ภัทรานิษฐ์
นางสาว ภัทรานิษฐ์ เจริญธรรม ภัทร(จิ๋ว) เจริญธรรม

เพลงมาร์ชโรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.นครศรีฯ แต่งโดย อ.นพพร ด่านสกุล


ร่วมใจ แข็งขัน ฝ่าฟันอุปสรรค เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

คำร้อง-ทำนอง : อ.นพพร ด่านสกุล

เพลง เก่าที่บ้านเกิด

มาร์ชขาวแดง เป็นเพลงประจำโรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช
            ขาวแดงของเราถิ่นเราเฟื่องฟู ธงขาวแดงชูเป็นทิวโบกปลิวไสว
เป็นศรีสง่าน่าภาคภูมิใจ ก้องเกียรติเกริกไกร หนึ่งในเมืองนคร
เราร่วมใจกัน  ฝ่าฟันเพื่อเกียรติแห่งเรา ไม่ยอมคุกเข่า หนักเบาเราไม่หวั่น
รักเกียรติยศ ปรากฏทั่วกัน พวกเราบากบั่นแข็งขันมั่นใจ
รักชาติประกาศทั่วกัน  พวกเรายึดมั่นไม่หวั่นไหว ใครมารานรุกรานร้าวชาวไทยฮึดสู้สุดใจ จนตายแดดิ้น  เราบูชาพระศาสดา ทุกศาสนาที่ไร้ราคิน บริสุทธิ์  กิเลสโบยบิน  ความทุกข์ห่างสิ้นจากถิ่นของเรา เคารพเชิดชูพระมหากษัตริย์ ผู้ครองรัฐประเทศเขตไทย เป็นจอมทัพ จอมใจชาวไทย พวกเราพร้อมใจอยู่ใต้บารมี ขาวแดงของเราถิ่นเราเฟื่องฟู ธงขาวแดงชูเป็นทิวโบกปลิวไสว เป็นศรีสง่าน่าภาคภูมิใจ ก้องเกียรติเกริกไกร หนึ่งในเมืองนคร   

            ที่ได้ยกตัวอย่างเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อ เชิดชูสถาบัน  ชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์

            เป็นเพลงมาร์ชโรงเรียนเบญจมราชูทิศนครศรีธรรมราช ฟังดูแล้วคล้ายๆเพลงปลุกใจ ทำให้รัก ชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์มากยิ่งขึ้น 

 

โรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช - วิกิพีเดีย


หมายเลขบันทึก: 254304เขียนเมื่อ 8 เมษายน 2009 11:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:34 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (25)

โรงเรียนนี้พี่ชายครต้อยเรียน เป็นนักดนตรีด้วยเป่าแซกแล้วก็ไปต่อจุฬาก็ไปเป็นนักดนตรีให้กับวงของจุฬาเช่นกัน

ครูต้อยจบจากศรีธรรมราชศึกษา มีเพื่อนห้องเรียนกันตอนมศ3 ก็คือนายฉันท์ ทิพย์  เสียดายยังหารูปเก่าไม่เจอ

  • ผมจบที่กำแพงเพชรพิทยาคม แดงขาวเหมือนกันเลยครับ
  • หรือไม่เหมือน?..เพราะขาวแดง

สวัสดีค่ะ ครูต้อย

อ๋อ เหรอคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

ไม่ว่าจะเป็นศิษย์เก่าหรือศิษย์ใหม่นัดเลี้ยงรุ่นกันช่วงเดือนเมษายนนี้นะคะ

สวัสดีค่ะ คุณธนิตย์ สุวรรณเจริญ

ไม่ว่าจะขาวแดง หรือแดงขาว

มาจากสายพันธุ์เดียวกันนะคะ

จบรามด้วยใช่ไหมครับ?

รุ่นไหนครับ ผมรุ่น 14 จบปี 2530 รับปี 2531 ครับ

กลับมาบ้านแวะเยี่ยมกันบ้างนะครับ

หวัดดีครับครู

กลับมาลานกา แวะเยี่ยมกันบ้างนะครับครู

สวัสดีค่ะ คุณ ธัญศักดิ์ ณ นคร

จบรามปี 2542 บ้านอยู่ใกล้ อ.ลานสกานั่นแหละ

เราอยู่ ต.กำแพงเซา หมู่ที่ 7 อ.เมือง

มาชม

ถามนอกกรอบหน่อยนะ

คุณครูที่อยู่ใน โรงเรียนเบญจมฯ นะ ชื่อ คุณครูสุคนธ์ มณีฉาย และคุณครูสมบูรณ์

มากจันทร์นะคุณรู้จักไหมครับ

บุญรักษานะครับ...อิ อิ อิ

สวัสดีค่ะ อ.ยูมิ

ไม่รู้จักค่ะ จบตั้งแต่ ปี 2533 นะค่ะ

ตอนนี้มีครูใหม่เข้ามาเยอะ

ตอนนี้เพื่อนสนิทสอนที่เบญจมฯนครศรีฯ

เขาจะแต่งงานแล้ว แต่งที่นครฯนั่นแหละ

มาชม

ไม่เป็นไรครับ...

มีลูกศิษย์บอกให้ไปร่วมงานแต่งที่เมืองคอนเหมือนกัน วันที่ 24 เมษานี้ละ

ยังไม่แน่ว่าจะไปได้ไหมนี่ อิ อิ อิ

สวัสดีค่ะ อ.ยูมิ

อ้าวจริงเหรอคะ

ลูกศิษย์ ชื่ออะไรหรือคะ

ใช่งานเดียวกันไหมนี่

เพื่อนแต่ง 24 เมษานี้ละค่ะ

กลับมาเยี่ยม มาฟังเพลงที่พี่ชายเคยเล่นดนตรี ค่ะ เวลามีงานเดือนสิบพี่ชายจะไปเล่นดนตรี ค่ะ มันนานมาแล้วตั้งแต่ปี 2511 ,2512 ประมาณนั้น ส่วน พี่เองตอนเป็นนักเรียนก็ได้เป็นนักร้องประสานเสียง ของโรงเรียน และไปร้องเพลงของสุนทราภรณ์ กับวงของโรงเรียน งานเดือนสิบเหมือนกัน โรงเรียนใหญ่ๆ จะแบ่งกันทำหน้าที่ให้ความบันเทิงแบบผลงานนักเรียน ผลัดกันโชว์ในงานเดียวกัน โรงเรียนเบญจม ได้หลายวันหน่อย คะ เข้าไปฟังเพลงมาก็อารมณ์คนเคยสัมผัสตรงนี้ก็ผุดขึ้นมาค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณkrutoi

ไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย ว่าศิษย์เก่า บ.ม.นครศรีฯเหมือนกันนะเนี่ย

คิดว่าบุญสัมพันธ์ คงได้เจอกันนะคะ

โชคดี มีสุขค่ะ

อยุธยาวิทยาลัย ขาว-เเดง

ธัญบุรี ขาว-เเดง

สิรินธร สุรินทร์ ขาว-เเดง

ปล.เหมอนกัน

อยู่อยุธยาวิทยาลัยอ่า

สวัสดีค่ะ คุณนันทนา

ดีใจด้วยนะที่มีญาติ ขาว-แดง มากมายขนาดนี้

ขอบคุณมากๆ

หวัดี ครูจิ๋ว คัฟฟ

ปม บ้านโย้ ลานสกา เขาแก้ว

แต่ปม อยากเรียน เบญจม คัฟ

เลยพลาด โอกาส หลายครั้ง เลยไม่ได้ปัย สอบ

แต่กะ ว่าจะปัย ฝาก เลยไม่ได้ปัยอิก

อยากความ ครูว่า

ตอนนี้ ปม เรียน โย้ ม.4

แต่ อยากถาม ครู ว่า ถ้าเรียนโรงเรียน ที่อื่นมา

ตอนม.4

แล้วมาเรียน หรือ ย้าย มาเรียนเบญจม ด้ายไหมคัฟ

ย้ายมาเรียน ม.5 คัฟ

สวัสดีค่ะ เด็กลานสกา

ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ

เรื่องการศึกษาต่อ ให้น้องไปติดต่อที่โรงเรียนเบญจมฯเองนะคะ

ลองเข้าไปปรึกษาอาจารย์ดูค่ะ

ขอให้โชคดี พี่ให้กำลังใจ ยังไม่สายเิกินที่จะเรียนค่ะ

สวัสดีครับ เพิ่งมาดูบันทึกของครู

ครูจิ๋วแต่งได้ดีมากครับ มีความหมายที่ดี

เป็นกำลังใจครับ

ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะ คุณณัฐวรรธน์

อ๋อ เพลงมาร์ช ร.ร.เบญจมฯ นครศรีฯ

เราไม่ได้แต่งจ้ะ

อ.นพพร ด่านสกุล เป็นคนแต่ง

ขอบคุณค่ะ ที่เป็นกำลังใจ

เด็กเบญ ตอนนี้อยู่ กทม

ขอแจมด้วยนะครับ เป็นศิษย์เก่าเด็กเบญเหมือนกัน

อาจารย์สมบูรณ์ กะ อาจารย์สุคนธ์เป็นพี่กะน้องครับ กันครับ เป็นคนหัวไทร เก่งทั้งคู่เลยครับ เพราะเรียนกะแกมาแล้ว สอน math ส่วน อ สุคนธ์ สอน เคมี

สวัสดีค่ะ คุณเด็กเบญ ตอนนี้อยู่ กทม

ยินดีที่ได้รู้จัก เธอคงเป็นรุ่นน้อง

ถ้ามีโอกาสแล้วค่อยเจอ ตอนงานเลี้ยงรุ่นใหญ่

มีอะไรติดต่อมาละกัน

บายๆๆๆ

เหมือนได้กลับมาอ่านกระทู้เดิมเลยนะครับ ไม่ได้กลับไปเที่ยวคอนนานหลายปีแล้วครับ คงเปลี่ยนไปเยอะ

คือเข้าไปดูเวบเด็กเบญ แล้วเพิ่งรู้บางอย่างที่ยังไม่รู้ แม้ว่าอยู่เรียนอยู่เบญมาตั้งนาน

สระน้ำหลังพระรูปที่จริงเรียกว่า "สระท่านเจ้าคุณม่วง" แต่นร.ส่วนใหญ่จะเรียกว่า "สระชาเขียว" ---เมื่อก่อนตอนกรุอยู ม.1 มีปลาสวยๆตัวโตๆเยอะมากเลยอ่ะ แต่น้ำก้อเริ่มเขียวๆแล้วนะ

เป็นรร.ไม่กี่แห่งที่ มี หอสมุดอยู่กลางสระน้ำ ---มีปีนึงเกิดพายุหมุน หลังคาตรงกลางพังลงมา แต่โชคดีไม่มีครัยบาดเจ็บทั้งๆที่ตรงนั้นทุกทีจะมีนักเรียนมานอนเล่นบนเก้าอี้นวมกันเต็ม ว่ากันว่าเพราะบารมีของ ร.๕ และท่านเจ้าคุณม่วง ทำให้วันนั้นไม่มีเด็กไปนั่งตรงนั้นเลยสักคน แล้วตอนนั้นพักเที่ยงพอดี กรุอยู่ที่โรงอาหาร จานงี้ปลิวว่อนเลย ยังจำภาพวันนั้นได้ติดตาเลย

บริเวณหอเกียรติยศเมื่อก่อนคือ สวนวรรณคดี ---เริ่มสร้างตอนปีที่กรุจบพอดี ตอนเย็นๆกรุไปนั่งทำมิวสิคที่สวนวรรณคดีประจำ ยุงแม่งโคดเยอะ ตอนม.ต้น สวนวรรณคดีน่าสนใจและน่าค้นคว้ามากๆ แต่พอ ม.ปลาย เหอๆ อย่าให้พูด

เด็กใหม่ต้องเคยเดินหลงในอาคาร 1-5 ถ้าไม่เคยหลง แสดงว่าตามเพื่อนหรือเป็นเด็ก EP (มันเลยไม่ได้มาเดินเรียนที่นี่) อาคาร 5 สร้างราวๆ 2521-2523 ช่วงนั้นเด็กนักเรียนเป็นเทพเดินไม่หลง :P ---ตอนอยู่ป.6ไปสอบร้อยปีเบญจมฯ กรุก้อหลงนิ อิเพียวหลงจนเข้าห้องสอบสายตั้งหลายนาทีด้วยอ่ะ

มักไม่มีใครรู้ว่าหน้าต่างในห้องเรียนมี 9 บาน ---เออว่ะ ไม่เคยนับเลยอ่ะ

มีการเลี้ยงนกหงหยกข้างห้องปกครอง ตอนนี้ไม่มีแระ---เคยเห็นๆๆ

บริเวณศาลา6เหลี่ยมเมื่อก่อนเป็นสวนหิน ---อันนี้กรุก้อทันว่ะ

มะขามที่ลานมะขามเปรี้ยวมาก โปรดระวังก่อนกิน ---เคยกินๆๆ เพราะเห็นในรูปถ่ายตอนม.6 กรุถ่ายรูปคู่มะขามฝักใหญ่ซะด้วย

เมื่อก่อน 311 เคยเป็นห้องวิทย์ ยังมีอ่างล่างมือ---เออ ตอน ม.1 แม่งได้เรียนวิทย์กะอาจารย์สาครห้องนั้นแหละ

เวลาเดินผ่าน กระจกบริเวณอาคาร ทุกคนต้องหันไปดูกระจก อย่างพร้อมเพรียง ---กรุก้อเช็คความงามตัวเองทุกทีที่เดินผ่านเหมือนกัน บางครั้งยอมเดินกลับมาอีกรอบ เพราะรอบแรกมีคนมากแรง

บริเวณอาคาร 4 ชั้นหนึ่งระหว่างห้องเคมีกับชีวะ เรียกว่า "สี่แยกมณีฉาย" ---ของเทอแรงจริงๆ ต๊ะก้อแรงใช่ย่อยนะ กรุเรียนเคมี 3 ปี เรียนกะสองคนนี้แหละ ต๊ะ สุ๊ ต๊ะ

ห้องพักครูวิทย์ (ห้องเล็กๆ ข้าง 411) เป็นห้องที่ควันมากสุดในเบญจมฯ เดี๋ยวนี้เป็นห้องสมุดวิทย์แล้ว ไม่มีควันบุหรี่---ตอนม.2 เป็นห้องสมุดวิทย์ แต่ตอน ม.4 เป็นห้องสุคนกะต๊ะแล้วว่ะ

ห้อง 435 มีคนใช้อยู่คนเดียว... ถาม ม.6 ดู---กรุเลยเรียนกะทรงวุฒิหลักสูตรใหม่รุ่นแรก ตอนม.4 แกสอนห้อง 421 กะ 422 จดเอสี่กันพรึบพรับ อิออยแบกจนแขนเจ็บต้องเข้าเผือกอ่อนเลย และห้องกรุมีเด็กย้ายแผนเพราะทรงวุฒิตั้ง 3 คน แต่ตอนกรุอยู่ ม.6 แกก้อยึดครอง 435 ห้องนั้น

อาคาร 5 เป็นอาคารที่ไปพิสูจน์ เรื่องลึกลับกันมากที่สุด ---เคยไปลองมาแล้ว เค้าว่ากันว่าหากไปห้อง 528 ตอนกลางคืนจะต้องติดอยู่บนนั้นทั้งคืน เพราะหาทางลงไม่เจอ แต่เห็นกรุกะเพื่อนก้อลงมาได้โดยไม่เจออะไร นอกจากมีคนหลอนสองสามคนที่มันบอกว่าได้ยินเสียงคนร้องไห้...วิ่งกันพักเดียวทีนี้

ห้อง 511 เดิมเป็นห้องโสตฯ (ช่วงปี 21-26)เดี่ยวนี้ถูกหั่นเป็นห้องเรียน 2 ห้อง ---มีปีนึงเกิดวันแดงเดือด ลิเวอร์เตะกะแมนยู อาจารย์ให้หยุดเรียนไปดูบอลที่ห้อง 511 นี่แหละ

ห้องน้ำอาคาร 5 เห็นเด่นมากจากนอกรร.ถ้าใครไม่รู้คงคิดว่าเป็นอาคารอะไรซักอย่าง ---เป็นที่ที่พวกกรุใช้เปลี่ยนชุดเนตรนารี บำเพ็ญ และยุวะ เพราะเมื่อก่อนเค้ามีการบังคับให้ใส่ชุดนักเรียนและรองเท้านักเรียนมาโรงเรียนเท่านั้น หากมีเรียนพละ ลูกเสือ เนตรนารี ยุวะ ผู้บำเพ็ญ หรือ ว่ายน้ำ ห้ามใส่ชุดมาจากบ้าน ให้มาเปลี่ยนใส่เฉพาะในคาบเรียนเท่านั้น แมร่งกรุเลย อดนุ่งชุดว่ายน้ำมาจากบ้านพ้น 555

ลานชงโคเป็นลานเอนกประสงค์ ใช้ตั้งแต่ เล่นกีฬาจนถึงสอบ --- ซ้อมเชียร์ด้วย แต่ตอน ม.6 พวกกรุใช้ลานชงโคเล่นสลาฟกันเป็นกิจจะลักษณะเลย ยอมโดดเรียนมานั่งเล่นอ่ะ จนอาจารย์ทนไม่ไหว พวกกรุเลยโดนจับไพ่ตอนวันสอบปลายภาคตอน ม.6 ที่ลานชงโคนี่แหละ คิดแล้วขำดี

ลานชงโคมีต้นชงโคแค่ 2 ต้น ---หงะ ไม่เคยนับอ่ะ เพราะไม่รุด้วยซ้ำว่าต้นไหนต้นชงโค 555

ลานชงโคเมื่อก่อนเป็นพื้นทราย ---เออกรุก้ออยู่ในปีที่เค้าปูพื้นตัวหนอนอ่ะ

ถ้าวันไหนฝนตก ลานชงโคจะโล่ง

เมื่อก่อนเคยมีเสาธง ยุวฯ ที่ลานชงโค ตอนนี้มีกล้องวงจรปิดที่ลานชง

ลานโลหะและลานกษตร ตอนเที่ยงๆจะไม่ค่อยมีใครไปเพราะร้อน ---เมื่อก่อนไปเกือบทุกวันเพราะอาจารย์วงศ์ตะวัน(แม่อิทิฟฟี่)ขายน้ำผลไม้ของโรงเรียนที่นั่นที่เดียว เมื่อก่อนอดอยากไม่ค่อยมีขนมขาย

เก้าอี้ตรงลานระหว่าง ลานโลหะและลานกษตร ไฮโซสุดในเบญฯ (เมื่อก่อนเก้าอี้พวกนี้เคยอยู่ศาลาไก่)

ศาลาไก่ เรียกจริงๆคือศาลาร้อยปี--- พวกกรุเรียกว่าศาลาในฝันว่ะ เพราะว่ามันเงียบวังเวงมากๆขนาดเรียนกันกลางวันแสกๆนะ พอเข้าเรียนหากไม่นั่งโม้กันแมร่งเป็นต้องหลับ ยังจำได้ว่าอาจารย์ชุมพรไม่ยอมไปสอนที่อื่นเลย แกสอนที่ห้องเรียนในฝันกลางป่าที่เดียว ยุงแม่งอย่างเยอะ

เมื่อก่อนขายคูปองกันที่ โรงจอดรถ ใกล้ๆกับที่ขายคูปองในปัจจุบัน ---กรุเริ่มเรียนตอน ม.1 ยังไม่มีการขายคูปอง ไม่ต้องแลกบัตรข้าวบัตรน้ำ เริ่มทำตอนม.2 เก็บตังค่ามัดจำ 150 สมัยที่เป็นบัตรเคลือบด้วยนะ บอกจะได้คืนตอนจบ ม.3 จนทุกวันนี้กรุจบตรีแระยังไม่ได้คืนเลยอ่ะ

เป็นโรงเรียนที่ เก้าอี้โรงอาหารสารพัดประโยชน์มากที่สุด ทั้งเป็นเก้าอี้เชียร์ กีฬาจังหวัด เป็นเก้าอี้ถ่ายรูปห้อง และอีกมากมาย แต่ เก้าอี้กินข้าวตอนเที่ยงกลับไม่พอนั่ง

อย่าเปิดไปดูแทงค์น้ำที่หน้าโรงอาหารเดี๋ยวนี้ไม่มีเป็นน้ำดื่ม

เมื่อไม่มีที่นั่งส่วนใหญ่จะท้าให้ไปนั่งกินที่ บนเวที แต่มักจะไม่กล้าทำ

เคยมีอยู่ ปีนึง(รู้สึกจะตอนปี ๒๕๔๕)ที่ไม่ต้องใช้บัตรในการซื้อข้าวและน้ำ ---เออ อาจารย์นัยนาคิดว่าเด็กคงนิสัยดีแล้ว คงเก็บจานไปคืนเองได้แล้ว แต่ไม่เลย จานกองกันเต็มโต๊ะเลย ทีนี้เลยกลับมาใช้บัตรในเทอมต่อมาใช่มะ ก้อเมื่อก่อนกินเสร็จก้อลุกไปได้เลย แม่ค้าจะมาเก็บของเอง พวกนั้นมันเลยชินกะความสบายไงล่ะ

หลังโรงอาหาร(ฝั่งสวนกระท้อน) เคยเป็นคูน้ำ สวนกระท้อนไม่มีแล้วเป็นอาหารหอประชุมใหญ่กับที่ปลูกต้นสนแทน-- -----ช่ายๆๆๆๆกรุเคยไปเก็บกินด้วยอ่ะ แต่ไม่เคยได้เก็บลูกสุกๆเลย เพราะมันหมดตั้งแต่เพิ่งแทะออก

นักเรียนปกติว่าอาคาร 6 ไฮโซ แต่นักเรียนอีพี มักว่ามันโลโซ ---รุ่นกรุนี่แหละรุ่นแรกเลยที่มีอีพี เพราะกรุเข้าตอนรุ่นเบญจมฯฉลองร้อยปีพอดี แมร่งยังจำได้ว่าจัดงานอลังการมากๆๆ

ตอนสร้างห้องน้ำใหม่ที่อาคาร 6 เสร็จใหม่ นักเรียนจะแยกไม่ออกว่าอันไหนห้องน้ำชายอันไหนห้องน้ำหญิง

การยืนเกาะระเบียงอาคาร 6 ชั้น 4 เสียวดี

ตรงสำนักงานอีพีในปัจจุบันเคยเป็นห้องน้ำชาย

นร.ส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าต้นไม้ที่ปลูกรอบสระ 100 ปี คือต้นประดู่แดง ---กรุก้อไม่เคยรู้ว่ะ เรียนมาตั้ง 6 ปี

ศาลา 100 ปีมักเรียกว่าศาลาไก่ เพราะมีไก่บนยอดศาลา ---กรุก้อเรียกว่าศาลาในฝันนั่นแหละ แล้วตอน ม.2 ต้องไปปลูกข้าวโพด ขุดร่อง ปลูกกวางตุ้ง กรุขุดดินเป็นมือแตกน้ำเข้าเลยอ่ะ เพราะเพิ่งเคยใช้จอบครั้งแรก

นักเรียนส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้าไปในสวน 100 ปีเพราะกลัวงูกัดกลัวผีด้วย---เมื่อก่อนต้องไปเรียนเกษตรกะอาจารย์ตุลา ไปตอนกิ่งฝรั่ง และลอกผักตบเพื่อเอาเกรดตอนสิ้นเทอมด้วย

อาคารซิลกรีน เมื่อก่อนอยู่หลังอาคารโลหะ---เคยเห็นๆๆๆ เคยเห็นรุ่นพี่เรียน แต่รุ่นกรุรุสึกว่าไม่มีให้เรียนนะ หรือว่ากรุไม่รุเรื่องเองก้อม่ายรุ

อาคารซิลกรีนจนถึง พ.ศ.2552 เทอม 1 อยู่หลังอาคาร 6

ตอนนี้ ปี 2552 อาคารซิลกรีนได้ถูกทุบ และย้ายไปอยู่ใต้ศูนย์กีฬา

สระว่ายมักเป็นที่ที่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนว่ายน้ำไปซื้อหนม ---เออจิง เพราะเมื่อก่อนที่นั่นมีขนมเยอะสุดแล้ว มีเหนียวหมูกันหล่าว 55

นร.บางคนเคยฉี่ในสระว่ายน้ำ---กรุว่าทุกคนแหละ

หลังสระว่ายน้ำเคยมีชุมนมอนุรักษ์ป่ารักษาน้ำ ---เคยเห็นป้ายๆๆ

ศูนย์กีฬาชั้นล่างเคยมีคนมาเล่นฟิตเน็ต

เป็นโรงเรียนที่นักเรียนไม่เรียกชื่อวิชา แต่เรียกชื่ออาจารย์แทน ex. นาย ก. คาบต่อไปเรียนไรอะ นาย ข. เรียน (อาจารย์) ทรงวุฒิ แทนที่จะเป็นเรียนฟิสิกส์ --- เออจิง พอมีคัยถามเรียนไร กรุตอบ เรียนป้านอ(นรลักษณ์)นักเรียนมอต้นย่อมรุจักเจ๊คนนี้ดี คนที่ทำให้พวกกรุหวาดกลัวตรีโกณจนขึ้นสมอง หรือ เรียนจำนง(ชีวะ)

อ.สาโรจน์พูดอะไรต้องหาร 1000

คาดว่าห้องเคมีเป็นห้องที่รวยสุดในบ.ม.ตอนนี้มีสมาทบอร์ด

ผ.อ.เบญฯส่วนใหญ่จะใช้รถกะบะ --- กรุอยากโฆษณาว่ะ ตอนนี้พ่อเพื่อนกรุเป็น ผอ.เว้ย ผอ.ณรงค์ ทองขาวอ่ะ พ่ออิปกรณ์นะเว้ยจะบอกให้

อาจารย์ปกครองชอบนั่งรถมอไซตรวจ ร.ร. ---กรุเห็นครั้งแรกตอนลุงหนวดนั่นแหละ แกบุกเบิกเลยใช่ป่ะ

นร.ชอบเรียกอาจารย์ผู้หญิงว่าป้า ---เฟิมๆด้วยคน

เป็นร.ร.ที่เดินกันจนขาโป่ง วันๆเดินในรร.หลายกิโล

เมื่อก่อน สามแยกหน้าพระรูป จะมีรถแทคเตอร์(ร้ายๆ)จอดอยู่ปัจจุบันไม่ทราบว่ายังอยู่หรือเปล่า (จบมานานแล้ว)ไม่มีแล้ว

มีคนเคยปล่อยข่าวว่า แทคเตอร์คันนั้นสามารถใช้การได้อยู่ ทั้งๆที่สภาพไม่น่าจะใช้การได้แล้ว

จะมีกลุ่มนักเรียนชายกลุ่มนึงนั่งที่รถแทคเตอร์คันนั้นทุกเย็น จนได้ชื่อว่า ผีเฝ้าแทคเตอร์

มีช่วงหนึ่งที่รถยนต์ อ.สุรเชษฐ์ สามารถพ่นน้ำออกจากหน้ารถได้--- เออ เคยเป็นที่ถกเถียงกันมาก จนได้เห็นด้วยตาตัวเองอ่ะ เพราะแกเป็นที่ปรึกษาห้องกรุตอนนั้น เลยขอให้แกแสดงให้ดูอ่ะ

เคยมีการสอนแม่ไม้มวยไทยให้กับ นักเรียน ชั้นม.5ทุกคน ---เหรอออ จำไม่ได้ว่ะ หรือว่าไม่ใช่รุ่นกรุวะ แต่กรุเคยเรียนรำดาบว่ะ ตอนนี้ไม่รุยังมีอีกป่าว

ลานชงโค เป็นที่แลกเปลี่ยนข่าวสาร ที่รวดเร็วที่สุด มิหนำซ้ำยังเป็นลานมวยลุมพีนีจำลองบ่อยครั้ง ---กรุเคยเห็นหลายทีแระ มีการเอามีดไล่แทงด้วย มีครั้งนึงปีนั้นแหละใช้ปืนเรย

สวนกระท้อนเคยมีการสำรวจแล้วมีประมาณ 100 กว่าต้น

มีการแช่งนักเรียนที่เก็บกระท้อนกิน ว่า จะสอบตก หรือไม่ก็จะเอ็นทรานซ์ไม่ติด แต่ปรากฎว่าทุกฤดูกาลของกระท้อนจะมีเปลือกกระท้อนอยู่เต็มพื้น ---แต่กรุเอ็นติดว่ะ 555

อ.ณรงค์ เป็นอาจารย์ที่สอนวิทย์กายได้หรอยที่สุดในโลกกว้างใบนี้แล้ว มันหยดเลยแหละ

เด็กๆ หลายรุ่นมักได้รับฉายาจากอาจารย์ณรงค์ว่า อีเขียว

กรุชอบจำนงที่สอนชีวะมากกว่า เพราะกรุไม่เคยเรียนวิทย์กาย ส่วนอีกคนที่สอนชีวะกรุตอน ม.4 นึกชื่อไม่ออก เด็กตกกลางภาคกันเกือบทั้งห้อง(กรุผ่านมาแต้มเดียว) แล้วแกเลยให้แก้โดยการให้นักเรียนไปสวดมนต์หน้าท่านม่วง แล้วห้องกรุสวดมนต์กันไม่เป็น ไอเสมันอยู่หน้าตาหลวงพี่ที่สุดแล้ว แกเลยให้มันนำสวด จนทุกวันนี้พวกเรายังเรียกเสกันว่าหลวงพี่อยู่เลย

ที่ห้องประชุมลานเข้าแถว มักจะมีรถตู้อาจารย์รมย์จอดอยู่เสมอ ---นักเรียนเข้าใหม่ทุกคนถูกผูกมัดว่าต้องถ่ายรูปกะแกอ่ะ ไม่รุตอนนี้ยังเป็นอยุ่ป่าว

วันอังคารตอนบ่าย รร.จะมีทางเข้าออกหลายทางมาก แต่ถ้าฝนตกแล้วทางเหล่านั้นจะใช้การไม่ได้เลย เช่น ทางไทยสมุทร ---กรุเคยลองทางไทยสมุทรครั้งเดียวในชีวิต ตอน ม.6 วันนั้นวันกิจกรรม บ.ม. มีกรุ อิหนุ่ม อิเบิ้ด อิแทน อิจุง อิแอม อิปาม อิหนาม อิหุล ครัยอีกจำไม่ได้ หลังจากลอดรูหมาก้อวิ่งกันหน้าตั้ง ไปเจออาจารย์รมย์ในซอยไทยสมุทรซะงั้น ทีนี้อาจารย์โบกมือว่าให้รีบๆวิ่งไป 555 ใจเสียหมดตอนแรก พอวิ่งมาถึงปากทางไทยสมุทร แมร่งรถรับนักเรียนผ่านไปเฉยเลย ปรากฏว่าโรงเรียนเลิกพอดี พวกกรุไม่รุจะมุดรูหมา ผ่าป่าโคลนให้ลำบากกันเพื่ออะไร

ข้างหลังโรงยิมมีศาลาอยู่หลังหนึง เคยได้ยินว่า ชื่อศาลาลูกเสือ ??แต่จำได้ว่า ป้าแข (อาจารย์ดวงแข ปัจจุบันเกษียณแล้ว)เรียกศาลานั้นว่า ศาลาแมวเหมียว ---เออใช่ เมื่อก่อนใช้เก็บไม้พลองลูกเสือ กะไม้ง่ามเนตรนารีในนั้นแหละ

สระชาเขียว เรียกได้อีกอย่างว่า สระขนมเปียกปูน เพราะสีเหมือนกัน มาก

ประธานพรรคนาวิน ต้องว่ายน้ำข้ามสระชาเขียวบางปีพายเรือ---เออเรื่องจิง ทุกปีเลย เป็นธรรมเนียมไปแระ

สมัยที่เบญจมฯเปลี่ยนหลักสูตรมาเป็นโรงเรียนนำร่องนั้น นักเรียนม.4รุ่นแรก เรียนเต็ม10คาบทุกวัน!!! --/กรุเป็นรุ่นแรกอีกแระที่นำร่องนี้ มีการเรียนเอ็มพีด้วยนะ มินิอิงลิชโปรแกรมอ่ะ จ่ายเทอมละแปดพันใช่ป่ะ ให้เรียนกะฝรั่งอ่ะ เรียนอิ้งแมร่งตั้ง 3 ตัว กรุได้อิ้ง3 เกรดสี่เลย เพราะทั้งเทอมกรุเรียนแต่ไททานิคเรื่องเดียว จบหลังสูตรกรุจำได้อย่างเดียว deck ดาดฟ้าเรือ 555 เลยมีเป็นรุ่นแรก รุ่นเดียว และรุ่นสุดท้าย 555 แต่มันก้อทำให้อาคาร 3 ชั้น 3 มีห้องเรียนติดแอร์ตั้งหลายห้อง เพราะฝรั่งมันร้อน สอนห้องพัดลมไม่ได้ พวกกรุเลยสบายได้เรียนห้องแอร์ตั้งหลายวิชา

ขนม+ข้าว หน้าโรงเรียนอร่อย ทั้งร้านป้าน้อย ร้านหัวมันหล้า ร้านส้มตำป้าส้ม และร้านเย็นซ่า5บาท ร้านลุงหนวด---เมื่อก่อนกรุกินแต่ร้านจารสมศรี เข้าเล่มรายงานก้อที่นั่น ถ่ายเอกสารก้อที่ร้านนั้นแหละ

อาจารย์ณิชมน ชอบหายตัวไปในกำแพงข้างโรงเรียน จริงๆ มีประตูบ้านอาจารย์อยู่ที่รั้วกำแพงรร.

เพลงเชียร์กีฬาของรร. มักจะเป็นเพลงสเต็บเดิมๆ จนรร.คู่แข่งเคยถามว่า "คิดกันใหม่ไม่เป็นหรอ??"แล้วไซนิ

แล้วถ้านร.คนใดโดดหรือหนีไม่ขึ้นสแตนด์เชียร์กีฬาจังหวัด ป้าแขและลุงหนวด( อาจารย์สุจิตร)จะให้มาลอกสระร้อยปีเดวนี้ไม่ใช่---เออจิง รุ่นกรุต้องไปลอกสระบัวหน้าโรงเรียนว่ะ กรุก้อแมร่งโง่ยอมขึ้นเชียร์จนตัวดำ(โทษแดดที่ทำให้ดำ555) ตั้งหลายวัน รุงี้ไปลอกผักตบในสระบัวหน้าโรงเรียนครึ่งวันสนุกกว่าอีก

เว็บบอร์ดโรงเรียนที่ทำโดยนักเรียน มักจะล่มบ่อย ---จิง เห็นด้วย กรุเห็นล่มทุกปีจิงๆ

เบญจมฯเคยมีอัตราการเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยของนร.ชั้นม.6 เคยถูกจัดเป็นอันดับ2 ของประเทศ รองจาก รร.เตรียมอุดม พญาไท ---รุ่นกรุได้ที่ 6 ว่ะ

สมัยก่อนถ้ามาสายจะนั่งที่สบาย ---จิงแมร่งมาก่อนนั่งตากแดด ใครมาสายได้นั่งในร่ม กรุจำได้ อิวิวแม่งมาสายบ่อยมาก แต่มันแทบจะไม่โดนจดชื่อ เพราะมันเซ็นชื่อเพื่อนที่เรียนจบไปแล้ว อาจารย์แม่งไม่เคยดู 555

ตอนนี้ปี2552 โดนร้องเพลงชาติที่ป้อมยามโดยอาจารย์ที่นักเรียนหลายคนมักคิดว่าเป็นยาม เพราะไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน

ถ้ามาสายป้าแขจะให้เก็บขยะและใบไม้รอบๆสนามฟุตบอลหลังเลิกแถว ถ้ามาสายบ่อยๆ จะโดนไม้เรียวตีขา ---เมื่อก่อนนะพอเพลงอะไรวะที่ร้อง อ้าองพระสยมบรมราชันขวัญหล้า อะไรประมาณนี้ดังอ่ะ ป้าแขกะลุงหนวดแมร่งมาวิ่งไล่เด็กให้ไปเข้าแถวอ่ะ พวกกรุวิ่งกันได้เหงื่อเกือบทุกเช้า

ปี 2552 ถ้ามาสายบ่อยๆจะโดนเข้าค่ายอะไรซักอย่าง

ปี2552 มาสายจะได้คีย์ชื่อตัวเองลงคอม หมวดกิจกรรม

เมื่อก่อนมีการจัดรายการวิทยุโดยคณะกรรมการนักเรียนจากชั้นลอยของอาคารเอนกประสงค์ โดยเฉพาะตอนเช้ากับตอนเที่ยงๆเวลานักเรียนมาทานอาหาร ส่วนมากจะจัดตามใจผู้จัด 555++ ---เหมือนว่าจะมีตอนรุ่นกรุเป็นกรรมการนักเรียนกันอีกนั่นแหละ รุสึกว่าลุงธีใช่ป่ะที่เป็นประธานรุ่นบุกเบิกกิจกรรมนี้ แต่กรุภูมิใจพี่แพงเว้ย ประธานนักเรียนหญิงคนแรกของโรงเรียน (ขวัญใจกรุตั้งแต่กรุอยู่ ม.1 พี่แพงอยู่ ม.2) ปานระพี แก้วภาราดัย ลูกคัยๆๆๆ อย่าให้พูด(ลูกรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเลยนะเว้ย)

ห้องเรียน515 /516 / 528 เป็นห้องเรียนที่มีกลิ่นเหม็นจากห้องน้ำหญิงแรงมาก

ห้อง 515 เคยมีคนเอาอึมาป้ายทั่วห้อง เมื่อราวปี 2551

ความลับเลยนะ ว่า ห้อง 532 ตอนกรุอยู่ ม.5 วันกิจกรรม บ.ม. มีเด็กมา...กัน แล้วโดนจับได้เพราะมีเด็กไปแอบสูบบุหรี่แล้วได้ยินเสียงเลยไปตามภารโรงมา ซึ่งวันนั้นนักเรียนส่วนใหญ่จะไม่อยู่บนอาคารเรียนกันหรอก ทีนี้กรุกะเพื่อนๆต้องมาทำความสะอาดห้องกันยกใหญ่ เพราะเป็นห้องประจำเด็ก 5/5 ปีกรุเลย

ตอนกรุอยู่ ม.1/4 (เข้ารุ่นร้อยปีพอดี) กรุไม่มีห้องประจำว่ะ เลยต้องไปทำเวรศาลาท่านม่วงแทน(สร้างรูปปั้นท่านม่วงเสร็จปีกรุพอดี)

สวัสดีค่ะ เด็กเบญอยู่กทม.

ยินดีที่ได้รู้จักนะ เขียนบันทึกมาก็ได้ค่ะจะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้

คุยมาทางอีเมล์มาก็ได้นะ

แหม....ความคิดเห็นยาวที่สุดตั้งแต่เคยเจอมา

สงกะสัยรุ่นพี่สมัยดึกดำบรรพ์จริงๆซิท่า รุ่นพี่เบญอยู่ กทม.หลายคน

ชื่นชมที่ยังจำภาพเก่าที่ ร.ร.ได้ดีนะ ไปเที่ยวร.ร.กันไหม.......ฮา

ค่อยคุยอีกนะ

ผมได้รับเกียรติให้แต่งเพลงมาร์ชแต่ไม่รู้แนวทางศึกษาได้จากใหนบ้างครับ

แวะมาทักทายเพื่อนครูค่ะ..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท