหนุ่มตอบตามจำนวนที่ตนเองสามารถกำหนดได้

          "สุดชายหาดนี้ได้ไหม?" ชายหนุ่มถามเพิ่ม

         "มันไม่เกี่ยวกับชายหาด แต่มันอยู่ที่ความร้อนของแสงอาทิตย์" เด็กหนุ่มตอบ

         ขณะเดียวกันกับปลาดาวตัวที่เกยตื้นกลางชายหาดกำลังถูกขว้างออกไปสวนทางกับแสงจากดวงอาทิตย์  ราวกับท้าทายความร้อนแรงของแสงอาทิตย์กับความเป็นตายของมัน

        "เธอทำอย่างนี้ทุกๆ เช้าของทุกๆ วัน หรือ" เสียงคลื่นทะเลในยามเช้าไม่ได้กลบเสียงคำถามนี้

         เด็กหนุ่มยืนนิ่ง ในมือของเขายังคงถือปลาดาวอีกตัวหนึ่ง ซึ่งกำลังจะถูกขว้างออกไป

         "ถ้าหมายถึงตอนเช้าอย่างเวลานี้ คงไม่ทุกเช้า แต่จนกว่าจะไม่ต้องขว้างมันออกไป.... ทุกวันไหมนั้น ผมไม่เคยนับมันในเรื่องนี้"

           เด็กหนุ่มตอบ ก่อนที่จะขว้างมันออกไปอีกตัวหนึ่ง และออกเดินตามชายหาดต่อไป 

          "มันจะมีประโยชน์หรือความสำคัญยังไง ในเมื่อทุกๆ เช้าของทุกๆ วัน จะมีปลาดาวมาเกยตื้นอย่างนี้ และในบางครั้งมันก็อาจเป็นตัวเดิมที่เราเคยขว้างมันออกไปเมื่อวันก่อน สำหรับฉันแล้ว ฉันไม่เห็นความสำคัญในสิ่งที่เธอกำลังทำในทุกๆ เช้าอย่างนี้"

          ชายหนุ่มแสดงความคิดเห็น ระหว่างที่เด็กหนุ่มกำลังก้มลงหยิบปลาดาวอีกตัวที่เกยหาดมานานแล้ว

          แสงอาทิตย์เริ่มสว่างมากขึ้น อะไรๆ ต่ออะไร ที่ริมหาดเริ่มปรากฏตัวชัดมากขึ้น และในใจของชายหนุ่มดูเหมือนว่าบทสนทนาของเขาจะจบ

          เด็กหนุ่มยืดตัวขึ้น หายใจเอาลมบกเข้าปอดปละปนกับรอยยิ้มที่ยังคงเปื้อนใบหน้าของเขาตลอดการสนทนา 

          เด็กหนุ่มพื้นเมืองหันหน้าไปทางชายหนุ่มที่เดินทางมาพักผ่อนตากอากาศ

          "....แต่สำหรับผมว่า มันสำคัญที่ตัวนี้"

           เด็กหนุ่มกล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะขว้างปลาดาวอีกตัวออกไปในทะเลอย่างสุดแรง และหันกลับมายิ้มให้กับชายหนุ่มอีกครั้ง

           ก่อนจะสาวเท้ายาวไปที่ปลาดาวที่เกยตื้นอีกตัวตรงหน้า....

 

"แม้ 1 ชีวิต ที่เราช่วยเขาได้ มันมีค่ามาก แต่...มันไม่ใช่เพียงแค่ตัวเดียว มันยังมีเกาะเกี่ยวอีกมาก........"

       อันว่าความกรุณาปรานี

       จะมีใครบังคับก็หาไม่

       หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ

       จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน

       เป็นสิ่งดีสองชั้นพลันปลื้มใจ

       แห่งผู้ให้และผู้รับสมถวิล

 

ขอให้พวกเราชาวไทยรักกัน ช่วยเหลือกัน และอภัยให้กัน เพื่อชีวิตพวกเราจักสงบสุข

คำสำคัญ (Tags): #รักกันไว้เถิด
หมายเลขบันทึก: 254553เขียนเมื่อ 9 เมษายน 2009 00:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2013 00:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

สวัสดีค่ะอาจารย์เปลวเที่ยน

เรื่อง เด็กชายปลาดาว

 ดิฉันอ่านแล้วเข้าใจว่า   เด็กคนนี้เค้าคงคิดว่า สิ่งที่เค้าสามารถทำได้เท่าแรงที่เค้ามีดีที่สุดแล้ว  ได้เท่าที่แรงที่เค้ามีดีกว่าไม่ได้ทำอะไรและเค้าภูมิใจในสิ่งที่เค้าทำ  โดยเค้าคิดว่าปลาดาวทุกตัวมีค่า 

ไม่รู้ถูกไหมคะอาจารย์ 

วันนี้เสื้อแดงประท้วงใหญ่เลยค่ะอาจารย์  ไม่ค่อยสบายใจค่ะบ้านเมื่อไม่สงบ อยากให้คนไทยรักกันค่ะอาจารย์  รักในหลวงด้วยค่ะ  ไม่อยากให้ใครเห็นแก่ตัวเลยค่ะ อิอิอิ  ดิฉันผู้หญิงชุดขาวค่ะ

อะไรควรทำก็รีบทำ เพราะเวลาไม่รอใคร หากรอช้า หรือช้าไปนิด บางสิ่งต้องสูญเสียไป...ศิริวรรณเข้าใจเช่นนี้(คงเป็นมุมมองหนึ่งที่ตรงใจ)...

ขอบคุณนะคะสำหรับสิ่งดีๆ ที่มีส่วนกระตุ้นชีวิตให้กระเตื้องขึ้นได้

ใช่ครับ คุณดุจดาว "เด็กชายปลาดาว" สะท้อนได้หลายอย่าง เพียงชีวิตเดียวหากทำดี มันคงไม่ใช่คนเดียว แต่เกาะเกี่ยวกับคนอีกหลายๆ คน ผมก็หวังให้ความบาดหมางกัน สงบเร็วๆ ครับ

คุณดุจดาวเป็นผู้หญิงสีขาว ผมผู้ชายสีกากีหม่นครับ (กากีเข้มเป็นอีกพวกครับ) อยากหัวเราะ ฮิฮิ ฮ่า ฮ่า แต่หัวเราะไม่ออกครับ หุหุ หุหุ

ใช่ครับ "เด็กชายปลาดาว" แดดร้อนก็หมดโอกาสแล้ว ภาษิตบทหนึ่งบอกว่า

จงตอบแทนผู้มีพระคุณ ก่อนที่จะไม่มีผู้มีพระคุณให้ตอบแทน

จงประหยัด ก่อนที่ไม่มีเงินให้ประหยัด

จงออกกำลัง ก่อนที่จะไม่มีกำลังให้ออก

จงรักสามี ภรรยา ลูกๆ ก่อนที่ท่านจะไม่มีสามี ภรรยา ลูกๆ ให้รัก และ

จงกระทำความดี ก่อนที่จะไม่มีเวลาให้ทำ

ขอให้มีความสุขในวันปีใหม่ไทย และมีความสุขตลอดปี ๒๕๕๒ ครับ

จงตอบแทนผู้มีพระคุณ ก่อนที่จะไม่มีผู้มีพระคุณให้ตอบแทน

จงประหยัด ก่อนที่ไม่มีเงินให้ประหยัด

จงออกกำลัง ก่อนที่จะไม่มีกำลังให้ออก

จงรักสามี ภรรยา ลูกๆ ก่อนที่ท่านจะไม่มีสามี ภรรยา ลูกๆ ให้รัก และ

จงกระทำความดี ก่อนที่จะไม่มีเวลาให้ทำ

 จงรีบตอบ เพราะเดี๋ยวจะง่วงก่อน คริ  คริ

จะรีบนอนไปใย เวลานอนยังมีอีกมาก ในหลุมฝังศพ (สุภาษิตวัยรุ่น)

แรกที่อ่าน

จงตอบแทนผู้มีพระคุณ ก่อนที่จะไม่มีผู้มีพระคุณให้ตอบแทน

เอ๊ะ....สำนวนนี้คุ้นๆ เหลือบไปดูข้างบน เราเองนี่หว่า....ฮิฮิ

ตอบแล้วคร้าบบบบบ....ทันใจดีไหม ฮ่า ฮ่า

 

คนอะไรมีหลายบ้าน เข้าบ้านไม่ถูกแล้ว

ราวีไม่ตลอดนะ เมื่อกี่นี้ ไปเยี่ยมบล้อค ต้นไม้ปัญหามา  สงสัยจะมีอ่านอยู่แค่คนเดียว แล้วก็ตอบคนเดียว

วัยแรกรุ่น แย้มฝา ให้ไปอ่านซิ ต้นไม้ปัญหา  ตามราวีให้หมดนั่นแหละ แต่ทำไมมีหลายบ้านจัง  ทำไงถึงจะรู้ว่ามีคนเข้ามาเยี่ยมบ้านหละนี่

บอกเคล็ดลับหน่อย  ดูตรงไหนว่ามีคนเข้ามาเยี่ยม บางทีบล็อคที่สุเขียน ตนเองยังไม่รู้เลยว่ามีคนเข้ามาเยี่ยมบ้าน ยังเชยอยู่นะ 

บอกหน่อย บอกหน่อย  ไปบอกที่บล็อกสุเลย จะได้เร็วขึ้น เพราะตามมาเอาคำตอบที่นี่ บางทีตนเองก็งง บ้านหลังไหนกันแน่ แต่ก็เก่งนะ ขนาดว่า หลบไปตอบเสียไกล ยังตามเจอ มันต้องมีเคล็ดลับแน่ๆ

บอกมา  บอกมา

 

อ้อ...โกทูโน เขาบอกใน e- mail ครับ

ฮิฮิ ผมนึกว่าคุณสุ รู้ซะอีก

e-mail ที่เราใช้ใน Gotoknow นะครับ

อ๋อเข้าใจแล้ว  เช็คกันที่  e-mail ที่ใช้ใน Gotoknow  ไปเช็คตรงไหนหละ เห็นมีแต่เขียนอีเมลยฺติดต่อ สุจะไปหาตรงไหนหละ

แต่เมื่อกี่ ที่บอกไปหาอีเมลย์  เลยไปเช็คที่ HOTMAIL.COM อีเมลย์ของสุนี่แหละ  ปรากฏว่า มีคนเข้ามา แล้ว 226 คนจาก GTK แต่ไม่ได้ไปดูตรงนั้นเลย ไม่ได้ไปเช็คเลย เพราะมันจะต้องเข้ารหัส เข้าพาสเวิด   มันช้า  คนมันใจร้อน อยากรู้เดี๋ยวนี้

มีที่ง่ายกว่านี้ไหม  พูดให้มันชัดๆ  e-mail ใน GTK มันอยู่ตรงไหน ขออธิบายอีกหน่อย แต่ขณะที่เขียนบอกอยู่นี้  มัดึกแล้ว พรุ่งนี้จะมาเรียนรู้ใหม่ จะคลำๆดู แถวที่มี e-mail นั่นแหละ  นอนก่อน ตาลายแล้ว

 

       O.K.นอนหลับฝันดีก่อนนะ  บอกใครฝันดี

ขออภัย... ตอบช้า ด้วยเหตุผมส่วนตัวหลายประการ

ง่ายกว่านี้ผมไม่ทราบครับ

ผมใช้ gmail.com  ก็ไม่ยากเท่าไหร่ พอผมเปิด net ก็เข้า gmail ได้เลย เพราะตั้งไว้เป็นหน้าแรก พอคุณสุเมนท์ในบ้านผม G2K เขาก็ส่ง mail มาบอก เพียงผมเข้าไปดูใน mail ของ gmail.com ผมก็รู้ว่ามีคนเมนท์มา ก็เปิดดู แล้วก็เจอ...

แต่ตอนนี้ ง่วงแล้ว ขอไปนอนก่อนครับ  

วันนี้ เหนื่อยมาก

ฝันดีครับ

 

ครับ... แล้วฟังเพลง เหมือนข้าวคอยเคียวเพราะไหมครับ

ย้อนรอย ทั้งหมด 3 ตลบแล้ว  ขอนอนก่อนดีกว่า

                    ราตรีสวัสดิ์  ฝันดีนะคะ

ดึกแล้วคุณขา  หมดเวลา  ขอลาไปก่อน  (เพลง จำได้แค่นี้แหละ)

อ้าว... แล้วผมจะอยู่กับใคร

ไปนอนเหมือนกันดีกว่า

ไม่ฝันคงจะดีกว่ามั๊งครับ

เพราะหากฝัน กลัวฝันร้ายนะครับ บรื้ออออออ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท