เพิ่มความจำ บำรุงสมอง ต้านเครียด


เพิ่มความจำ

         ในการดำเนินชีวิตแต่ละวันของคนเราล้วนมีเรื่องให้เครียดหรือปวดหัวอยู่เป็นประจำ ยิ่งอากาศร้อนๆอย่างนี้ก็พาลให้หงุดหงิดเป็นได้ ส่วนใครที่ต้องทำงานใช้สมองอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นงานออฟฟิต หรือแม้กระทั่งนักเรียน นักศึกษา ก็อาจจะพลอยได้รับความเครียดมากกว่าคนปกติอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นการที่จะให้สมองทำงานได้ดี มีประสิทธิภาพก็จะต้องปราศจากความเครียดจริงรึปล่าวคะ? ฉะนั้นในวันนี้ก็มีสาระดีดีมาฝากกัน จากวารสารสุขภาพ Health today กันเช่นเคยค่ะ เป็นเรื่องของสารอาหารต้านเครียดค่ะ หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยิน แต่ขอรับรองค่ะว่าถ้าลองอ่านแล้วได้ประโยชน์จริงๆ เพราะนอกจากจะช่วยให้สมองทำงานได้ดีแล้ว ยังช่วยในเรื่องของความจำ อารมณ์ดี ไม่หงุดหงิดง่าย มีสุขภาพจิตที่ดี และการที่จิตดีแน่นอนว่าสุขภาพทางกายก็ต้องดีไปด้วย ซึ่งสารอาหารที่ว่านี้ก็ได้แก่สารอาหารจำพวกกลูโคส กรดอะมิโน วิตามิน และแร่ธาตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินบีและซี ลองมาดูกันนะคะว่าสารอาหารเหล่านั้นจะช่วยอะไรได้บ้าง มาดูกันเลยค่ะ

1. วิตามินบี 1 ( ไทอะมิน ) จะพบมากในตับ ไต หัวใจ ข้าวซ้อมมือ ถั่วต่างๆ และเนื้อสัตว์ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเอนไซม์ที่เกี่ยวกับการสลายกลูโคสให้เป็นพลังงาน ถ้าร่างกายขาดวิตามินบี 1 ก็จะทำให้อ่อนเพลีย ซึมเศร้า เบื่ออาหาร อาหารไม่ย่อย แขนขาไม่มีแรง และที่เป็นอยู่บ่อยๆ ก็คือ การชาปลายมือปลายเท้าค่ะ

2. วิตามินบี 2 ( ไรโบฟลาวิน ) พบมากในน้ำนม เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ เนื้อปลา และผักใบเขียว เป็นวิตามินที่เป็นส่วนประกอบของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสลายกลูโคสให้เป็นพลังงานเช่นเดียวกับวิตามินบี 1 แต่ถ้าขาดวิตามินบี 2 นั้น จะทำให้ริมฝีปากและลิ้นอักเสบ ปากและมุมปากแตก (ที่คุ้นหูอยู่บ่อยๆ คือโรคปากนกกระจอกนั่นเอง ) และยังทำให้ระบบประสาทผิดปกติ สับสน อีกด้วย

3. วิตามินบี 3 ( ไนอาซิน ) อันนี้หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยิน แต่ก็พบในเนื้อสัตว์ ถั่ว และยีสต์ ถ้าร่างกายขาดวิตามินบี 3 จะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง เบื่ออาหาร อาหารไม่ย่อย ปวดศีรษะ หงุดหงิด หรือความจำเสื่อม เป็นต้น

4. วิตามินบี 6 เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์สารนำสื่อประสาท พบมากในอาหารพวกเนื้อสัตว์ ตับ ธัญญาหาร ผักและถั่วต่างๆ ถ้าขาดวิตามินบี 6 จะทำให้อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ โลหิตจาง และมีอาการชักได้

5. วิตามินบี 12 พบในอาหารที่มาจากสัตว์ เช่น ตับ นม ไข่ และเนื้อสัตว์ แต่จะไม่พบในแหล่งอาหารที่มาจากพืช วิตามินนี้เกี่ยวข้องกับการสร้างเซลล์และเยื่อหุ้มปลายประสาท ถ้าขาดก็จะทำให้เกิดโรคโลหิตจาง เยื่อหุ้มปลายประสาทถูกทำลาย และสมาธิสั้น อันนี้เด็กวัยเรียนยิ่งไม่ควรขาดเพราะอาจทำให้เรียนไม่รู้เรื่องได้

6. วิตามินซี อันนี้คงจะคุ้นหูใครหลายๆ คน พบได้ในฝรั่ง มะละกอ มะขามป้อม มะม่วง มะนาว บล็อคโคลี ผลไม้รสเปรี้ยวและผักใบเขียว ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์สารนำสื่อประสาท ไทรอยด์ฮอร์โมน และการเปลี่ยนโคเลสเตอรอลไปเป็นกรดน้ำดี วิตามินซียังพบมากในเม็ดเลือดขาว โดยจะทำหน้าที่ในการป้องกันเม็ดเลือดขาวไม่ให้ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่เม็ดเลือดขาวเข้าไปทำลายเชื้อโรค และถ้าขาดวิตามินซีก็จะทำให้มีความต้านทานโรคต่ำ เลือดออกตามไรฟันหรือโรคลักปิดลักเปิดนั่นเอง ปวดตามข้อ เป็นต้น หลายคนอาจจะทราบมาบ้างแล้วว่า การรับประทานวิตามินซีจะช่วยบรรเทาความรุนแรงและลดระยะเวลาของการเป็นโรคหวัด และมีคุณสมบัติเป็นสารต่อต้านภูมิแพ้ต่างๆ เพราะฉะนั้นจึงกล่าวได้ว่าวิตามินซีใช้รักษาอาการของโรคบางอย่างได้

7. เหล็ก เป็นส่วนประกอบของเอนไซม์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างพลังงานให้เซลล์สมอง เหล็กยังเป็นส่วนประกอบของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงซึ่งทำหน้าที่ในการพาออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายและที่สำคัญก็คือ สมองนั่นเอง ทำให้สมองสามารถสามารถสลายกลูโคสให้เป็นพลังงานได้ อาหารที่พบเหล็กมากก็ได้แก่ เลือด ตับสัตว์ เนื้อสัตว์ต่างๆ โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ที่มีสีแดง การขาดธาตุเหล็กจะทำให้มีภาวะโลหิตจาง อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ สมรรถภาพในการทำงานและการเรียนรู้ลดลง

8. น้ำมันปลา เป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า-3 คือ EPA และ DHA ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการส่งผ่านข้อมูลในสมอง รวมทั้งมีระบบประสาทสัมผัสที่ไว ทำให้ความจำดีขึ้น อันนี้เด็กวัยเรียนไม่ควรขาดด้วยนะคะ

         ค่ะและนี่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสารอาหารที่นำมาแนะนำให้ทราบกันนะคะ ยังมีสารอาหารอีกหลายชนิดที่ล้วนเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ถ้าท่านผู้อ่านคนใดสนใจก็สามารถศึกษาเพิ่มเติมต่อได้ในวารสารสุขภาพ หรือเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพทั่วไปค่ะ เห็นมั้ยหละคะว่าแค่เราเลือกรับประทานอาหารบางอย่างก็ช่วยให้เรามีความจำที่ดี บำรุงสมอง ตลอดจนสุขภาพกายและจิตดีอีกด้วย แต่การที่จะให้ดียิ่งขึ้นขอแนะนำว่าให้ออกกำลังกายควบคู่กับการรับประทานสิ่งที่มีประโยชน์ไปด้วยนะคะ เพราะจะยิ่งเป็นการส่งเสริมสุขภาพให้ดีขึ้นได้อย่างแน่นอนค่ะ

                               ******************************************

 

หมายเลขบันทึก: 251752เขียนเมื่อ 29 มีนาคม 2009 18:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม 2012 10:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

สุขภาพกายดีอารมณ์ก็เบิกบานค่ะ

ตอนนี้กำลังป่วยอยู่ความร่าเริงก็ลดลงคะ

...........

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะคะ

ความเจ็บป่วยดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาของพยาบาลไปแล้วนะคะ ยังไงก็หายป่วยเร็วๆแล้วกันนะคะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^

 

หาได้ไม่ยากเลยนะ อาหารบำรุงร่างกาย

สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ

คงต้องใส่ใจมากขึ้นแล้ว

ขอบใจนะจ้ะ สำหรับ ข้อมูลดีๆ ^^

ใกล้สอบแล้ว คงต้องใช้สมองอีกเยอะเลย

ขอบคุณคำแนะนำดีๆจ้า

มาชม

เห็นมีสาระดีจัง

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ นะค่ะ

จะได้ใส่ใจในสุขภาพของตัวเองและคนรอบข้างมากขึ้น

ถ้ากินได้ครบทุกอย่าง สมองคงดีขึ้น

เป็นบทความที่เหมาะกับคนใช้สมองอย่างเราๆมาก

ข้อความมีประโยชน์ดีค่ะ

ใกล้สอบพอดีต้องไปหามากิน

สงสัยต้องหามาบำรุงก่อนสอบซะแล้ว

สมองจะได้จำอะไรได้บ้าง

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ เราต้องบำรุงสมองเเล้ว

ก่อนสอบเราต้องบำรุงกันแล้ว

จะได้ ได้คะแนนดีๆๆๆ

ขอบคุณน๊า

เหอะๆ..........เราไม่ค่อยได้บำรุงเลยอ่ะ.......กินๆๆๆๆ แต่ของที่ชอบ...แง่วๆ..........

ก้อดีนะคะ....วันหลังจะได้กินพวกวิตามิน แร่ธาตุเยอะๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท