- แวะมาส่งความคิดถึงค่ะ
- รับของฝากไหมคะ....
สมหวังค่ะ...สมหวัง....
- ฝันดีนะคะ
วันที่ 8 มิถุนายน ค.ศ.1924 กลางม่านหมอกแห่งยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก ชายสองคนเดินหายไปในความยะเยือกกับฝันโง่ๆ ของพวกเขา ไม่มีใครเห็นพวกเขาอีกเลย
จอร์จ มัลเลอรี เป็นชาวอังกฤษ เกิดที่ม็อบเบอรลีเชเชียร์ ชอบปีนป่ายแต่เล็ก เขาปีนตั้งแต่ต้นไม้ เสา ไปจนถึงอาคาร เมื่ออายุ 8 - 9 ขวบ เขาปีนขึ้นไปบนก้อนหินใหญ่ริมทะเลเมื่อน้ำลงเต็มที่ ด้วยความอยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไรเมื่อน้ำขึ้น เขาเกือบจมน้ำตายเมื่อน้ำทะเลท่วมหินใหญ่
แม้รอดมาได้ เขาก็ไม่เลิกนิสัยปีนป่าย ในปี 1904 มัลเลอรีกับเพื่อนพยายามปีนเขาในเทือกเขาแอลป์ส แต่จำต้องเลิกกลางคันเพราะร่างกายไม่สามารถปรับตัวเข้ากับระดับความสูง เจ็ดปีต่อมา เขาพิชิตเขา มองท์ บลังค์
มัลเลอรีมีเลือดผจญภัยเข้มข้นยิ่ง ชอบปีนทั้งเขาหินและเขาเย็นยะเยือบ เมื่อเพื่อนร่วมทางบ่นท้อแท้ มัลเลอรีมักให้กำลังใจพวกเขา และเดินหน้าต่อไปในสถานที่ที่ไม่ปรากฎในแผนที่ บางสายทางที่เขาปีนป่ายเป็นทางที่ยากเย็นที่สุดแม้กับนักปีนเขาที่มีอุปกรณ์ทันสมัยในปัจจุบัน บางครั้งเกือบเอาชีวิตไม่รอด ครั้งหนึ่งหิมะถล่ม เพื่อนชาวเชอร์ปาตายไปเจ็ดคน เขารู้สึกเศร้า แต่ก็ยังไม่เลิกปีน
แล้วเข็มนาฬิกาของเขาก็ชี้ไปยังยอดเขาสูงที่สุดในโลก
ครั้งหนึ่งนักข่าวชาวนิวยอร์กถามมัลเลอรีว่า ทำไมเขาต้องการปีนเขาเอเวอเรสต์ เขาตอบเรียบ ๆ ว่า "เพราะมันอยู่ที่นั่น"
การปีนเขาสำหรับบางคนเป็นความโง่ สำหรับบางคนเป็นความฝัน
หลายคนมักบอกว่า การปีนป่ายสวนแรงดึงดูดของโลกสู่ชั้นบรรยากาศเบาบางเป็นกีฬาสำหรับคนโง่ กระทั่งสมน้ำหน้าเมื่อพวกเขาตายไป พิพากษาเขาเหล่านั้นด้วยประโยคที่ขึ้นต้นว่า "อยู่ดี ๆ ไม่ว่าดี..."
ความฝันของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ฝันของบางคนอาจดูโง่และไร้สาระกว่าของบางคน แต่ฝันก็คือฝัน พวกเขาเชื่อว่าไม่สมควรปล่อยให้ความฝันดับหายไปโดยไม่ลงมือทำอะไร ก็อย่างที่มัลเลอรีบอกกับเพื่อน "การปฏิเสธการผจญภัยก็เช่นเม็ดถั่วที่เหี่ยวแห้งตายไปคาฝักของมันเอง"
โลกเราเต็มไปด้วยความฝันโง่ ๆ
เอริค วีเลนไมเยอร์ เป็นคนตาบอด เขาฝันที่จะปีนขึ้นสู่เจ็ดยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก รวมทั้งยอดเอเวอเรสต์
คริส มูน ขาขาดจากกับระเบิด เขาฝันที่จะวิ่งมาราธอน
คริสโตเฟอร์ รีฟ เป็นอัมพาต หลังจากจากหลังม้า เขาฝันที่จะทำงานแสดงและกำกับภาพยนตร์ต่อไป
สตีเฟน ฮอว์คิง เคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้ เขาฝันที่จะรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในอีกกาแล็คซีหนึ่ง
ฌอง-โดมินิค โบบี เป็นอัมพาตเคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้ เขาฝันที่จะเขียนหนังสือ ฯลฯ
เหล่านี้เป็นความฝันโง่ ๆ ไม่ใช่โง่ธรรมดา แต่โง่มาก ๆ
คนเหล่านี้เป็นคนที่ไม่มีศักยภาพในการทำเรื่องใหญ่ ๆ และหากพวกเขาเชื่ออย่างที่คนส่วนใหญ่เชื่อ พวกเขาก็ไม่มีวันได้ทำเรื่องใหญ่
คนเหล่านี้เป็นคนที่ฝันโง่ ๆ แต่ปฏิเสธที่จะคิดอย่างคนทั่วไปว่า มันเป็นไปไม่ได้
เจ็ดสิบห้าปีต่อมา นักปีนเขากลุ่มหนึ่งพบซากร่างของ จอร์จ มัลเลอรี กับเพื่อนใกล้ยอดเขาเอเวอเรสต์ ไม่มีใครรู้ว่า พวกเขาตายไประหว่างทางก่อนขึ้นไปถึงยอด หรือหลังลงจากเขา แต่มันไม่สำคัญ
บางทีสำหรับมัลเลอรี มันไม่สำคัญเลยที่จะเป็นคนแรก พวกเขาต้องปีนป่ายอยู่แล้ว "เพราะมันอยู่ที่นั่น"
พวกเขาเชื่อว่า ต่อให้เป็นฝันโง่ ๆ เพียงใด ก็ต้องทำให้สำเร็จ และราคาของความฝันโง่ ๆ นั้นคุ้มค่าเสมอ แม้ว่าต้องจ่ายด้วยความตาย
จุดแบ่งกั้นระหว่างความสำเร็จกับความล้มเหลวเป็นเส้นบาง ๆ เป็นสองด้านของเหรียญเดียวกัน
อย่างที่นักเขียนท่านหนึ่งกล่าวว่า "มนุษย์ตายได้ แต่พ่ายแพ้ไม่ได้"
.....................................................................................................................................
จากตอนหนึ่งของคำนำในหนังสือ "ความฝันโง่ ๆ" โดย วินทร์ เลียววาริณ ในชุดหนังสือเสริมกำลังใจ ชุด 2 ที่ผมได้มีโอกาสซื้อมาเมื่อวานนี้ (25 มี.ค. 52)
แล้วคุณล่ะ เคยมี "ความฝันโง่ ๆ " บ้างไหม ? ...
ห้ามถามผมย้อนกลับนะ ... ผมน่ะ มี "ความฝันโง่ ๆ" อยู่เสมอนั่นแหละ
ขอบคุณครับ :)
....................................................................................................................................
แหล่งอ้างอิง
วินทร์ เลียววาริณ. ความฝันโง่ ๆ. กรุงเทพฯ: 113, 2549.
winbookclub. http://www.winbookclub.com/basket_detail.php?id=85. (18 พ.ค.52).
ป.ล. ค้นหาภายหลังพบว่า คุณวินทร์ เลียววาริณ ได้นำบทความนี้ขึ้นเว็บไว้แล้ว ดังอ้างอิง ครับ
สวัสดีครับอาจารย์ ขออนุญาตมาเรียนรู้เรื่องราวดีทำให้มีกำลังใจ และขอขอบพระคุณที่กรุณาให้กำลังใจกับคุณพ่อสงวนใน"ปริญญาใบแรก.".ครับ
ยินดีและขอบคุณ คุณ หนุ่ม กร ให้แวะมาเยี่ยมเยือนบันทึกนี้ ครับ :)...
ขอบคุณนะคะที่แนะนำหนังสือดีๆ อีกเล่ม (อีกแล้ว)
คราวที่แล้วต้องไปหยิบ "อาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก" มาอ่าน ก็เพราะเข้ามาที่นี่
คราวนี้ก็อีกเช่นกัน...กำลังคิดว่าวันหยุดนี้จะไปสัปดาห์หนังสือ
แล้วจะซื้อเล่มนี้มาอ่านค่ะ...เสริมกำลังใจ...ที่กำลังลดลง.
thank you.
"ต่อให้เป็นฝันโง่ ๆ เพียงใด ก็ต้องทำให้สำเร็จ และราคาของความฝันโง่ ๆ นั้นคุ้มค่าเสมอ " ตอนนีกำลังอ่านหนังสือและทำตามฝันโง่ๆของตนเองอยู่ค่ะ
กำลังทำความเข้าใจครับ..
ขอคิดเร็วๆว่า ฝันเถอะฝัน จินตนาการทำให้โลกหมุน...
สวัสดีค่ะ...
เคยมีความฝันโง่ ๆ ค่ะ
เมื่อนึกย้อนไปยังขำตัวเองเหมือนกัน
..............................................
ชอบประโยคนี้ค่ะ...
"มนุษย์ตายได้ แต่พ่ายแพ้ไม่ได้"
ยินดีและขอบคุณมากครับ คุณ pis.ratana :)
"ความฝัน คือ ความมุ่งหวัง" ครับ คุณครู ทรายชล :)...
ขอบคุณครับ
"เวลาดูเร่งรัด เวลาดูเร่งรีบ แต่นั่นคือ เวลาที่ใช้ทำความฝัน ... มิใช่หรือครับ" คุณเอก จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร :)...
ดูแลสุขภาพครับ
"ความฝัน คือ ความสุขนะครับ ฉลาดมาก ฉลาดปานกลาง ฉลาดน้อย ไม่มีปัญหาใด ๆ ครับ" คุณ windy ... ขอบคุณนะครับ :)
สวัสดีค่ะท่านอาจารย์Wasawat Deemarn
ร่วมกันฝันให้ประเทศไทยสงบ ไม่แบ่งแยกสีเสื้อ เหลือแต่ สีตะวัน ก็พอนะครับ :)
สมหวังค่ะ...สมหวัง....
ขอบคุณครับ คุณ °o.O ปลายฟ้า O.o° :)...
เรื่องตื่นเต้นสำหรับตัวเองคิดว่าบีบ bubble air ก็โอเคแล้วค่ะ 555 จริงๆ ก็มีเหมือนกันคือชอบขับรถแข่ง เคยขับในสนามพีระเซอร์กิตแล้ว แต่อยากขับ formula one ของจริงค่ะ อิ อิ ชอบความเร็ว อยากลองเกือบทุกอย่างยกเว้นมอเตอร์ไซต์ รู้สึกว่าเสี่ยงตายไปหน่อย ที่อยากลองขับมากอีกอย่างคือรถ super car วิ่งทางตรงเรียบในทะเลทราย คงหนุกมาก
ความฝันที่บรรเจิดเปิดสะก๊าดน่าดูครับ คุณซูซาน Little Jazz :)..
…. อ่านแล้ว ทำให้มีใจอยากจะปลุก ความฝันโง่ๆ ของตัวเองอีกคราครั้งค่ะ
... ทั้งๆ ที่หลังจากประเมินอะไรหลายๆ อย่างแล้ว เริ่มเลือนลาง แบบต้องทำใจ ... J
… เป็นกำลังใจให้ กับ ทุกความฝัน ของอ.เสาเรือ ด้วยนะคะ ...
"เสาเรือ" เนี่ยนะ คุณ poo :) ... ขยันตั้งชื่อ อิ อิ
อะไรจะตรงแหน่วขนาดนั้น 555
ทำตามความฝันเถอะครับ ... เกิดมาชาติหนึ่งก็ตลุยเลย
เหนื่อยก็พัก หนักก็ผ่อน :)
ขอบคุณครับ