ครอบครัวมุสลิม


การศึกษา ศาสนา ครอบครัวมุสลิม

อัสลามมูอาลัยกุมวาเราะห์มาตุลลอฮีวาบารอกาตุฮ์

 

พี่น้องที่รักทุกท่าน

     บุตรหลานของเราทั้งหลาย ไม่ว่าหญิงหรือชาย ถือเป็นทรัพย์สินอันล้ำค่าที่สุด เหนือกว่าทรัพย์สินอื่นใดที่อัลลอฮ์ได้ประทานให้เรามา และเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ในการสืบทอดและเกิดผลพวงถึง พ่อ- แม่ ตลอดไปจนกระทั่งถึงโลกอาคีเราะห์

    ในเมื่อบุตรหลาน เป็นผลผลิตของเรา ที่อัลลอฮ์ให้กำเนิดผ่านผู้เป็นพ่อ- แม่ มา และให้เป็น(อามานะฮ์)ของฝากจากพระเจ้าให้กับ พ่อ- แม่ได้ทำหน้าที่ดูแลทั้งทางด้านร่างกาย และจิตใจ ให้เป็นบ่าวของอัลลอฮ์ ที่ถูกต้องสมบูรณ์ตามหลักการศาสนา ในการยึดมั่นศรัทธาและการปฏิบัติอย่างเช่น  ต้องฝึกควบคุมให้ปฏิบัติการละหมาด ตั้งแต่อายุ 7  ขวบ  ถึง 9  ขวบ และเมื่อครบ  10  ขวบ  จะต้องปฏิบัติให้ถูกต้องและครบถ้วนจริงๆ และยังกำหนดให้ลงโทษ หากยังไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนดังกล่าวเป็นต้น

        ท่านพี่นัองมุสลิมที่เคารพรัก ที่ถูกต้องตามหลักการศาสนามากและสมบูรณ์ยิ่ง คือจะต้องให้บุตรหลานได้เรียนควบคู่ตั้งแต่เริ่มต้น ( อนุบาล ) เสียอีก แต่เนื่องจากใกล้บ้านเรายังไม่พร้อม เมื่อเรียนจบ ป. 6 แล้ว เราก็ต้องรีบให้เรียน ม. 1 ควบคู่ศาสนาทันทีก่อนที่จะสายเกินไป เพราะถ้าปล่อยเลยไปจากนั้นอีก ก็เท่ากับว่า เราผู้ปกครองไม่ได้สนใจ ไม่ได้ตระหนัก ไม่ได้เห็นความสำคัญของศาสนา  ไม่ได้มุ่งมั่นที่จะให้บุตรหลานของเราได้เข้าใจ และรับรู้หลักการศาสนาอย่างสมบูรณ์ครบถ้วน เพื่อพวกเขาจะได้ยึดมั่นศรัทธาและปฏิบัติตนให้ถูกต้อง ครบถ้วนอย่างแท้จริงได้

        พี่น้องที่รักทั้งหลาย การที่เราจะให้บุตรหลานของเรา ได้เกิดการเลื่อมใสและยึดมั่น ต่อหลักการศาสนาอย่างหนักแน่น และมั่นคงได้อย่างสอดคล้องกันนั้น จำเป็นจะต้องให้ประสานกันในทุกๆ ด้าน ไปพร้อม ๆกัน โดยเริ่มจากการเรียนรู้ ที่ถูกต้องอย่างเป็นขั้นตอน และต่อเนื่อง พร้อมกับการฝึกปฏิบัติที่มีแบบอย่าง มีผู้นำปฏิบัติอย่างชัดเจน รวมถึงการแต่งกาย ตามหลักศาสนาอย่างถูกต้อง พร้อมทั้งบรรยากาศและสภาพแวดล้อมแต่ละวันที่จะคอยเกื้อหนุน ส่งเสริมและควบคุมพร้อมๆกันไปในสถานศึกษา ต่างๆ ดังกล่าวนี้ จะมีที่ไหนไม่ได้อย่างแน่นอน นอกจากในโรงเรียนหรือสถาบันที่สอนศาสนาควบคู่เท่านั้น

       ท่านที่รักทั้งหลาย หากเรา ท่านทั้งหลายได้ละเลยจุดนี้ไป เราก็ไม่อาจจะปฏิเสธ หรือปัดความรับผิดชอบ ต่อผลกรรมที่ผิดหลักการศาสนา ที่ลูกหลานของเราไปประพฤติปฏิบัติได้ กล่าวคือ เราต้องรับ ผลดี-ผลร้าย หรือผลบุญและบาปจากการกระทำของลูก-หลานเราด้วย เพราะลูก-หลานเหล่านั้นเป็นผลผลิตของเราแต่ละคน ดังกล่าวมาข้างต้นหากเรา ทุกคนไม่ได้บริหารจัดการกับผลผลิตของเรา ที่อัลลอฮ์ฝากไว้ให้เราจัดการบริหาร เป็นไปตามที่อัลลอฮ์ทรงกำหนดไว้ นี้คือ สัจธรรมแห่งอัลลอฮ์เจ้า

                                              อย่าลืม! อย่าหลง !อย่าละเลย ! นะครับ !

หมายเลขบันทึก: 250500เขียนเมื่อ 24 มีนาคม 2009 13:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 20:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สลามค่ะ

เห็นด้วยกับสังคมปัจจุบันนี้ละเลยต่อหน้าที่ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่แต่ไม่ค่อยมีใครเห็นความสำคัญ ไม่คิดถึงโทษทัณฑ์ที่จะตามมาภายหลัง น่าเห็นใจบุคคลเหล่านี้จริงๆ ไม่ต้องพูดถึงบุคคลอื่นเลยขนาดพี่น้องบุคคลใกล้ชิดก็ยังเป็นแบบนี้ พอพูดไปเขาก็ตอบกลับมาว่า "อยากทำก็ทำไปซิไม่ต้องมาว่าคนอื่นเขา....." คิดแล้วน่าน้อยใจที่เราไม่สามารถทำให้เขาเห็นความสำคัญของศาสนาได้ อินชาอัลลอฮ์ สักวันหนึ่งถ้าไม่ตายจากกันไปเสียก่อน อัลลอฮ์คงดลใจให้เขากลับตัวกลับใจได้ อามีน อยากให้มุสลิมทุกคนประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีไม่อยากให้ใครมองศาสนาในแง่ลบ (อัลลอฮูอักบัร อัลลอฮ์ทรงยิ่งใหญ่)

สลามครับ...แวะมาเรียนรู้ครับ และดีใจที่ได้เห็นผู้บริหารมีวิสัยทัศน์อีกท่านนึงครับ ขอชื่นชมกับบทความที่เขียนครับ(ขออัลลอฮฺทรงตอบแทนครับ) มีโอกาสคงได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันครับ ในฐานะคนบ้านเดียวกัน (นคร)ด้วยสลามและดุอาอฺ ครับ

แวะมาเรียนรู้ค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท