เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๒ ได้เดินทางไปร่วมปฎิบัติธรรมตามโครงการ รสพระธรรม – นำพ้นทุกข์ ขณะที่นั่งประจำรถบัสที่โดยสารไปปฎิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เจ้าหน้าที่ได้นำเอกสารมอบให้ผู้เข้าร่วมโครงการ
เอกสารดังกล่าวประกอบด้วยศีล ๘ ข้อ และความหมาย ข้อควรปฏิบัติในขณะที่ไปปฏิบัติธรรม วิธีทำสมาธิแบบง่าย ๆ คำแผ่เมตตา คำตั้งสัจจะอธิษฐาน คำขออโหสิกรรม และคติธรรม
คติธรรมในเอกสารดังกล่าว มีคติธรรมที่อ่านแล้วทำให้เข้าใจชีวิตมากขึ้น และสามารถนำมาพิจารณาประกอบการปฏิบัติตนไว้ดังนี้
อาหารกาย คือสสารที่ทานได้
อาหารใจ คืออารมณ์กลมกล่อมจิต
กิเลศ คืออารมณ์ที่เป็นพิษ
บั่นทอนกายและจิตเป็นพิษภัย
อารมณ์ดีใจย่อมดีมีความสุข
อารมณ์ทุกข์ใจย่อมหมองครองวิสัย
ยิ่งยามโกรธเกรี้ยวกราดอาฆาตใคร
ยิ่งโน้มนำจิตใจให้ต่ำลง
หากเมื่อใดใจต่ำถึงที่สุด
กิเลสรุดฉุดรั้งดังประสงค์
ถึงได้ชื่อว่ามนุษย์ก็สุดปลง
ด้วยจิตใจไม่สูงส่งดังพงศ์พันธ์
เมื่อจิตได้อารมณ์ที่ชมชื่น
ต้นไม้กลับฟื้นคืนสุขสันต์
เพียงสายน้ำหยาดหยดรดลงครัน
ทั่วกายใจย่อมผ่องพรรณดุจจันทร์เพ็ญ
คือสวรรค์เกิดในใจใช่แท้แล้ว
หากทำจิตให้ผ่องแผ้วแน่วแน่เห็น
ตัดละโมบ โกรธ หลง ปลงให้เป็น
กายร่มเย็นใจเป็นสุขทุกคืนวัน...
สวัสดีครับอาจารย์ หากจะกรุณาบันทึกการปฏิบัติฯที่วัดเพื่อเป็นวิทยาทานบ้าง ก็จะเป็นพระคุณอย่างสูง ครับผม
คุณศรีกมลคะ
ขอบคุณค่ะ..ที่เป็นกำลังใจมาให้โดยตลอด
เวลาสุขมีเพื่อนเวลาทุกข์ก็มีเพื่อน..ยิ้มปลิ้มค่ะ
อารมณ์ดีใจย่อมดีมีความสุข
อารมณ์ทุกข์ใจย่อมหมองครองวิสัย
ยิ่งยามโกรธเกรี้ยวกราดอาฆาตใคร
ยิ่งโน้มนำจิตใจให้ต่ำลง
ขอบคุณนะคะ
ขอขอบคุณสำหรับเนื้อหาดีๆที่นำมาฝากค่ะ ความสุขทางใจนี้สำคัญมากจริงๆค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ขอแบ่งบุญกับอาจารย์นะคะ
บางครั้งทำดี ก็ยังมีคนไม่ชอบเรา
เป็นเพราะ ครั้งอดีต เรามีอะไรไม่ดีใช่ไหมคะ...
เจริญพร โยมศรีกมล
วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี อาตมาไปกับเพื่อนสหธรรมิกครั้งหนึ่ง
เมื่อปี 2543 ช่วงนั้นมีคณะต่างๆมาปฏิบัติธรรมเยอะ
เจริญพร
สวัสดีค่ะ
"อารมณ์ดีใจย่อมดีมีความสุข
อารมณ์ทุกข์ใจย่อมหมองครองวิสัย
ยิ่งยามโกรธเกรี้ยวกราดอาฆาตใคร
ยิ่งโน้มนำจิตใจให้ต่ำลง"
อ่านแล้วได้ข้อคิดที่ว่าเป็ฯธรรมดาที่มนุษย์เรามีอารมณ์...แต่ไม่ต้องนำออกมาใช้ทุกอารมณ์....
ขอบคุณสำหรับข้อคิดค่ะ
สวัสดีค่ะ