ท.ณเมืองกาฬ
นาย ทรงศักดิ์ พิราบขาว ภูเก้าแก้ว

ท้าวกาฬเกด


นิทานพื้นบ้าน
 
 
 
 
 

นิทานพื้นบ้านเรื่อง

    กาฬเกด

               ณ  เมืองพาราณสี  มีกษัตริย์นามว่าสุริวงษ์ และมเหสีนามว่า กาฬ ปกครองนคร ท้าวสุริวงษ์มีม้ามณีกาบซึ่งเป็นม้าวิเศษเป็นพาหนะคู่บารมี ครั้งหนึ่งท้าวสุริวงษ์ได้ลามเหสีและชาวเมืองไปเรียนวิชาอาคมโดยมีม้ามณีกาบเป็นพาหนะ ไปพบพญาครุฑและยักษ์กุมภัณฑ์ได้เป็นสหายกันและ      พระองค์ก็เรียนวิชาศาสตราศิลป์  กับพระฤาษีจนสำเร็จแล้วกลับมาครองเมืองต่อไป

                เมื่อท้าวสุริวงษ์กลับมาครองเมือง  ก็ต้องการจะมีบุตรชายเอาไว้สืบราชสมบัติแทน   พระองค์  ดังนั้นจึงทำพิธีขอลูกกับพระอินทร์  พระอินทร์ได้ส่งเทพบุตรและเทพธิดาลงมาเกิดในเมืองมนุษย์เพื่อให้เป็นคู่สามีภรรยากัน  โดยเทพบุตรองค์หนึ่งมาเกิดในท้องนางกาฬมเหสีของ       สุริวงษ์  เมื่อนางกาฬประสูติออกมาเป็นชายชื่อว่า  กาฬเกด กาฬเกดกุมารนี้ได้เจริญเติบโตมาเป็นลำดับ  ครั้งหนึ่งเข้าไปเล่นในโรงม้าอันเป็นที่อยู่ของมณีกาบ  ได้แอบขึ้นขี่ม้ามณีกาบก็พากาฬเกดกุมารเหาะไปในอากาศออกจากเมืองมุ่งเข้าป่าหิมพานต์

                ขณะที่ท้าวกาฬเกดหนีออกจากเมืองนั้นได้พบกับนางนกสาลิกาคู่หนึ่งจึงให้สั่งความให้กลับไปบอกท้าวสุริวงษ์ด้วยว่าจะออกไปเที่ยวในป่าถึง ๓   ปี  แล้วจะกลับมา  เมื่อสั่งความเสร็จแล้วก็เดินทางต่อไปจนเข้าเขตเมืองผีมนต์ของเท้าผีมนต์  และท้าวกาฬเกดได้พักอยู่นอกเมืองพบกับชาวเมืองที่ออกมาหาฟืนแล้วได้ทราบข่าวว่าท้าวผีมนต์มีลูกสาวสวยชื่อ มาลีจันทร์  จึงพยายามจะไปพบนางในสวนดอกไม้  เมื่อนางมาลีจันทร์มาชมสวนท้าวกาฬเกษจึงเข้าไปหาแล้วชอบพอรักใคร่กัน  ดังนั้นตอนกลางคืนจึงแอบเข้าไปหานางเป็นเช่นนี้มานาน  ต่อมาท้าวผีมนต์สืบได้ความจริงจึงได้ทำหอกยนต์ดักยิง ขณะที่ท้าวกาฬเกดแอบเข้าไปนั้น  พระองค์ได้ถูกหอกยนต์จนตาย  แต่ก่อนจะตายท้าวเธอได้สั่งว่าอย่าเผาศพให้เอาใส่แพลอยน้ำไป  นางมาลีจันทร์ได้ปฏิบัติตามที่ท้าวกาฬเกดสั่ง    ทุกประการ

                ศพของเท้ากาฬเกดลอยไปตามน้ำจนไปถึงอาศรมพระฤาษี  แล้วพระฤาษีมาพบเข้าจึง      ร่ายมนต์ชุบชีวิตให้ฟื้นขึ้นมา  ท้าวกาฬเกษฟื้นขึ้นมาแล้วจึงเรียนศาสตราศิลป์อยู่กับพระฤาษี  จนสำเร็จแล้วลาพระฤาษีกลับไปหานางมาลีจันทร์ใหม่  ท้าวผีมนต์ทราบข่าวอีกจึงเกิดการรบกัน  ในที่สุดท้าวผีมนต์แพ้จึงยกเมืองและลูกสาวคือนางมาลีจันทร์ให้แก่ท้าวกาฬเกดอยู่ที่นั้นไม่นานก็พานางมาลีจันทร์เดินทางต่อไปอีก ในการเดินทางนี้ได้พบยักษ์หลายตน เช่น ยักษ์สาระกันยักคันธะ  และยักษ์ขีนีสาระกาย  ต่างต้องการจะให้ท้าวกาฬเกดอยู่เมือง  แต่ท้าวกาฬเกดยังต้องการเดินทางต่อไป  คืนหนึ่งเดินทางมาถึงร่มไม้ใหญ่จึงหยุดนอน    ที่นั้นได้มีนางกินรี    ตนซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของ    พระฤาษีได้มาพบท้าวกาฬเกดเข้า  ดังนั้น นางทั้ง    จึงอุ้มเอาท้าวกาฬเกดหนีไปเมื่อท้าวกาฬเกษตื่นขึ้นมาพบนางทั้ง  3 จึงอยู่กับนาง  ส่วนนางมาลีจันทร์และม้ามณีกาบเมื่อตื่นขึ้นมาไม่พบท้าว กาฬเกดจึงพากันออกตามหา นางมาลีจันทร์พบกับท้าวอสูรย์ ท้าวอสูรย์จึงเอานางมาลีจันทร์ไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม  ส่วนม้ามณีกาบนั้นได้พบกับพระฤาษี

                กาฬเกดอยู่กับนางกินรีเป็นเวลา ๓ เดือน  เมื่อนางกินรีลงมาปรนนิบัติพระฤาษีและได้ทราบข่าวจากพระฤาษีจึงไปบอกกับเท้ากาฬเกด ท้าวกาฬเกดจึงมาหาม้ามณีกาบแล้วออกตามหานางมลีจันทร์จนพบที่เมืองท้าวอสูรย์  นางกินรีทั้ง    นั้นก็ออกตามหาท้าวกาฬเกดจนมาพบกันที่เมืองอสูรย์แล้วปรับความเข้าใจกันจึงลาท้าวอสูรย์เดินทางต่อไป  ได้พบพญายักษ์หลายตน  ในระหว่างทางยักษ์โขโน  ยักษ์พานตาวัน  เมื่อท้าวเธอเอาชนะแล้วได้สั่งสอนให้ยักษ์ทั้งหลายตั้งอยู่ในศีลในธรรมแล้วเดินทางต่อไป

                ขณะนั้นได้  มียักษ์กุมภัณฑ์ตนหนึ่งมาเห็นนางมาลีจันทร์คิดรักใคร่จึงลักพาอุ้มเอานางไปขณะที่ทุกคนนอนหลับ  เมื่อท้าวกาฬเกดตื่นขึ้นมาไม่พบนางจึงออกติดตามไปถึงเมืองยักษ์แล้วเกิดการต่อสู้กันเป็นเวลานาน  ยักษ์กุมภัณฑ์เห็นถ้าไม่ดีจึงขอให้ท้าวอสูรย์มาช่วยแต่ยังไม่ชนะ  จึงร้องขอพญาครุฑมาช่วยแต่เมื่อพญาครุฑมาเห็นท้าวกาฬเกดและม้ามณีกาบแล้วจำได้ว่าเป็นลูกสหายจึงให้ทำการประนีประนอมกันแล้วแล้วยกเลิกศึกสงครามต่อกัน   เพื่อเป็นการขอโทษท้าวกาฬเกด  ยักษ์กุมภัณฑ์จึงยกลูกสาวให้เป็นมเหสีของท้าวกาฬเกด  แล้วท้าวกาฬเกษพร้อมมเหสีทั้ง  ๕ คนและม้ามณีกาบก็กลับเข้าเมืองพาราณสีแล้วได้ครองเมืองแทนพระบิดาในเวลาต่อมา

                อยู่มานางกาลีมเหสีคนหนึ่งของท้าวกาฬเกดประสูติโอรสออกมา  ได้นามว่า กาลียะสัตถะมาต  ได้เป็นที่รักยิ่งของมเหสีทุกคน  ต่อมาท้าวกาฬเกษกับนางมาลีจันทร์กลับไปเยี่ยมท้าวผีมนต์และนางมาลีทอง  ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีอยู่ที่นั้นพักหนึ่งแล้วกลับมาอยู่เมืองพาราณสีดังเดิมจนแก่ชราตายไปแล้วกาลียะกุมารได้ครองนครพาราณสีต่อมา

 

กรมศิลปากร  ๒๕๓๑ : ๔๔

คำสำคัญ (Tags): #นิทาน
หมายเลขบันทึก: 251572เขียนเมื่อ 28 มีนาคม 2009 20:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 08:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะ

  • นิทานแบบนี้ถ้าไม่เล่าสืบต่อก็จะสูญหายนะคะ
  • และทำให้คนอ่านได้ข้อคิด คติธรรม
  • ขออนุญาตคัดลอกไปให้เด็ก ๆอ่านเช่นกันค่ะ
  • เป็นกำลังใจให้นำมาเล่าอีกนะคะ

ขอบคุณมากครับคุณพี่ คิม

  • ที่ให้กำลังใจ
  • อย่าลืมแวะมาอ่านนิทานอีกนะพี่
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท