วันนี้นั่งอ่านบันทึกใน G2K เห็นมาการสุนทรียสนทนาเกี่ยวกับ Learning Organization ผมจึงสงสัยว่า เอ! แล้วตัวผมเองเข้าใจ LO ว่าอย่างไรบ้าง ? จึงนำมาเขียนเป็นบันทึกนี้ครับ
- ------------ ในทางทฤษฏี
- ผมเข้าใจว่า LO เป็นการพัฒนาองค์กรให้เสมือนว่ามีชีวิต และสามารถเรียนรู้ ได้ปรับตัวได้ เมื่อสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไป
- การจะทำเช่นนั้นได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องพัฒนา คือ "คน" ในองค์กร คือ พัฒนาคนให้มีความสามารถที่จะเรียนรู้และปรับตัวได้เร็ว และสามารถทำงานเป็นทีมแบบเสริมกันและกันได้ คล้ายเป็นก้นหอยขาขึ้น ไม่ใช่ก้นหอยขาลง
- การจะทำเช่นนั้นได้ "ระบบงาน" ในองค์กรต้องเอื้อให้คนสามารถพัฒนาตนเองได้ มีระบบและกลไกที่ให้คนสามารถสื่อสารแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อการพัฒนาได้
- ----------------------------- ในทางปฏิบัติ
- นั่นเป็นเชิงทฤษฎี (ในฝัน) แต่ในความเป็นจริง องค์กรแต่ละองค์กรหรือแม้แต่คนละคนในองค์กรก็อยู่ภายใต้กฏของบัวสี่เหล่า คือ มีความรู้ ความสามารถในการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน และต่างก็มีอวิชชาเป็นแดนเกิด จึงทำให้วิ่งไล่ตามกิเลสตัณหามาชั่วกัปชั่วกันด้วยกันทั้งนั้น
- ในโลกแห่งความเป็นจริง แม้แต่เบอร์ ๑ ขององค์กร และเบอร์รอง ๆ ลงมา จนถึงระดับรากหญ้าก็มีความรู้ความเข้าใจให้ความสำคัญและเห็นประโยชน์ของ LO & KM ในระดับที่แตกต่างกันไป บางองค์กรถึงขนาดว่า ยังไม่เห็นเป้ายังไม่เห็นว่าจะไปที่ไหนอย่างไรก็มี ถ้าองค์กรใดโชคดี ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน เห็นประโยชน์ ประกอบกับได้ผู้รู้ที่ดีที่เก่งให้การชี้แนะแนวทางแล้ว ก็สามารถไปได้โลด
- อย่างสามก๊ก ก็ชี้ชัดให้เห็นแล้วว่า แม้แต่ขงเบ้งผู้หยั่งรู้ฟ้า รู้ดิน ก็ยังต้องตายในสนามรบ เพราะการทำงานให้สำเร็จได้ด้วยคนคนเดียวที่สมบูรณ์พร้อมนั้น เป็นไปได้ยาก
- -------- บ่นอยู่ได้แล้วจะให้ทำอย่างไรดีล่ะ
- ขอคิดนาน ๆ หน่อยครับ ตอนนี้คิดไม่ออก เข้าใจแต่ว่ามันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ที่อะไรก็ได้ แต่ก็ใช่ว่าทำเล็ก ๆ แล้วจะไม่ได้อะไร ได้อยู่เหมือนกันครับ แต่มันไม่พลิกแผ่นดิน