กินปลาป้องกันโรคหัวใจ


กินปลาป้องกันโรคหัวใจ
โรคหัวใจ และหลอดเลือดเป็นโรคที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตเป็นอันดับต้นๆ ของทั้งประชาชนคนไทยและของโลกทีเดียว และจากข้อมูลทางสถิติของประเทศในสหรัฐอมเริกาพบว่า ประชาชนกว่า 2 ล้านคนมีปัญหาเกี่ยวกับ โรคหัวใจ และหลอดเลือดซึ่งเป็นโรคเรื้อรัง ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด  ในปี พ.ศ. 2549  จำนวน 34,106 คน (ที่มา : สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ) ทั้งนี้การเกิดปัญหาเกี่ยวกับเส้นเลือดอาจจะส่งผลให้ปัญหาระบบการหายใจ ทำให้ต้องหายใจถี่ๆ และหอบ ส่งผลทำให้ไม่สามารถออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้

ได้มีการรายงานเมื่อ19 กค. 2547 โดยนายแพทย์ Dariush Mozaffarian จากโรงพยาบาล Brigham and Women's มหาวิทยาลัย Harvard Medical School ในเมืองบอสตัน ที่ได้ตีพิพม์ผลการศึกษาวิจัยผลดีของการรับประทานปลาอบหรือย่างจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ และหลอดเลือด

รายงานดังกล่าวได้พูดถึงประโยชน์ของการรับประทานปลา ว่าสามารถลดความเสี่ยงเกี่ยวกับความผิดปกติของ หัวใจ และหลอดเลือด รวมทั้งการเต้นที่ผิดปกติของ หัวใจ ทั้งนี้ก็ควรอย่างยิ่งที่จะรับประทานปลาในรูปแบบอบหรือย่าง ไม่ใช่การทอด เพราะการทอดจะไปเพิ่มปริมาณไขมันในอาหารให้เพิ่มสูงขึ้น

จาก หัวใจ ที่มี 4 ห้อง แทนที่ 2 ห้องล่างซึ่งมีหน้าที่บีบตัวเพื่อสูบฉีดเลือดไปจะทำงานอย่างปกติก็อาจจะทำไม่ได้ เนื่องจากอาจมีการอุดตันในหลอดเลือดเกิดขึ้นได้ และเหตุการณ์แบบนี้ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะ หัวใจล้มเหลว ได้ถึง 15-20%

แพทย์ได้ทำการศึกษาในคน 4,815 คนที่มีอายุเกิน 65 ปีขึ้นไปตั้งแต่ปี 1989 โดยแพทย์จะพยายามเฝ้าสังเกตุและสอบถามเกี่ยวกับการรับประทานอาหารของคนต่างๆ เหล่านี้ พบว่า คนที่รับประทานปลาที่ปรุงด้วยการย่างหรืออบบ่อยๆ จะมีโอกาสที่จะมีปัญหาของโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดน้อยกว่า และยังพบอีกว่าคนที่รับประทาน 1-4 ต่อสัปดาห์ ก็จะลดความเสี่ยงได้มากถึง 28% เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่รับประทานน้อยกว่าเดือนละครั้ง

แพทย์ได้กล่าวต่ออีกว่าเหตุดังกล่าวน่าจะเป็นผลมาจากกรดไขมัน Omega-3 ที่มีมากในปลานั่นเอง ทั้งนี้กรดไขมันดังกล่าวนอกจากจะพบในปลาแล้วยังจะพบได้ในอาหารอื่นๆ เช่น wallnut ผักใบเขียว ซึ่งเจ้ากรดไขมัน Omega-3 นี้ไม่เพียงแต่จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดเท่านั้น มันยังช่วยบำรุงสมองให้มีการพัฒนาและทำงานได้ดีอีกด้วยการรับประทานอาการพวกปลาซึ่งจะมีสารอาหาร Omega-3 ก็จะทำให้ลดการเกิดอาการ ไมเกรน ได้

ที่มา : http://www.dmsc.moph.go.th/webroot/SamutSongkhram/knowledge/s49/s49-4.htm

         http://www.healthdd.com/article/article_preview.php?id=49
                        presented by : พิไลวรรณ จันทร์ขำ

 

หมายเลขบันทึก: 251873เขียนเมื่อ 30 มีนาคม 2009 10:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 05:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สวัสดีค่ะแวะมาทักทายค่ะ   ดีจังเลยพอดีชอบกินปลาค่ะ  หัวใจสีชมพูดีค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท